พลังอันสูงสุดแห่งพระเจ้าดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาล(The maximum power of maximum sun of universe God)...

สุดยอดวิทยาศาสตร์ทางจิตเคล็ดลับวิธีการสร้างพลังใจสร้างความสำเร็จทางใจของเราให้สูงสุดด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุด ด้วยความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้า เพื่อการมีความสุขอย่างสูงสุดในทุกๆด้านของเราในโลกนี้จักรวาลนี้...

"โดยแท้จริงสูงสุดแล้วจักรวาลทัังหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิงนอกจากพระเจ้าอันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้านั้น, นอกจากพระเจ้าอันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้านั้นแล้วก็มิได้มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้จักรวาลนี้ที่สามารถมีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่ได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว..."

"คุณกำลังต้องการที่จะมีความสุขอย่างที่สุด(ที่รู้สึกสุขอย่างสูงสุดจนสามารถลืมความทุกข์ทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิง)อยู่ใช่ไหม?เราอาจมีคำตอบที่ดีที่สุดให้คุณ..."

"ความสุขความสำเร็จคือพลังใจ ยิ่งมีความสุขความสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังใจมากเท่านั้น, จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถ ผลิตสร้างพลังใจความสำเร็จทางใจ(generate heart power) ของเรา หรือ ผลิตสร้างความสุขของเราได้อย่างสูงสุดด้วยตัวเราเองล้วนๆเท่านั้น, โดยเราสามารถเลือกที่จะผลิตสร้างความสุขระดับสูงสุดที่เราสามารถรู้สึกสุขอย่างสูงสุดได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆจากภายในที่ลึกที่สุดของหัวใจ(อันเป็นเป็นจิตใจจิตวิญญาณ)ของตัวเราเองได้โดยตรงอย่างง่ายๆไม่ยุ่งยากไม่ต้องออกแรงมาก-รวดเร็วทันทีทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการ-ได้แบบฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ต้องเสียเงิน, ซึ่งจะทำให้เราสามารถ มีพลังใจมีความสำเร็จทางใจสูงสุด(maximum heart power) ที่เราจะสามารถรู้สึกสุขได้อย่างสูงสุดได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุดใน โลกหน้าจักรวาลหน้า(next world next universe) อันเป็นโลกใหม่จักรวาลใหม่หลังความตายที่เรายังไม่คุ้นเคยที่จะเป็น โลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุด(worlduniverse of maximum oneness) ที่จะเป็น เป้าหมายสูงสุด(maximum goal) สำหรับเรานั้นโดยไม่ต้องขึ้นกับใครอะไรสิ่งใดใน โลกนี้ในจักรวาลนีั(this world this universe) อันเป็นโลกเก่าจักรวาลเก่าที่เราคุ้นเคยที่เรากำลังมีชีวิตอยู่ทุกวันนั้นอย่างสิ้นเชิง(จึงไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนีัในจักรวาลนี้สามารถเป็นอุปสรรคกีดขวาง-ต่อต้าน-ทำลายความสุขอย่างสูงสุดที่เราสามารถผลิตสร้างขึ้นมานี้ได้เลยอย่างสิ้นเชิงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม จึงเหมือนกับว่าเรามีความสุขอย่างสุดขีดจนลืมโลกนี้ลืมจักรวาลนี้จนไม่สนใจอยากมีความรู้สึกใดๆกับใครอะไรสิ่งใดอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงแม้แต่จะคิด), โดยที่เราสามารถค่อยๆสะสมความสุขอย่างสูงสุดนี้มากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ จนสามารถทำให้ความสุขสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเรานั้นสามารถกลายเป็นความสุขก้อนใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่สามารถล้นแผ่ซ่านส่องแสงความสุขไปยังภายนอกมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ ที่จะทำให้เราสามารถค่อยๆมีสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราที่มีความสุขเพิ่มมากขึันเรื่อยๆทุกวันๆ, ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราสามารถค่อยๆมีความสุขสดใสอ่อนเยาว์แข็งแรงเป็นหนุ่มมีพลังแบบ เด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่(new generation teenage) และ ทำให้ชีวิตของเราสามารถค่อยๆมีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์มีเงินทองมากมายมหาศาลเป็นล้านๆแบบ ราชามหาเศรษฐี(billionaire king) เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆตามไปด้วยเองอัตโนมัติได้จนถึงขีดสุดในที่สุด, โดยไม่เราต้องกลัวว่าเราอาจจะต้องกลับมาสุขภาพร่างกายแย่แก่ชราหม่นหมองไร้เรี่ยวแรง และ มีคุณภาพชีวิตแย่ทุกข์ยากจนลำบากขาดแคลนเหมือนเดิมได้อีกต่อไป เพราะสุขภาพร่างกายที่ดีที่สุด และ ชีวิตที่ดีที่สุดจะมาจากความสุขที่ดีที่สุดอันเป็นความสุขอย่างสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของเราที่เราสามารถผลิตสร้างมันขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ-รวดเร็วทันที-ฟรีนั้นนั่นเอง, เราจึงสามารถไม่ต้องกลัวแก่ กลัวจนแบบมนุษย์คนทั่วไปอีกต่อไป เพราะด้วยความสุขสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเราเองนั้นย่อมสามารถทำให้เราไม่เจ็บไม่ต้องทุกข์เจ็บปวดทรมานได้สูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุด เราจึงสามารถมีความสุขได้อย่างสูงสุดจนสามารถวิวัฒนาการกลายเป็น เทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์(high level angel) อันเป็นมนุษย์ทิพย์มนุษย์วิเศษที่เป็นพรหมเทวดาชั้นสูงที่สามารถ เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้(forever young and maximum long life) ที่จะไม่ต้องมีร่างกายแย่ๆแก่ชราร่างกายเสื่อมสภาพเจ็บป่วย และ ไม่ต้องจนไม่ต้องตายต้องเกิดมีชีวิตแย่ๆต้องวนเวียนขาดทุนล้มละลายทางชีวิตต้องรู้สึกว่าตายสูญเสียหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิตอยู่ร่ำไปได้ถึงขีดสุดในที่สุดแน่นอน, ที่จะ ไม่มีคำว่าแก่ และ จนสำหรับเราอีกต่อไปตลอดกาล!!!..."

หากคุณต้องการที่จะเป็นแบบนี้ที่กล้าที่จะแตกต่างไปจากมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ที่หลงติดแต่ความสุขมายาภายนอกที่โง่เขลาสมัครใจชอบจะแก่ และ จนวนเวียนซ้ำๆเหมือนเดิมตามๆกันไปอยู่อย่างนั้น, ที่คุณฉลาดเลือกที่จะต้องการที่จะสามารถมีพลังใจสูงสุดมีความสุขอย่างที่สุดด้วยตัวคุณเองล้วนๆอย่างสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดได้อย่างง่ายๆ-รวดเร็วทันที-ฟรี จนทำให้เราสามารถกลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่จะไม่มีคำว่าแก่ และ จนสำหรับตัวคุณอีกต่อไปตลอดกาลในที่สุดแล้ว เรามีสุดยอดเคล็ดลับวิธีการสร้างพลังใจอย่างสูงสุดในรูปของการดูแลสุขภาพ และ ความงามแนวใหม่ที่สามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีที่สุดมาแนะนำคุณ เพื่อให้คุณสามารถพบกับ ความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุข(super happiness) อันเป็น ความสุขที่แท้จริงสูงสุด(maximum real happiness) ที่เป็นความสุขของจริงที่สุดที่สุขอย่างสุดขีดสูงสุดตลอดกาลจากภายในที่ลึกที่สุดของหัวใจของตัวคุณเองด้วยตัวคุณเองล้วนๆอย่างสูงสุด อันเป็น ความสุขทางใจภายในระดับที่ลึกที่สุด(maximum deep level of inside heart happiness) ที่ใจมีอารมณ์ความรู้สึกที่สุขใจล้วนๆอย่างสูงสุดโดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขผลประโยชน์ไม่ขึ้นกับใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิง, ที่จะเป็น ความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุด(maximum spirit happiness) ที่สุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่มีแต่ความสุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิง, ที่จะสามารถส่งผลนำพาทำให้คุณสามารถมีชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้ที่มีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ได้ในทุกๆด้านจนถึงขีดสุดในที่สุดโดยที่คุณจะสามารถรวยได้อย่างสูงสุดโดยไม่จำเป็นต้องตกเป็นทาสของเงิน-ต้องยอมทำงาน-เพื่อเงินยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินอีกต่อไปเองอัตโนมัติ...

โยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะ(super yoga) เป็นสุดยอดเคล็ดลับในรูปของ ทฤษฏีสมคบคิด(conspriracy theory) เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ทางจิต(science of conciousness) ของเคล็ดลับวิธีการสร้างพลังใจอย่างสูงสุดให้เราสามารถสุขใจได้อย่างสูงสุดในรูปของดูแลสุขภาพ และ ความงามแบบองค์รวมที่ดีที่สุด ที่มุ่งสนใจการดูแลสุขภาพจิตเป็นหลักที่จะพยายามให้จิตของเราสามารถมีความรู้สึกว่าเรากำลังมีความสุขในระดับสูงสุดอย่างมากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัดสิ้นเชิงในโลกหน้าจักรวาลหน้า, อันเป็นความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุข หรือ ความสุขที่แท้จริงสูงสุดที่สุขสูงสุดด้วยตัวเองล้วนๆอย่างแท้จริงสูงสุดที่อยู่เหนือมายาความรู้สึกสุข-ทุกข์ของเราที่ขึ้นกับมายาเงื่อนไขผลประโยชน์นั้นให้ได้อย่างเต็มที่สูงสุด, ที่จะส่งผลทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเราในโลกนี้ในจักรวาลนี้สามารถค่อยๆมีความสุขอย่างสูงสุดได้อย่างมากมายมหาศาลได้อย่างสมบูรณ์สูงสุดในทุกๆด้านทั้งทาง ใจอารมณ์ความรู้สึก(feeling of heart)-จิต(mind)-ร่างกาย(body)-ชีวิต(life) อย่างพร้อมกันสูงสุดหนึ่งเดียวกันไม่แบ่งแยกขัดแย้งกัน โดยจะเป็นการใช้พลังสูงสุดจาก พระเจ้า(God) อันเป็น สิ่งที่มีความสุขสูงสุด(maximum happiness thing) ที่มีแต่ความสุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิง ที่จะเป็นตัวความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขในโลกหน้าจักรวาลหน้านั้นในรูปของ พลังจักรวาลระดับสูงสุด(maximum level of cosmic power) ของ ความรักแท้จักรวาลสูงสุด(ultimate universe real love) ที่จะเป็นพลังสูงสุดจากพระเจ้าล้วนๆโดยตรงโดยไม่ใช้พลังใดๆจากมนุษย์เลยอย่างสิ้นเชิง...

ซึ่งสุดยอดเคล็ดลับนี้จะเหมาะสมคู่ควรกับ"ใครก็ได้" ที่ปรารถนาต้องการอยากเป็น นักวิทยาศาสตร์ทางจิต(conciousness scientist) ที่มีชีวิตที่สนุกสบายหรูหราไฮโซทันสมัยแบบคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ที่มีความเป็น มนุษย์อัจฉริยะ(genius human) ที่มีพลังจิตที่เฉลียวฉลาดมีไหวพริบรู้ทันโลกรู้ทันจักรวาลเข้าใจโลกเข้าใจจักรวาลอย่างถ่องแท้มีสติปัญญามีความรู้มีการศึกษาความรู้เกี่ยวกับตัวเรา-โลก-จักรวาลในระดับสูงกว่ามนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคนี้ ที่ ต้องการเตรียมความพร้อมที่จะวิวัฒนาการเป็นแบบมนุษย์ต่างดาวที่สามารถมีทั้งพลังจิตสูงสุด และ พลังร่างกายสูงสุดพร้อมกันในยุคอนาคต, ที่จะชอบเล่นโยคะ และ เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตประจำวันอยู่ทุกวันๆใน ตึกสูงระฟ้าในมหานคร(skyscraper in metropolis), ที่ต้องการมีชีวิตที่จะไม่มีคำว่าแก่ และ จนอีกต่อไปตลอดกาล, จึงสนใจใช้ชีวิตเดินบน ทางสายกลาง(middle way) ระหว่าง ทางธรรม(hermit way) อันเป็นทางของระบบสังคมพระนักบวชที่เป็นคนดีคนมีสติที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใน วัด(temple) ที่มุ่งสนใจการหมดสิ้นกิเลสตัณหาด้วย การรู้แจ้ง(enlightenment) การตื่นรู้มีสติทางจิตรู้แจ้งเห็นจริงว่าโลกหน้าจักรวาลหน้าหลังความตายเป็นความสุขนิรันดร์มั่นคงถาวรตลอดกาล, จึงฉลาดรู้แจ้งเห็นแจ้งมีปัญญา มองโลกนี้จักรวาลนี้ตามความเป็นจริง(realistic) คือ มองว่าเป็น ความว่าง(nothingness) ที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยขาดสูญไม่ต่อเนื่องดับสูญไม่มีอยู่เลย, จึงทำให้ มองโลกนี้จักรวาลนี้ในแง่ร้าย(pessimistic) เป็นความทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายที่ไม่เที่ยงแท้ถาวรต้องค่อยๆสูญสลายหายไปเป็นความว่าง ที่ต้องหลงผิดโง่เขลาถูกลวงหลอกให้ทนเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ จึงเป็นภัยอันตรายที่ล้วนนำไปสู่ความตายไม่ว่าจะสุข หรือ ทุกข์ก็ตามจึงเป็นโลกเป็นจักรวาลที่ไม่น่าอยู่, จึงรู้แจ้งเห็นว่าถ้าอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้ก็จะมีแต่เสียกับเสีย มีแต่ทุกข์กับทุกข์จนต้องตายในที่สุด แต่ถ้าอยู่โลกหน้าจักรวาลหน้าก็จะมีแต่ได้กับได้ มีแต่สุขกับสุขที่เป็นอมตะนิรันดร์ตลอดกาล, จึงอยากบรรลุธรรมหลุดพ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จักรวาลนี้, จึงมุ่งทรมานกามพ้นทุกข์ในวัดต้องการหนีพ้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคมมนุษย์ทางโลก ที่จะสนใจการมีชีวิตที่มีความสุขแต่ในโลกหน้าจักรวาลหน้าหลังความตายโดดเด่นจึงใช้ชีวิตแบบเหมือนคนที่ตายไปแล้วที่ไม่กลัวความตายอีกต่อไป และ ทางโลก(family way) อันเป็นทางของระบบสังคมครอบครัวของปุถุชนพ่อแม่ลูกที่เป็นคนชั่วคนเสียสติที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใน บ้านเรือน(home) ที่มุ่งสนใจการมัวเมาในกิเลสตัณหาด้วย อวิชชาความไม่รู้(ignorance) จึงโง่เขลาไม่รู้ว่าโลกหน้าจักรวาลหน้าเป็นความสุขนิรันดร์มั่นคงถาวรตลอดกาล จึงหลงผิดมองว่าโลกหน้าจักรวาลหน้าหลังความตายเป็นความทุกข์, จึงหลงผิดเข้าใจผิดมองโลกนี้จักรวาลนี้ผิดจากความเป็นจริง คือ ไม่สามารถมองเห็นว่าโลกนี้จักรวาลนี้เป็นเพียงความว่างที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยขาดสูญไม่ต่อเนื่องดับสูญไม่มีอยู่เลยได้ จึงหลงผิดเข้าใจผิดมองเป็นความเกิดขึ้นมีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่แทน, จึงทำให้หลงผิดเข้าใจผิดเห็นว่าถ้าอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้ก็จะมีชีวิตอยู่ที่จะมีแต่ได้กับได้ มีแต่สุขกับสุข แต่ถ้าอยู่โลกหน้าจักรวาลหน้าก็จะต้องตายไม่มีชีวิตอยู่ที่มีแต่เสียกับเสีย มีแต่ทุกข์กับทุกข์, จึงพยายาม มองโลกนี้จักรวาลนี้ในแง่ดี(optimistic) มองโลกนี้จักรวาลนี้เป็นความสุขโลกสวยน่าอยู่อย่างมีความสุขอย่างมั่นคงยาวนานตลอดไป จึงอยากมีความรักอยากมีแฟนคนรักอยากมีครอบครัวอยากสร้างสังคมเผ่าพันธุ์ที่มีแต่ความสุข อยากรู้สึกมีความสุขเป็นหนุ่มเป็นสาวมีอายุยืนยาวให้นานเท่านาน, จึงมุ่งบูชากามได้สุขติดสุขในบ้านเรือนต้องการยุ่งเกี่ยวอยู่ในสังคมมนุษย์ทางโลก ที่จะสนใจการมีชีวิตอยู่ดำรงอยู่ที่มีความสุขแต่ในโลกนี้จักรวาลนี้โดดเด่น จึงใช้ชีวิตแบบเหมือนคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ที่รักตัวกลัวตายไม่อยากตายนั้น....

ที่จะเป็นคนหัวสมัยใหม่ที่ต้องการเป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบสูงสุด(maximum perfect human) อันเป็นมนุษย์ที่สามารถเป็นกลางปกติสมดุลได้อย่างสูงสุดที่สามารถมีพลังจิตสูงสุด และ พลังร่างกายสูงสุดพร้อมกันแบบมนุษย์ต่างดาวในยุคอนาคตได้โดยการใช้ชีวิตเดินทางสายกลางระหว่างทางธรรมของคนดีคนมีสติ และ ทางโลกของคนชั่วคนเสียสติ, จึงเชื่อในพระเจ้าโดยไม่ขึ้นกับพระเจ้าในศาสนาลัทธิความเชื่อใดๆในโลก ที่มีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกลต้องการมีชีวิตใหม่ที่มีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านแบบมหาเศรษฐีระดับโลกระดับจักรวาลใน ยุคพลังงานใหม่(new energy age) อันเป็นยุคใหม่ยุคต่อไปในอนาคตของมนุษย์ชาติที่มนุษย์จะวิวัฒนาการใหม่จนสามารถมีทั้งพลังจิต(จิตวิญญาณ)สูงสุดที่สามารถมีความสุขในโลกหน้าจักรวาลหน้าสูงสุด และ พลังร่างกาย(ร่างกายวัตถุสสาร)สูงสุดที่สามารถมีความสุขในโลกนีัจักรวาลนี้สูงสุดพร้อมกันได้, อันเป็นยุคแห่ง อาณาจักรสวรรค์ของพระเจ้า(heaven kingdom of God) ที่เป็นยุคทอง-ยุคศิวิไลซ์-ยุคแห่งสันติสุขในตำนานที่จะไม่มีทางธรรมของคนดีคนมีสติ และ ทางโลกของคนชั่วคนเสียสติที่เป็นสงครามการแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันแบบในยุคนี้อีกต่อไปนั้น, ซึ่งในยุคพลังงานใหม่นี้เงินจะไม่มีค่าไม่มีความหมายไม่มีใครยอมทำงานเพื่อเงินอีกต่อไป เพราะทุกอย่างในชีวิตของเราจะฟรีทั้งหมดเป็นพลังงานฟรีๆทั้งหมด โดยทุกคนจะสามารถมีชีวิตที่มีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ได้อย่างฟรีๆอย่างยุติธรรมเหมือนกันเท่าเทียมกันหมดไม่มีใครต้องทุกข์ลำบากยากจนขัดสนเงินทองอีกต่อไป, จึงทำให้ผู้คนในยุคพลังงานใหม่นี้หันมาเคารพบูชาคนที่มีพลังจิตสูงสุดโดยไม่ขัดแย้งกับการมีพลังทางร่างกายสูงสุดที่จะสามารถทำให้มีความสุขในทุกๆด้านอย่างสูงสุดนั้นแทน, ซึ่งคนรุ่นใหม่นี้จะมีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกลเชื่อว่ายุคเก่ายุคพลังงานเก่าของมนุษย์อันเป็นกลียุคที่เป็นยุคของ คนบาป(sin human) ของพระเจ้าอันเป็น คนชั่วของพระเจ้า(bad human of God) ที่จะเป็นมารสัตว์นรกที่สกปรกด้วย บาปกำเนิด(origin sin) อันเป็นบาปความชั่วร้ายต้นกำเนิดที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิดที่จะทำให้มนุษย์ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายต้องเป็นคนสารเลวชาติชั่วสมควรตายสำหรับพระเจ้า ที่บังอาจกล้าทรยศพระเจ้าด้วยความหลงผิดถูกหลอกให้แยกตัวเองออกมาจากพระเจ้า-หลงลืมไม่สนใจพระเจ้า-รักเทิดทูนเคารพบูชาสิ่งอื่นมากกว่าพระเจ้า ที่จะทำให้หลงผิดหลอกกันไปหลอกกันมาสร้างสงครามความแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันของเพศวัยเชื้อชาติภาษาดวงดาวไปเรื่อยๆ จนทำให้ต้องสร้างสงครามความแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันในการใช้ชีวิตระหว่างทางธรรม และ ทางโลกขึ้นมาจนกลายเป็นมนุษย์ที่สุดโต่งผิดปกติเสียสมดุลที่สร้างความเสียสมดุลแบ่งแยกแตกต่างด้วยความเกลียดชังไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุดนั้น, จึงทำให้ยุคปัจจุบันนี้มนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ที่เป็นฝ่ายทางโลกล้วนเป็นคนบาปมีสุขภาพจิตแย่จิตขาดความสุขขาดพลัง จิตใจจิตวิญญาณอ่อนแอตกต่ำทำตัวต่ำๆเป็นสัตว์ตกเป็นทาสกิเลสตัณหาตกเป็นทาสความสุขความงามทางวัตถุทางร่างกาย จึงบูชาเงินยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินจึงทำให้มีแต่ข่าวข่มขืนปล้นจี้วิ่งราวชิงทรัพย์ทะเลาะรบราฆ่าฟันกันเพราะเงินเพราะร่างกายเพราะวัตถุอยู่ทุกวันๆนี้โดยที่มีฝ่ายทางธรรมเป็นตัวสร้างความแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันของพระอริยะเจ้าผู้ปราศจากกิเลสตัณหา กับ ปุถุชนผู้มัวเมาในกิเลสตัณหาขึ้นมานั้นกำลังใกล้จะสิ้นยุคลงในไม่ช้านี้แน่นอน, โดยจะเกิดการเปลี่ยนยุคแบบวิวัฒนาการก้าวกระโดดสู่ยุคพลังงานใหม่อันเป็นยุคของ คนมีบุญ(merit human) อันเป็น คนดีของพระเจ้า(good human of God) ที่จะเป็นเทพสวรรค์ที่สว่างด้วยบุญความสุขของพระเจ้า ที่จะเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่มีบุญญาบารมีของพระเจ้านั้นอย่างรวดเร็วมากโดยที่อารยธรรมในยุคพลังงานเก่าของคนบาปของพระเจ้าทั้งหมดจะถูกทำลายล้างทิ้งไปทั้งหมดอย่างไม่เหลือซาก ซึ่งจะเป็นการสูญพันธุ์หมู่ของมนุษย์คนบาปยุคพลังงานเก่าอย่างโหดเหี้ยมน่าสยดสยองน่าสะพรึงกลัวที่สุดเช่นเดียวกับการสูญพันธุ์ของยุคไดโนเสาร์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เพราะทุกอย่างในยุคพลังงานเก่านี้ล้วนขัดแย้งกับยุคพลังงานใหม่ทั้งหมด, จึงทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกลเข้าใจถึงการเปลี่ยนยุคสิ้นยุคที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงฉลาดจึงเลือกมีสติไม่ประมาทหันมาใช้ชีวิตแบบเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคใหม่ยุคพลังงานใหม่ในอนาคตอย่างเต็มที่(เหมือนกับว่าเรารู้สึกว่าเรากำลังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กำลังอยู่ท่ามกลางยุคไดโนเสาร์ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ใกล้สิ้นยุคนั้น ซึ่งเราจะกลายเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถรอดจากการสิ้นยุคของไดโนเสาร์แล้วมาวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ในยุคถัดไปอันเป็นยุคมนุษย์แบบทุกวันนี้นั้น, แต่เราจะเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่สามารถรอดพ้นจากการสิ้นยุคของมนุษย์คนบาปของพระเจ้ายุคพลังงานเก่า เพื่อสามารถวิวัฒนาการไปสู่การเป็นมนุษย์ต่างดาวคนมีบุญของพระเจ้าในยุคพลังงานใหม่ในอนาคตแทน)...

เนื่องจากหากว่าเราต้องการเดินบนทางสายกลางที่ลงตัวพอเหมาะพอดีเป็นกลางปกติสมดุลระหว่างทางธรรมของคนดีคนมีสติที่รู้สึกสุดโต่งตึงไป และ ทางโลกคนชั่วคนเสียสติที่รู้สึกสุดโต่งหย่อนไป ที่จะทำให้เราสามารถกลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่สามารถเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้ที่อยู่เหนือพระนักบวชคนดีคนมีสติที่ปราศจากกิเลสตัณหาในทางธรรม และ ปุถุชนคนชั่วคนเสียสติที่มัวเมาในกิเลสตัณหาในทางโลกได้นั้นหมายความว่าเราจะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่มีความแน่วแน่มั่นใจอย่างสูงสุดในการตัดสินใจเลือกที่จะเดินบนทางทางนี้โดยไม่มีทางโลเลเปลี่ยนใจได้อย่างเด็ดขาด, เพราะเราจะเข้าใจว่า ในยุคพลังงานเก่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่คนฉลาด(เทพสวรรค์คนมีบุญคนดีของพระเจ้า)มักมีน้อยแค่ 0.01% แต่คนโง่เขลา(มารสัตว์นรกคนบาปคนชั่วของพระเจ้า)มักมีเยอะถึง 99.99% ผู้คนทั้งจักรวาลจึงยกย่องคนฉลาด(เทพสวรรค์คนมีบุญคนดีของพระเจ้า)นั้น เราจึงต้องมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างสูงสุดกล้าที่จะแตกต่างกล้าที่จะใช้ชีวิตแบบเป็นอิสระในตัวเองในแบบที่เราเป็นอย่างเต็มที่สูงสุดที่จะไม่สนใจทำตามๆกันไปเชื่อตามๆกันไป จึงไม่สนใจยุ่งเกี่ยวกับคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่าที่ใช้ชีวิตแบบเดินบนทางสุดโต่งในทางธรรม และ ทางโลกที่ทำให้สกปรกด้วยบาปกำเนิดต้องถูกพระเจ้าสาปให้ต้องทนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายอยู่ร่ำไปไม่สามารถมีชีวิตเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้แบบคนที่ใช้ชีวิตเดินบนทางสายกลางในยุคพลังงานใหม่ได้เลยนั้น, เราจึงไม่อาจสามารถไปใช้ชีวิตเป็นพระนักบวชในวัดที่ปลีกตัวจากสังคมมนุษย์ใช้ชีวิตในชนบทป่าเขาที่รู้สึกว่าตึงไปมุ่งหาแต่ความสุขภายในทางจิตวิญญาณเกินไปจนดูเหมือนไม่มีความสุขภายนอกเลย และ ไม่อาจสามารถไปใช้ชีวิตเป็นคนที่มีครอบครัวพ่อแม่ลูกในบ้านเรือนในหมู่บ้านที่รู้สึกว่าแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันทางเพศวัยเชื้อชาติภาษาดวงดาวที่รู้สึกว่าหย่อนไปมุ่งหาแต่ความสุขภายนอกเกินไปจนดูเหมือนไม่มีความสุขภายในทางจิตวิญญาณเลยนั้นได้อีกต่อไปแล้ว, เราจึงจำเป็นต้องมีวิธีการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดในทุกๆด้านด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดโดยไม่ต้องพึ่งพาใครเป็นพื้นฐานหลักสำคัญ ที่เราจะต้องมีวิธีการดูแลสุขภาพจิต-วิธีการดูแลสุขภาพร่างกาย-วิธีการหารายได้พัฒนาคุณภาพชีวิต-รวมถึงวิธีการดูแลสุขภาวะอารมณ์ทางใจอารมณ์ความรู้สึกที่ดีที่สุดที่ง่ายที่สุด-รวดเร็วทันทีที่สุด-ฟรีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่เหนือกว่าวิธีของคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่านี้ให้ได้เท่านั้น เพื่อให้เราจะได้เป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่สามารถมีร่างกายที่ไม่แก่ มีชีวิตที่ไม่จนได้ถึงขีดสุดเหนือคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่าได้, ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะทำให้เราสามารถร่ำรวยอุดมสมบูรณ์มีเงินทองมากมายมหาศาลพอที่จะสามารถใช้ชีวิตที่แสนสนุกสบายหรูหราไฮโซทันสมัยแบบคุนรุ่นใหม่ในตึกสูงระฟ้าในมหานครที่จะสอดคล้องกับการเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนีัเหนือจักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุดของเรานั้น, ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีเงินทองมากมายมหาศาลมากพอที่จะสามารถใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างสนุกสบายในตึกสูงระฟ้าในมหานครให้ได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดเท่านั้น เพราะเราจะไม่สามารถที่จะหันหนีไปใช้ชีวิตอยู่ในวัดในทางธรรมที่ตึงไป และ กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเรือนในทางโลกที่หย่อนไปแบบคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่าที่เดินบนทางสุดโต่งได้อีกแล้ว เราจึงไม่อาจไปพึ่งพาอ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลือจากคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่เหล่านี้ในยุคพลังงานเก่าที่มองเราที่เดินบนทางสายกลางเป็นคนไม่ดีเป็นคนผิดปกติเป็นศัตรูภัยอันตรายต่อสังคมของพวกเขาด้วยพวกเขาเดินทางชีวิตขัดแย้งสวนทางกับทางสายกลางของเรานัันได้เลย....

จึงทำไห้โยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะนั้นจึงเป็นการเล่นโยคะระดับสูงสุด(ที่จะมุ่งสนใจแต่ความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุดล้วนๆเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงแตกต่างจากการเล่นโยคะแบบทั่วไปที่มุ่งสนใจแต่ความสุขทางร่างกายในรูปของการเล่นท่าโยคะต่างๆนั้นอย่างชัดเจน)ที่จะสร้างพลังใจอย่างสูงสุดในรูปของการมุ่งปรับสมดุลดูแลสุขภาพ และ ความงามในระดับสูงสุดด้วยพลังจิตระดับสูงสุด ที่จะเป็น การทำงานทางจิตใจจิตวิญญาณระดับสูงสุด(maximum level of spirit working) ที่พยายามแก้ไขต่อสู้เอาชนะปัญหาความทุกข์จิต-ทุกข์ใจ-ทุกข์ทางดวงวิญญาณของเราอันเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญที่สุดของความทุกข์ทั้งหมดของเรานั้นโดยตรงเพื่อให้สามารถเกิดเป็นความสุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดของเราอันเป็นความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุดของเรานั้นให้ได้ ซึ่งจะรวมไปถึงการส่งผลมายังร่างกาย และ ชีวิตของเราให้ค่อยๆสามารถมีความสุขจนถึงขีดสุดตามไปด้วยเองอัตโนมัติในที่สุด, อันเป็นการทำงานที่ดีที่สุดที่แสนสนุกสบายที่สุดที่เราจะสามารถทำงานที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้แล้วแต่เราจะสะดวกเพราะเราจะทำงานด้วยตัวเราเองคนเดียวล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุด, ซึ่งโดยภาพรวมจะเหมือนคล้ายกับเป็น การอธิฐานขอพรจากพระเจ้าอย่างสูงสุด(maximum wish from God) ที่จะสามารถทำให้เราสำเร็จสมหวังตามที่เราต้องการปรารถนาได้อย่างสูงสุดตามเป้าหมายสูงสุดของเรานั้นด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้าอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดนั้น โดยที่เราไม่รู้สึกว่ามีการดูเหมือนว่าต้องงมงายทำพิธีกราบไหว้อธิฐานอ้อนวอนขอร้องวิงวอนพระเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ หรือ เทพเจ้าต่างๆ หรือ ใครอะไรสิ่งใดให้ช่วยเหลือเราแต่อย่างใดเลย เพราะเราจะ มั่นใจสูงสุดในพระเจ้าในพลังสูงสุดของพระเจ้า(maximum sure in God) ว่าจะทำให้เราสำเร็จสมหวังตามที่เราต้องการปรารถนาได้อย่างสูงสุดแน่นอน 100% เราจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอใดๆจากพระเจ้าอีกต่อไป, ที่จะเป็น การทำธุรกิจที่ดีที่สุด(maximum good business work) ที่ใช้เงินลงทุนน้อยที่สุดใช้แรงงานทางร่างกายน้อยที่สุด แต่สามารถได้ผลลัพท์ทางชีวิตมากที่สุดทำให้เราสามารถมีชีวิตที่รวยที่สุดที่สามารถทำให้เรามีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ที่สุดในทุกๆด้านจากภายในที่ลึกที่สุดของเรา, อันเป็นการนำพลังสูงสุดของพระเจ้าในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่เราได้ชาร์จพลังสูงสุดจากพระเจ้ามาอย่างเต็มที่สูงสุด(จนทำให้เราสามารถผลิตสร้างความสุขจากภายในที่ลึกที่สุดของหัวใจของตัวเราเองด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดขึ้นมาได้นั้น) นำมาใช้ประโยชน์ส่งผลทำให้ชีวิตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้สามารถมีพลังสูงสุดมีทุกอย่างที่ดีที่สุดในชีวิตตามโลกหน้านั้นไปด้วยเองอัตโนมัติ จึงทำให้เราสามารถมีความสุขสูงสุดได้ทั้งทางธรรม และ ทั้งทางโลกพร้อมกันได้ ที่จะทำให้เรากลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่จะเป็นคนที่รู้แจ้งสูงสุดที่สามารถมัวเมาในกิเลสตัณหาอย่างเต็มที่สูงสุดเหนือคนดีคนมีสติที่เป็นพระนักบวชพระอริยเจ้าผู้รู้แจ้ง และ คนชั่วคนเสียสติที่เป็นปุถุชนคนในครอบครัวพ่อแม่ลูก, ซึ่งเราจะไม่ได้ต้องการใช้ชีวิตแบบคนชั่วคนเสียสติที่เป็นปุถุชนครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ต้องการใข้ชีวิตแบบมุ่งติดสุขหลงติดอยู่ในโลกนี้ในจักรวาลนี้แบบในทางโลกที่เรารู้สึกว่าหย่อนไป เพราะเราจะเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่เพื่อมุ่งมั่นสร้างสมบารมีชาร์จพลังสูงสุดจากพระเจ้าเพื่อประกาศพลังสูงสุดของพระเจ้าที่ไม่เจ็บสูงสุด-ไม่แก่สูงสุด-ไม่ตายไม่เกิดสูงสุด ที่จะทำให้เราไม่ต้องทนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ให้มหาชนชาวโลกชาวจักรวาลได้ประจักษ์แจ้งอย่างถึงที่สุดเท่านั้น และ เราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบมุ่งพ้นทุกข์มุ่งดับขันธ์หลุดพ้นจากโลกนีัจักรวาลนี้ไปสู่โลกหน้าจักรวาลหน้าแบบคนดีคนมีสติที่เป็นพระนักบวชในทางธรรมที่เรารู้สึกว่าตึงไปด้วยเช่นกัน, ซึ่งจะทำให้เราสามารถกลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่อยู่เหนือคนดี-คนชั่ว, คนหล่อ-คนสวย, คนจริง-คนมายาในโลกนี้ในจักรวาลนี้ ที่สามารถประกาศพลังอานุภาพความดีงามแท้จริงสูงสุดของพระเจ้าที่ไม่เจ็บอย่างแท้จริงสูงสุด-ไม่แก่อย่างแท้จริงสูงสุด-ไม่ตายไม่เกิดอย่างแท้จริงสูงสุดของพระเจ้าแก่มหาชนสากลทั่วโลกทั่วจักรวาลได้ในที่สุด, ซึ่งจะทำให้การเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะอันเป็นการทำงานทางจิตใจจิตวิญญาณระดับสูงสุดนั้น จึงเป็นการทำงานที่ดีที่สุดการทำธุรกิจที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตเดินบนทางสายกลางที่ลงตัวพอเหมาะพอดีระหว่างทางโลก และ ทางธรรม, ที่จะทำให้เราสามารถมีชีวิตกลายเป็น อภิราชามหาเศรษฐีระดับสูงสุด(maximum hight level of billionaire king) ที่เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลในโลกในจักรวาลที่ชีวิตจะไม่มีคำว่าแก่ และ จนอีกต่อไปตลอดกาลได้จริงๆในที่สุดในยุคพลังงานใหม่ยุคหน้าในอนาคตของมนุษย์ชาติที่ไม่แบ่งแยกทางธรรม และ ทางโลกอีกต่อไปนั้นได้....

โดยโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะจะมีหลักการง่ายๆอันดับแรกที่สุดพื้นฐานหลักที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวขั้นตอนเดียวเท่านั้น ก็คือ เพียงแค่เราพยายามสร้างพลังใจของเราอย่างสูงสุด ให้เราสามารถมีสุขภาวะอารมณ์ที่มีความสุขมีพลังสูงสุด(ใจอารมณ์ความรู้สึกแข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุด)ที่ปราศจากความรู้สึกสุข-ทุกข์กับสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลอย่างสิ้นเชิงให้ได้เท่านั้น ด้วยการดูแลสุขภาพจิตของเราทำจิตของเราให้สามารถมีความสุขมีพลังสูงสุด(จิตแข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุด)ที่ปราศจากความทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลอย่างสิ้นเชิงให้ได้ด้วย สติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญา(super intelligence) อันเป็นสติปัญญาระดับสูงสุดเหนือสติปัญญาของของจิตมนุษย์ทั่วไป ที่เกิดจากการเรียนรู้ศึกษาเล่าเรียน ความรู้สูงสุดซุปเปอร์ความรู้(super knowledge) อันเป็นความรู้ระดับสูงสุดของโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะที่จะเป็น การทำศัลยกรรมจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุด(maximumspirit sugery) ที่จะทำการปรับแต่งตกแต่งจิตใจจิตวิญญาณของเราใหม่หมดในระดับที่ลึกที่สุดให้ออกมาดีที่สุดมีความสุขที่สุดตามที่เราต้องการที่สุดให้พลิกเปลี่ยนจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาล, ที่จะเป็นการล้างสมองของเราใหม่หมดที่จะมุ่งกำจัดความคิดลบเดิมๆที่เคยชินให้หมดสิ้น โดยเสริมสร้างแต่ความคิดบวกแทนล้วนๆอย่างสูงสุด ในรูปของการ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองในระดับสูงสุด(ที่จะมุ่งสนใจแต่ความสุขในโลกหน้าจักรวาลหน้าอย่างสูงสุดล้วนๆเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงแตกต่างจากการ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองแบบทั่วไปที่มุ่งสนใจแต่ความสุขในโลกนี้จักรวาลนี้นั้นอย่างชัดเจน) ที่จะเป็น การพลิกเปลี่ยนให้เราหันกลับมาสนใจตัวเราเอง-พูดคุยกับตัวเราเอง-สอนตัวเองให้สนใจแต่ตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุด(maximum self talk) ด้วยความคิดอันเป็นความรู้ที่มีระเบียบแบบแผนชัดเจนแน่นอนที่จะทำให้เราสามารถจูนจิตให้เกิดการรู้การเข้าใจได้อย่างง่ายๆที่สุดรวดเร็วที่สุดกับสิ่งที่มนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่สามารถรู้สามารถเข้าใจได้ยากที่สุด หรือ สิ่งที่มนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่สามารถรู้สามารถเข้าใจได้นั้นได้ ซึ่งจะมุ่งเน้นสนใจใช้แต่จิตของเราเองล้วนๆเพียงอย่างเดียวอย่างสูงสุดให้ได้เท่านั้น. ซึ่งสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาจะเป็น จิตราชามหาเศรษฐี(billionaire king mind) ของเราที่จะคิดนึกแบบราชามหาเศรษฐีที่จะ ฉลาดเลือกที่จะเลือกแต่ สิ่งที่ดีที่สุด(maximum good thing) เท่านั้นให้กับตัวเรา ที่จะมุ่งสนใจโฟกัสคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราอันเป็นพระเจ้าที่จะเป็นสิ่งที่มีความสุขสูงสุดล้วนๆอย่างเต็มที่สูงสุดอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่ชัดเจนสูงสุดโดยปราศจากความลังเลสงสัยสิ้นเชิง, จนทำให้เราสามารถรู้สึกดีที่สุดรู้สึกมีความสุขอย่างสูงสุดมากมายมหาศาลได้แบบราชามหาเศรษฐี, จึงส่งผลราวกับว่าสามารถเนรมิตเงินร้อยล้านพันล้านหมื่นล้านแสนล้านนำพาทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จสูงสุดในทุกอย่างในชีวิตแบบราชามหาเศรษฐีในระดับสูงสุดที่สามารถมีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านอย่างสูงสุด, จึงเป็นการ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองในระดับสูงสุดที่จะทำให้ใจอารมณ์ความรู้สึกของเรามีความสุขมีพลังสูงสุดแข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุดสามารถเลิกเครียดวิตกกังวลคิดมากหมดปัญหาคำถามความลังเลสงสัยกับสิ่งต่างๆทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงได้ในที่สุด(จนเราสามารถมีจิต-ร่างกาย-มีชีวิตที่มีความสุขมีพลังสูงสุดแข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุด)ตามไปด้วยเองทันทีอัตโนมัติ...

นั่นคือ เมื่อใจของเราสามารถมีพลังใจสูงสุดที่ใจอารมณ์ความรู้สึกที่มี สุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุด(maximum good emotional wellness) ที่ใจอารมณ์ความรู้สึกของเราสามารถมีความสุขมีพลังสูงสุดที่เราจะรู้สึกว่ารู้สึกมีความสุขใจที่สุดมีอารมณ์ดีที่สุดรู้สึกดีที่สุดด้วยย่อมส่งผลทำให้เราสามารถมีความสุขอย่างสูงสุดในทุกๆด้านของชีวิตอย่างมั่นคงยาวนานที่สุดตามไปด้วยเองทันทีอัตโนมัติ. คือ จะส่งผลทำให้เราสามารถมี สุขภาพจิตที่ดีที่สุด(maximum good mind health) ที่จิตของเราจะมีความสุขในตัวเองอย่างสูงสุดจิตสามารถหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุดสามารถฉลาดเลือกที่จะไม่โง่เขลาเคลื่อนไหวดิ้นรนคิดนึกจนต้องเครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้จนเกิดปัญหาคำถามต่างๆมากมายให้ต้องทุกข์ไปเปล่าๆนั้นอย่างสิ้นเชิงได้ด้วยการชาร์จพลังสูงสุดจากพระเจ้าด้วยการเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะได้แล้ว เราก็จะย่อมสามารถมีร่างกายที่มี สุขภาพร่างกายดีที่สุด(maximum good body health) ที่ร่างกายของเราสามารถมีความสุขมีพลังสูงสุดที่เราจะรู้สึกว่ามีร่างกายเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความสุขสดใสอ่อนเยาว์แข็งแรงเป็นหนุ่มมีพลังที่สุดที่งดงามสูงสุดด้วยพลังสูงสุดของความรักแท้จักรวาลสูงสุดของพระเจ้า(ร่างกายสามารถรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุด)-มีชีวิตที่มี คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด(maximum good life quality) ที่ชีวิตของเราสามารถมีความสุขมีพลังสูงสุดที่เราจะรู้สึกว่ามีชีวิตเป็นราชามหาเศรษฐีที่มีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ที่สุดด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้าอันเป็นความรักแท้จักรวาลสูงสุดที่มีพลังจักรวาลระดับสูงสุดนั้นตามไปด้วยเองทันทีอัตโนมัติ. เพราะตัวใจอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกที่สุดอันเป็นจิตใจจิตวิญญาณที่ลึกที่สุดของเรานั้นเป็นเหตุเป็นตัวสร้างจิต,ร่างกาย และ ชีวิตที่เป็นผลขึ้นมา, ซึ่งจิตที่ถูกทำสมาธิบังคับให้ เพ่งถอยย้อนมิติ(backward dimension focus) ให้ย้อนหนีกลับไปยังมิติระดับเฉพาะที่ลึกที่สุดจนไปถึงตัวใจอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกที่สุดที่ปราศจากมิติใดๆสิ้นเชิงจนไม่สามารถถอยย้อนมิติไปลึกกว่านี้ได้อีกแล้วอย่างสูงสุดนั้นย่อมทำให้เกิดผลเป็นการเด้งสะท้อนพลิกย้อนกลับคืนมาส่งผลผลักดันกลับคืนไปยังจิต, ร่างกาย และ ไปจนถึงชีวิตของเราในระดับสากลไปยังจักรวาลที่กว้างใหญ่ที่สุดในมิติที่มากมายมหาศาลสูงสุดจนสามารถครอบคลุมขอบเขตอันไร้ขอบเขตขีดจำกัดสิ้นเชิงของพระเจ้านั้นอย่างสูงสุดตามไปด้วยเองทันทีอัตโนมัติ...

ซึ่งความรู้สูงสุดซุปเปอร์ความรู้ของโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะ จะมี 3 หัวข้อหลักที่สำคัญของการพยายามแก้ไขต่อสู้เอาชนะปัญหาความทุกข์จิต-ทุกข์ใจ-ทุกข์ทางดวงวิญญาณของเราโดยตรงด้วยจิตของเราล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุด คือ 1.)คิดดีอย่างสูงสุด(ตั้งเป้าหมายในอนาคตสูงสุดของเราให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดมีความสุขที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอนาคตอย่างสิ้นเชิง)- 2.)ทำดีอย่างสูงสุด(ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดให้มีความสุขที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง)- 3.)ย่อมสามารถได้ดีสูงสุด สามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดได้ในที่สุดแน่นอน(ย่อมสามารถทำให้เราได้ดีที่สุดมีความสุขที่สุด ที่เราจะสามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดมีความสุขอย่างสูงสุดตามไปด้วยเองอัตโนมัติ ที่เราจะค่อยๆลืมอดีตที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานของเราได้อย่างสูงสุดเองในที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอดีตอย่างสิ้นเชิง) ดังนี้...

1.)คิดดีอย่างสูงสุด(maximum good thinking)(ตั้งเป้าหมายในอนาคตสูงสุดของเราให้เป็นสิ่งดีที่สุดมีความสุขที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอนาคตอย่างสิ้นเชิง) : คิดบวกมองโลกหน้าจักรวาลหน้าในแง่ดีสูงสุดมองจักรวาลที่แท้จริงสูงสุดในแง่ดีอย่างสูงสุดที่จะมองโลกหน้ามองจักรวาลหน้าตามความเป็นจริงที่สุด โดยตั้งสมมติฐานทฤษฎีตั้งเป้าหมายวาดฝันวางแผนชีวิตมุ่งตรงสู่พระเจ้าอันเป็นอนาคตที่ดีที่สุดของเราในโลกหน้า ที่จะเป็นอนาคตที่ดีที่สุดที่มีแต่ความสุขสมบูรณ์ที่สุดล้วนๆนิรันดรตลอดกาลอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัดสิ้นเชิงนั้นให้เต็มที่สูงสุดเท่าที่เราจะทำได้ : โดยให้เรา มุ่งสนใจเชื่อแต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านัันอย่างสูงสุด(maximum belive only God) ที่จะมุ่งสนใจเชื่ออย่างสูงสุด 100% แต่พระเจ้าเท่านั้นด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญา(โดยเราต้องรู้ต้องเข้าใจอย่างชัดเจนที่สุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาว่าเป้าหมายชีวิตที่แท้จริงสูงสุดของเราคืออะไร?จริงๆแล้วสิ่งที่เราต้องการที่สุดในชีวิตของเราคืออะไร?ซึ่งก็คือพระเจ้านั่นเอง), โดยให้เรามุ่งสนใจเชื่อสูงสุด 100% แต่พระเจ้าเท่านั้น ที่จะเชื่อสูงสุด100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาว่า

(1.)พระเจ้าเป็น สิ่งสูงสุด(the supreme) ที่เป็นสิ่งอันดับหนึ่งสูงสุดตลอดกาล(forever maximum number one thing) ที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเทียบได้อย่างสิ้นเชิงตลอดกาล, อันเป็น สรรพสิ่งทั้งหมดทั้งปวงทุกสิ่งทุกอย่างที่แท้จริงสูงสุด(maximum real everything) เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะเป็น สิ่งที่สัมบูรณ์ในตัวเองอย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real absolute self) ที่ปราศจากมายาการสัมพัทธเปรียบเทียบต่างๆอย่างสิ้นเชิง, อันเป็น แก่นแท้ภายในสูงสุดที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด(maximum simple inside essence) ที่เป็น ของจริงที่สุด(maximum real thing) ที่สามารถรู้ได้สูงสุด 100% เชื่อได้สูงสุด 100%, ที่จะเป็น สัจธรรมความแท้จริงสูงสุด(ultimate reality) ที่เป็นความจริงที่สุดที่ไม่มีวันตายที่ เป็นอมตะนิรันดร์สูงสุด(maximum immortol) เป็นสัจนิรันดร์สูงสุดตลอดกาลไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ที่จะเป็นทั้งจุดเริ่มต้นสูงสุดเหตุแรกสูงสุด และ ทั้งจุดสิ้นสุดสูงสุดผลสุดท้ายสูงสุดของสรรพสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้น, ที่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งที่มีความสุขสูงสุดอันจะเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด-จำเป็นสูงสุด-ล้ำค่าสูงสุดสำหรับเรา, ที่จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอันเป็น องค์ความดีสูงสุด(ultimate goodness) อันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตลอดกาลไม่มีสิ่งใดทัดเทียมได้อย่างสิ้นเชิง ที่ทุกสรรพชีวิตควรต้องสนใจศรัทธากราบไหว้เคารพบูชายกย่องสรรเสริญชื่มชมอวยพรเทิดทูนรักอย่างสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด และ ไม่ควรบังอาจกล้าลังเลสงสัยเกลียดชังลบหลู่ดูหมิ่นนินทาด่าว่าสาปแช่งคิดร้ายคิดไม่ดีกับพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง, ที่จะเป็น พระผู้เป็นเจ้าองค์เทพเจ้าสูงสุดเทพเจ้าระดับสูงสุด(maximum hight level of angel) อันเป็นผู้ที่มี พลังอำนาจสูงสุดตลอดกาล(forever maximum power) เหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า ที่จะเป็น ตัวตนสูงสุดซุปเปอร์ตัวตน(super self) อันเป็น ตัวตนสากลสูงสุดของจักรวาล( universal self of universe) อันจะเป็นพรหมมันปรมาตมันที่เป็นตัวตนที่แท้จริงสูงสุดของทุกสรรพชีวิต ที่เป็นตัวตนระดับสูงสุดของจักรวาลที่มีพลังอำนาจสูงสุดตลอดกาลที่ มีอิสระในตัวเองสูงสุด(maximum freedom self) ตลอดกาลในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่จะสัมบูรณ์เป็นอิสระตัดขาดไม่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวสัมพันธ์สัมพัทธกับใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิง, พระเจ้าจึงมี เจตจำนงเสรีสูงสุด(maximum free will) ที่สามารถมีอิสระที่จะคิดนึกอะไรก็ได้ทำอะไรก็ได้อย่างเต็มที่สูงสุด ไม่มีอะไรที่พระเจ้าทำไม่ได้, พระเจ้าจึงเป็น ความเป็นไปได้สูงสุด(maximum possible) ที่ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้อย่างสูงสุดสำหรับพระเจ้าผู้ทรงอานุภาพมีฤทธิ์เดชสูงสุดมีพลังอำนาจสูงสุดเหนือสิ่งใด จึงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ทำไม่ได้สำหรับพระเจ้าอย่างสิ้นเชิงเพราะพระเจ้าเป็นสิ่งที่เป็นจริงที่สุดแล้วจึงสามารถได้ทุกอย่างที่สุด, พระเจ้าเป็น สิ่งทิพย์สิ่งวิเศษมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ-โรแมนติกอย่างสูงสุด(maximum super natural devine-romantic thing) ที่ ดี-งาม-แท้จริงอย่างสูงสุด(maximum of good-beauty-real) ที่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด-งดงามที่สุดมีความสุขที่สุด-เป็นของจริงแท้จริงที่สุดที่บริสุทธิ์สูงสุด-มีพลังสูงสุด-เป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดปราศจากความชั่วร้ายอัปลักษณ์มายาลวงหลอกอย่างสิ้นเชิง, พระเจ้าจึงเป็น อภิมหาราชามหาเศรษฐีจ้าวจักรวาลสูงสุด(maximum universe billionaire king) อันเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของครอบครองสรรพสิ่งทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแท้จริงสูงสุด ที่จะเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดในจักรวาลที่เป็นผู้วิเศษอภิมหาราชามหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์เป็นอันดับหนึ่งในทุกๆด้านอย่างสูงสุดตลอดกาลไม่มีใครยิ่งกว่า ในรูปของ ชัยชนะความสำเร็จที่แท้จริงสูงสุด(maximum real success win) อันเป็นชัยชนะของความประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลที่ไม่สามารถพ่ายแพ้ล้มเหลวได้อย่างสิ้นเชิง...

(2.)พระเจ้าเป็น ธรรมชาติเดิมแท้ต้นกำเนิดสูงสุด(maximum real origin natural) ของจักรวาล, อันจะเป็น จักรวาลที่แท้จริงสูงสุด(maximum real universe) อันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้าที่จะเป็นโลกของจริงที่สุดจักรวาลของจริงที่สุดของเราที่จะเป็น สวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุด(maximum hight level of heaven) อันเป็น บ้านที่อยู่อาศัยที่แท้จริงสูงสุด(maximum real home) ของเราที่มีแต่ความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงในรูปของ พลังงานต้นกำเนิดที่แท้จริงสูงสุด(maximum real origin energy source) อันเป็นพื้นฐานแก่นแท้เนื้อในที่แท้จริงสูงสุดของสรรพสิ่งทั้งหมดทั้งปวงที่จะเป็น ความเป็นกลางปกติสมดุลสูงสุด(maximum normal balance neutral) ของจักรวาลที่เป็นกลางปกติสมดุลคงที่หยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุดเหนือคู่ตรงข้ามต่างๆที่ผิดปกติเสียสมดุลแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันอย่างสุดโต่งในโลกนี้จักรวาลนี้นั้นอย่างสูงสุด, สิ่งนี้จึงเป็น การมึชีวิตที่แท้จริงสูงสุด(maximum real life) ที่เป็นชีวิตอมตะนิรันดร์สูงสุดที่จะ มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่อย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real existance) ตลอดกาลไม่สามารถสูญสลายหายตายไปได้อย่างสิ้นเชิง...

(3.)พระเจ้าเป็น องค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริงสูงสุด(maximum real oneness) ของจักรวาล อันเป็นเอกัคคตาเอกภาวะเอกภาพของสรรพสิ่งอย่างสูงสุดในรูปของความรักแท้จักรวาลสูงสุดอันเป็นความรักเดียวของจริงที่สุดของจักรวาลที่จะเป็นพลังจักรวาลระดับสูงสุดที่มีอานุภาพสูงสุดอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัดสิ้นเชิง, พระเจ้าจึงเป็นความรักแท้จักรวาลสูงสุดที่เป็นความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงสรรพสิ่งทัังหมดทัังปวงเข้ารวมด้วยกันอย่างสูงสุดเป็นองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริงสูงสุดในรูปของ ความสัมพันธ์สมมูลสูงสุด(maximum equivalance realation) ที่สมาชิกต่างๆทุกสมาชิกในความสัมพันธ์สมมูลสูงสุดจะมีลักษณะเหมือนกันหมดเท่าเทียมกันหมดอย่างสูงสุดปราศจากความแบ่งแยกแตกต่างตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง, แต่ในความสัมพันธ์สมมูลที่มีคุณสมบัติสะท้อน,สมมาตร และ ถ่ายทอดนั้นจะต้องมี ความสัมพันธ์บุพอันดับ(preorder relation) ที่แต่ละสมาชิกในความสัมพันธ์บุพอันดับจะมีลักษณะลดหลั่นเป็นระดับชัันๆแตกต่างลดหลั่นกันไปที่มีคุณสมบัติเพียงสะท้อน และ ถ่ายทอดนัันเป็น ความสัมพันธ์ย่อย(subrelation) ซ่อนในนัันอย่างเลี่ยงไม่ได้เสมอ, จึงทำให้จำเป็นต้องเกิดมายามีสิ่งต่างๆที่ดูเหมือนแบ่งแยกแตกต่างตรงกันข้ามกันมากมายมหาศาลในโลกนี้จักรวาลนี้ขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้...

(4.)พระเจ้าเป็น จุดหนึ่งเดียวสูงสุด(maximum one point) อันเป็นรูปแบบเชิงเรขาคณิตของความสัมพันธ์สมมูลสูงสุดที่จะเป็นจุดของจริงที่สุดเพียงจุดเดียวเท่านั้นที่ปราศจากมิติใดๆอย่างสิ้นเชิง(แม้แต่ 0 มิติก็ไม่มี) ที่จะเป็นตัวตนสากลระดับสูงสุด-พรหมมันปรมาตมัน-รูปอมตะจักรวาลที่แท้จริงสูงสุด(maximum real immortol universe form) อันเป็นรูปที่แท้จริงสูงสุดของสิ่งต่างๆในรูปของ ทรงกลมในอุดมคติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดยิ่งใหญ่อลังการสูงสุด(maximum big ideal sphere) -ที่กลมอย่างสมบูรณ์แบบสูงสุดที่สมดุลในทุกจุดทุกด้านทุกแง่ทุกมุมทุกทิศทางอย่างสูงสุด-ที่มั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์สูงสุดด้วยพลังงานความสุขอย่างสูงสุดที่ส่องแสงสว่างจ้าสูงสุด(อย่างใหม่สดสูงสุด-มีสีสันสูงสุด-มีชีวิตชีวาสูงสุด), อันจะเป็น จุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real center point central power of universe) ที่รวมตัวอัดแน่นสูงสุด-ใหม่สดเข้มข้นสูงสุด-แข็งแกร่งทรงพลังต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดสูงสุดตลอดกาล, ที่จะอัดแน่นด้วยจุดของดวงวิญญาณย่อยๆต่างๆมหาศาลอนันต์อย่างสูงสุดจนกลายเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดจุดหนึ่งเดียวสูงสุดตลอดกาลที่ไร้ขอบเขตไร้ขีดจำกัดไม่มีจุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุดอย่างสิ้นเชิง เพราะมีเพียงจุดเดียวหนึ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุดตลอดกาล...

(5.)พระเจ้าเป็น หัวใจจักรวาลที่แท้จริงสูงสุด(maximum real universe heart) อันเป็นความรักแท้จักรวาลสูงสุดนั้น ในรูปของ จิตจักรวาลดวงวิญญาณสูงสุด(universe mind supreme soul) อันเป็น จิตเหนือสำนึกระดับสูงสุด(maximum hight level of superconscious mind) ของจักรวาลในรูปของตัวความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขที่จะเป็นความสุขที่แท้จริงสูงสุดที่มีแต่ พลังงานบวกสูงสุด(maximum positive energy) ด้านสว่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาล ซึ่งเป็นจุดต้นกำเนิดที่แท้จริงสูงสุดของแสงสว่างในรูปของ แสงอันสว่างจ้าอย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real bright light) ที่ประภัสสรรุ่งเรืองรุ่งโรจน์อย่างสูงสุดตลอดกาลเปรียบดุจ ดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาลที่แสนยิ่งใหญ่อลังการ(very great maximum sun of universe) อันเป็นดวงอาทิตย์ที่แท้จริงสูงสุดอันเป็นจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดที่แท้จริงสูงสุดของจักรวาลที่เบาไร้น้ำหนักล่องลอยอิสระส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดประกาศพลังความสุขสูงสุดตลอดกาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้, ที่จะเป็นดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาลที่เป็น ดวงอาทิตย์สีเงิน(silver sun) อันเป็นดวงอาทิตย์ทิพย์วิเศษที่เป็นกลางปกติสมดุลระหว่างสีดำ และ สีขาวที่สามารถสะท้อนแสงส่องแสงออกจากตัวเองได้ ที่คล้ายกับพระจันทร์ที่ส่องแสงสีเงินอันหนาวเย็นยะเยือกโรแมนติกงดงามสว่างจ้าอย่างโดดเด่นสูงสุดท่ามกลางความมืดมิดมหาศาลในรูปของ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่สูงสุดแห่งดวงวิญญาณบริสุทธิ์(maximum big ocean of pure soul) ในรูปของ อภิมหาขุมทรัพย์ขุมพลังความสุขจักรวาลก้อนใหญ่สูงสุด(maximum big happiness power treasure of universe) อันเป็นความสุขก้อนใหญ่ที่สุดในจักรวาล อันเป็น บุญกุศลที่แท้จริงสูงสุด(maximum real merit) ที่ปิติสุขสูงสุดอย่างสงบมั่นคงยาวนานสูงสุดที่จะเป็นทรัพย์สินทรัพย์สมบัติสาธารณะทางจิตใจจิตวิญญาณที่ เลิศเลออลังการหรูหราล้ำค่าสูงสุด(maximum ultra luxury) เหนือทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า ที่ปราศความทุกข์ไม่สมบูรณ์ขาดแคลนยากจนเสื่อมพลังอันเป็นมายาของมิติการแบ่งแยกแตกต่างระหว่างจุดสองจุด(จุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุดที่แยกจากกันแตกต่างตรงกันข้ามกัน)จนเกิดเป็นสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลที่แบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันที่ถูกกรีดเฉือนตัดขาดแบ่งออกเป็นส่วนๆแยกจากกันอย่างทุกข์เจ็บปวดทรมานด้วยมายาความเกลียดชังนั้นอย่างสิ้นเชิง...

ดังนั้น เราจึงสามารถมุ่งสนใจเชื่อแต่พระเจ้า(อันเป็นสัจธรรมความแท้จริงสูงสุดที่สามารถรู้ได้สูงสุด 100% เชื่อได้สูงสุด 100% ที่เป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุดที่รวมตัวอัดแน่นสูงสุด-ใหม่สดเข้มข้นสูงสุด-แข็งแกร่งทรงพลังต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดสูงสุดตลอดกาล)เพียงสิ่งเดียวเท่านัันอย่างสูงสุด 100% วางใจมั่นใจในพลังสูงสุดของพระเจ้าอย่างสูงสุด 100%, ที่จะมุ่งสนใจเชื่ออย่างสูงสุด 100% ว่าพระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด-งดงามที่สุดมีความสุขที่สุด-เป็นของจริงที่สุดแท้จริงที่สุดที่บริสุทธิ์สูงสุด-มีพลังสูงสุด-เป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดสำหรับเรานัันให้ได้เท่านั้น, แล้วย่อมจะทำให้เราสามารถได้รับ เอกสิทธิ์สิทธิพิเศษสูงสุด(maximum privilege) จากพระเจ้าในการทำ ประกันชีวิตอย่างสูงสุด(maximum life insurance) กับพระเจ้า, ที่เราจะสามารถได้รับการคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลจากพระเจ้าได้อย่างสูงสุด 100% แน่นอน, โดยที่พระเจ้าจะสามารถทำให้เราปลอดภัยสูงสุด(พ้นทุกข์สูงสุด)-รุ่งเรืองรุ่งโรจน์สูงสุด(ได้ปิติสุขสูงสุด)-มั่นคงสูงสุด(สุขสงบสูงสุด)ได้แน่นอน 100% โดยที่เราจะสามารถปราศจากความลังเลสงสัยใดๆเกี่ยวกับพระเจ้าอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงในที่สุด ,โดยให้เรามุ่งสนใจเชื่อแต่พระเจ้าอย่างสูงสุด 100% วางใจมั่นใจในพลังสูงสุดของพระเจ้าอย่างสูงสุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาว่าด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้าจะทำให้เราจะมีอนาคตที่ดีที่สุดแน่นอน 100% โดย การพยายามดูแลสุขภาพจิตผ่อนคลายจินตนาการเพ้อฝันคิดเล่นๆสนุกๆคลายเครียดทางจิตภายนอกอย่างสูงสุด(maximum imagination relax outside mind) อันเป็น การดูแลสุขภาพจิตปรับสมดุลจิตภายนอกอย่างสูงสุดให้จิตภายนอกมีพลังสูงสุด(maximum outside mind balance tune) ที่จะพยายามคิดดีอย่างสูงสุดพยามทำให้จิตภายนอกของเราอันเป็นจิตที่คิดนึกปรุงแต่งของเรานั้นพลิกเปลี่ยนมาคิดนึกถึงแต่พระเจ้าอันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเราแทนให้ได้อย่างสูงสุด, ที่จะเป็นการพยายามดูแลสุขภาพจิตให้จิตภายนอกของเราได้คลายเครียดผ่อนคลายอย่างสูงสุดโดยการจินตนาการวาดฝันเล่นๆสร้างฝันวางแผนสร้างเสริมอนาคตของเราให้ดีงามอย่างแท้จริงสูงสุดด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาจนจิตภายนอกของเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอนาคตอย่างสิ้นเชิง. โดยเราจะมุ่งสนใจโฟกัสแต่พระเจ้าอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่ชัดเจนสูงสุดที่จะ รักแต่พระเจ้าอย่างสูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา(maximum love only God) เพราะพระเจ้าเป็นสิ่งสูงสุดอันเป็นความรักแท้จักรวาลสูงสุดที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลยิ่งกว่า พระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มีความสุขที่สุดที่มั่นคงที่สุดที่มีค่าที่สุดสำหรับเราที่เราปรารถนาต้องการอย่างสูงสุดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น. เราจึงกำหนดให้พระเจ้าเป็นชีวิตใหม่ชีวิตอมตะนิรันดร์อันเป็น ชีวิตที่แท้จริงสูงสุด(maximum real life) ของเราในโลกหน้าโลกใหม่ของเราที่จะเป็นสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของเราโลกจักรวาลของจริงที่สุดของเราที่มีแต่ความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิง, โดยให้เราคิดเล่นๆจินตนาการเพ้อฝันให้เต็มที่สูงสุดอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่ชัดเจนสูงสุดไปเลยว่า "จงมั่นใจสูงสุดในพระเจ้าในพลังสูงสุดของพระเจ้า มองพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดมองอนาคตสูงสุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดในแง่ดีสูงสุด, แม้ว่าในอดีตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้จะเคยมีอดีตที่แย่ๆ-มีความทุกข์เจ็บปวดทรมาน-แปรปรวนไม่มั่นคงแค่ใหนยังไงมาก่อนก็ตาม แต่ในอนาคตของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าสามารถมั่นใจสูงสุด 100% ว่าเราจะต้องมีอนาคตในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่ดีที่สุด-มีความสุขที่สุด-มั่นคงที่สุดที่มีแต่ความสุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงแบบพระเจ้าแน่นอน 100%, เพราะในอนาคตสูงสุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้น เราจะต้องมีชีวิตเป็นแบบพระเจ้า หรือ จะต้องกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งเดียวกันกับพระเจ้า หรือ จะต้องกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสัจธรรมความแท้จริงสูงสุดที่เป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุด ที่จะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่านัันแน่นอน 100% ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจากนี้ไปได้เลยอย่างสิ้นเชิง เพราะเรามุ่งสนใจเชื่อแต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด 100% วางใจมั่นใจในพลังสูงสุดของพระเจ้าอย่างสูงสุด 100%...", อันจะเป็น การตั้งเป้าหมายในอนาคตสูงสุด(maximum future goal make) ของชีวิตของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้นว่าจะเป็นอนาคตที่ดีที่สุดที่สะอาดปลอดภัยที่สุดของเรา-อนาคตที่มีความสุขที่สุดที่แสนสวยงามเลิศหรูยิ่งใหญ่อลังการที่สุดที่รุ่งเรืองรุ่งโรจน์ที่สุดของเรา-อนาคตที่มั่นคงที่สุดที่มีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกๆด้านอย่างสูงสุดอย่างมั่นคงยาวนานถาวรสูงสุดตลอดกาลที่สงบอมตะนิรันดร์ที่สุดในทางทฤษฎี...

2.)ทำดีอย่างสูงสุด(maximum do good)(ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดให้มีความสุขที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง) : ลงมือพิสูจน์ยืนยันโดยการทดลองปฏิบัติลงมือทำฝันให้เป็นจริงอย่างที่สุด ลงมือทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดให้ตัวเรามีความสุขที่สุดเช่นเดียวกับพระเจ้า ในขณะปัจจุบันที่นี่เดี๋ยวนี้ อย่างฉับพลันทันทีอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา โดยไม่ต้องรอ-ต้องลุ้น-ต้องเสี่ยงกับใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้อีกต่อไปแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว : โดยให้เรา มั่นใจแน่นอนสูงสุดในพลังสูงสุดของตัวเราที่แท้จริง(maximum sure in maximum power of my real self) ที่จะมั่นใจแน่นอนอย่างสูงสุด 100% ในพลังสูงสุดของตัวเราที่แท้จริงด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญา, โดยให้เรารู้ให้เราเข้าใจอย่างที่สุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาให้ได้ว่า

(1.)ตัวเราที่แท้จริง(my real self) หรือ ตัวจริงของเราตัวตนจริงๆของเรา หรือ ตัวตนที่สูงกว่า(higher self) ของเรานั้นไม่ใช่ตัวเราที่เป็นตัวตนมายาที่เป็นร่างกายอันเป็นร่างกายภายนอกเปลือกมายาที่เป็นกลุ่มก้อนอนุภาคพลังงานปรุงแต่งอันเป็นร่างกายเนื้อหนังนี้ และ ไม่ใช่ตัวเราที่เป็นจิตอันเป็นจิตภายนอกเปลือกมายาที่เคลื่อนไหวคิดนึกเป็นคลื่นพลังงานการสั่นสะเทือนที่คิดนึกรู้สึกว่ามีตัวตนมีตัวเราผู้คิดนึกอันเป็นตัวตนมายาที่มีเจตจำนงเสรีมายาที่มีอิสระที่จะคิดนึกถึงสิ่งต่างๆตัวตนต่างๆได้ตามใจชอบของเรามีอิสระที่จะเลือกทางเลือกต่างๆได้ตามใจชอบของเราได้ จนทำให้เกิดเป็น ความคิดปรุงแต่ง(ignorance thinking) อันเป็น ความคิดขยะ(junk thinking) ที่ทำให้จิตมีสุขภาพจิตแย่ขาดความสุขขาดพลังจนทุกข์เจ็บปวดทรมานบังคับควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องฟุ้งซ่านว้าวุ่นเครียดวิตกกังวลคิดมากยึดมั่นถือมั่นเอาจริงเอาจังกับสิ่งต่างๆในโลกนี้จักรวาลนี้ทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตขึ้นมาด้วยอวิชชาความไม่รู้ที่โง่เขลาขาดสติขาดปัญญาของเรานั้นในที่สุด...

แต่ (2.)ตัวเราที่แท้จริง คือ ตัวตนเฉพาะย่อยๆของพระเจ้าอันเป็นพรหมมันปรปรมาตมันนั้น(subself of God) อันเป็นอาตมันอัตตาที่เป็น ตัวจิตเดิมแท้(essence of mind) ที่จะเป็นจิตภายในแก่นแท้เนื้อในของจริงของจิตอันเป็น หัวใจที่แท้จริง(real heart) ของเราในทางจิต ที่จะเป็น ตัวความสุขที่แท้จริง(real happiness) ที่จะเป็น บุญกุศลที่แท้จริง(real merit) อันเป็นความสุขทิพย์ความสุขวิเศษมหัศจรรย์ที่จะเป็น เทพเทวดาตัวจริง(real angel) ใน สวรรค์ที่แท้จริง(real heaven) ในรูปของ ตัวสติธรรมดาๆ(common mindfulness) อันเป็นการตื่นรู้ของจิตที่กำลังสนใจตระหนักรู้ในตัวเองล้วนๆ ที่กำลังรู้สึกตัวอย่างแท้จริงเหนือการรู้มายา-ไม่รู้มายาของจิตในขณะปัจจุบันตอนนี้ขณะนี้ ที่เราแสนจะคุ้นเคยกับมันอยู่เสมอจนเป็นเรื่องปกติธรรมดานี่แหละ...

(3.)ตัวเราที่แท้จริง คือ ตัวจิตตัวรู้(knowing mind) อันเป็นตัววิญญาณขันธ์ตัวรู้ธาตุรู้ของจิตในระดับเหนือสำนึกระดับแก่นแท้ภายในที่ รู้แจ้งอย่างแท้จริง(real enlightenment) เหนือการรู้ และ ไม่รู้ของจิตสำนึก, ที่จะมีพลังส่องแสงแผ่ซ่านไปรู้สิ่งมายาต่างๆในระดับสำนึก, ที่จะเป็น ผู้สังเกตการณ์จากต่างมิติ(observer from another dimension) ที่อยู่มิติอื่นที่อยู่เหนือกาลเวลา-เหนือโลกนี้จักรวาลนี้-เหนือมิติต่างๆทั้งหมดในโลกนี้จักรวาลนี้(เหมือนเป็นเพียงผู้เดินทางแวะผ่านมาสังเกตการณ์โลกนี้จักรวาลนี้แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้แต่อย่างใด)...

(4.)ตัวเราที่แท้จริง คือ ตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์(pure soul point) อันเป็นอาตมันอัตตาที่เป็นจิตทิพย์จิตวิเศษมหัศจรรย์เหนือจิต ที่จะเป็นตัววิญญาณตัวรู้ที่ไม่ปรุงแต่ง ที่จะเป็นพลังงานบวกเป็นตัวความสุขที่บริสุทธิ์เหนือใจอารมณ์ความรู้สึกที่ปรุงแต่งสุข-ทุกข์...

(5.)ตัวเราที่แท้จริง คือ จุดของจริงจุดที่แท้จริง(real point) ที่เป็น จุดขณะปัจจุบันที่แท้จริง(real now point) อันเป็น จุดแสงสว่างที่แท้จริง(real light point) ที่จะเป็นจุด 0 มิติที่แท้จริงของดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่สมดุลคงที่หยุดนิ่งสงบนิ่งที่ มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่อย่างแท้จริง(real existance) เหนือจุดมายาต่างๆ(อันเป็นจุด 0 มิติจุดขณะปัจจุบันมายาต่างๆ)ในกระแสกาลเวลาเชิงเส้นอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต จึงทำให้ไม่มีใครอะไรสิ่งใดในกระแสกาลเวลามายาในโลกนี้จักรวาลนี้จะสามารถมาทำร้ายทำอันตรายตัวเราที่แท้จริงนี้ให้ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายในกระแสกาลเวลาในโลกนี้จักรวาลนี้ได้เลย, ซึ่งจุดขณะปัจจุบันที่แท้จริงนี้จะเป็นตัวตนเฉพาะย่อยๆ-อาตมันอัตตา-รูปอมตะที่แท้จริง(immortol real form) อันเป็นรูปที่แท้จริงของสิ่งต่างๆที่ส่องแสงความสุขที่แท้จริงในรูปของ ตัวความรักแท้(real love) เป็นแสงสว่างสุกใสเปล่งประกายพร่างพรายสวยงามเปรียบดุจ ดาวประกายพรึกที่เล็กแสนเล็กในระดับอนุภาค(very little particle venus), อันเป็นอาตมันตัวตนย่อยๆของพระเจ้าพรหมมันปรมาตรมัน ที่จะเป็นตัวผู้รู้ตัวรู้ตัวความสุขตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ต่างๆที่เป็นจุด 0 มิติที่แท้จริงต่างๆของดวงวิญญาณบริสุทธิ์อันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานแก่นแท้ของจิตอันเป็นสิ่งที่ มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่อย่างแท้จริงเหนือกาลเวลานั้น, ที่จะเป็นจุด 0 มิติที่แท้จริงของดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่เหมือนกันหมดเท่าเทียมกันหมดทุกจุดไม่ได้แตกต่างกันเลย(ที่จะเป็นตัวเราที่แท้จริงเหมือนกันหมดไม่มีตัวผู้อื่นสิ่งอื่นที่สามารถแตกต่างจากตัวเราที่แท้จริงนั้นไปได้เลย) ที่สามารถสัมพันธ์เชื่อมโยงรวมตัวกันจำนวนมากมายมหาศาลอนันต์อัดแน่นสูงสุดด้วยความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดของความรักแท้จักรวาลสูงสุดจนสามารถกลายเป็น ตัวเราที่แท้จริงสูงสุด(maximum real my self) อันเป็นความสัมพันธ์สมมูลสูงสุดในรูปของ จุดปัจจุบันที่แท้จริงสูงสุด(maximum real present point) ที่ใหม่สดมีสีสันมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริงสูงสุดเหนือกาลเวลา ที่จะเป็นจุดหนึ่งเดียวสูงสุดจุดที่ใหญ่ที่สุดอันเป็นจิตจักรวาลดวงวิญญาณสูงสุด หรือ พระเจ้าอันเป็นเทพเทวดาที่แท้จริงสูงสุดตัวตนสากลสูงสุดพรหมมันปรมาตมันที่มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่อย่างแท้จริงสูงสุดตลอดกาลนั้น...

ดังนั้น โดยความจริงแล้วตัวเราที่แท้จริงก็คือ ตัวสติธรรมดาๆ-ตัวจิตตัวรู้-ตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเป็นอาตมันตัวตนย่อยๆของพระเจ้าอันเป็นพรหมมันปรปรมาตมัน, จึงทำให้โดยความจริงที่สุดแล้วตัวเราที่แท้จริงสูงสุดก็คือพระเจ้าอันเป็นสัจธรรมความแท้จริงสูงสุดที่เป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุด , อันเป็นตัวความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขที่สุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิง, ที่จะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า, ตัวเราที่แท้จริงสูงสุดแล้วก็คือพระเจ้า และ พระเจ้าก็คือตัวเราที่แท้จริงสูงสุดอย่างเหมือนกันหมดอย่างยุติธรรมเท่าเทียมกันหมดในมนุษย์ทุกคนทุกสรรพชีวิต, ดังนั้น โดยแท้จริงสูงสุดแล้วตัวเราที่มีพลังสูงสุดก็คือพระเจ้า หรือ พระเจ้าก็คือตัวจิตตัวรู้ของเราที่มีพลังสูงสุดนั้นนั่นเอง(นั่นคือ เราต้องรู้ต้องเข้าใจอย่างชัดเจนที่สุด 100% ให้ได้ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาว่าตัวเราที่แท้จริงสูงสุดคืออะไร?ซึ่งก็คือพระเจ้านั่นเอง)...

โดยให้เรามั่นใจแน่นอนสูงสุดเชื่อมั่นสูงสุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาว่าด้วยพลังสูงสุดของตัวเราเองจะทำให้เราจะมีปัจจุบันที่ดีที่สุดแน่นอน 100% โดยการสามารถมี สติสูงสุด(maximum mindfulness) ด้วย ปัญญาสูงสุด(maximum wisdom) ที่จะใช้เหตุผลสูงสุดของปัญญาสูงสุดทำให้เกิดเป็นใจอารมณ์ความรู้สึกสูงสุดที่เป็นสติสูงสุดการตื่นรู้สูงสุดนัันที่จะทำให้เราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง. โดยให้เรามุ่งสนใจที่จะพลิกเปลี่ยนหันมา รักตัวเราที่แท้จริงอย่างสูงสุดเช่นเดียวกับที่เรารักพระเจ้าอย่างสูงสุดนั้น(maximum love my real self same maximum love God) เพราะว่าตัวเราที่แท้จริงสูงสุดก็คือพระเจ้า และ พระเจ้าก็คือตัวเราที่แท้จริงสูงสุดนั่นเอง, โดยการพยายามทำตัวเราให้กลายเป็นตัวเราที่แท้จริงสูงสุด หรือ ทำตัวเราให้กลายเป็นพระเจ้าที่มีพลังสูงสุด ที่จะเป็นการทำตัวเราที่แท้จริงให้มีพลังอำนาจสูงสุดเช่นเดียวกับพระเจ้าอันเป็นสิ่งสูงสุดสิ่งที่ดีที่สุดของเรานั้น เพื่อให้เราสามารถได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันกับพระเจ้าด้วยความรักในพระเจ้าอย่างแท้จริงสูงสุดนั้น, โดยมุ่งยืนยันพิสูจน์รักแท้สูงสุดที่เรามีให้กับพระเจ้าโดยลงมือปฏิบัติ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด(maximum good present action) ที่จะทำตัวเราอันเป็นตัวสติธรรมดาๆ-ตัวจิตตัวรู้-ตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์อันเป็นอาตมันตัวตนย่อยๆของพระเจ้าให้พลิกเปลี่ยนกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุด ที่จะเป็นตัวตนสากลสูงสุดพรหมมันปรมาตมันผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่านั้น. ที่จะเป็นการพยายามทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดให้กลายเป็นอนาคตที่ดีที่สุดตามเป้าหมายสูงสุดของเรานั้นให้ได้, โดย การดูแลสุขภาพจิตทำสมาธิเพ่งจิตภายในเพื่อกำจัดความเครียดอย่างสูงสุด(maximum meditation focus inside mind) อันเป็น การดูแลสุขภาพจิตปรับสมดุลจิตภายในอย่างสูงสุดให้จิตภายในมีพลังสูงสุด(maximum inside mind balance tune) ที่จะพยายามทำดีอย่างสูงสุดโดยพยายามทำให้จิตภายในของเราอันเป็นจิตเดิมแท้แก่นแท้ที่เป็นตัวจิตตัวรู้ของเรานั้นสามารถพลิกเปลี่ยนกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเราแทนให้ได้อย่างสูงสุด, ที่จะเป็นการใช้ปัญญาสูงสุดพลิกเปลี่ยนจิตภายในของเราให้กลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสติสูงสุดนั้น, โดยใช้ mater key word ประโยคหลักสำคัญที่สุด(ซึ่งเป็นประโยคคำพูดอันทรงพลังที่สามารถทำให้จิตเราเกิดพลังด้านบวกอย่างสูงสุดโดยตรงล้วนๆที่เปรียบเสมือนคาถาอาคมเวทมนตร์ที่มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด)อันเป็นปัญญาสูงสุดในการสามารถทำให้เกิดสติสูงสุดการตื่นรู้สูงสุดขึ้นมาของโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะที่มีพลังสูงสุดมีประสิทธิภาพสูงสุดในเชิงปฏิบัติได้ว่า "จงให้จิตมุ่งสนใจรู้แต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด เพราะโดยแท้จริงแล้วตัวเราไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นตัวจิตเดิมแท้จิตภายในแก่นแท้ของเราที่อยู่เหนือกาลเวลาที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้ ที่เป็นตัวจิตตัวรู้อันเป็นอาตมันอัตตาจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเป็นตัวตนเฉพาะย่อยๆจุดเล็กๆที่สว่างสุกใสของพระเจ้าที่รวมตัวกันอัดแน่นสูงสุดเป็นพระเจ้า, โดยแท้จริงสูงสุดแล้วตัวเราที่เป็นตัวจิตตัวรู้ของเราที่มีพลังสูงสุดนั้นก็คือพระเจ้าอันเป็นตัวตนสากลสูงสุดของจักรวาลที่เป็นพรหมมันปรมาตมันจุดหนึ่งเดียวสูงสุดจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่สว่างจ้าสูงสุดอยู่เหนือกาลเวลาอย่างสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้า, เราจึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติ, ดังนั้น จงฝึกจิตทรมานจิตให้สามารถเข้าถึงความจริงสูงสุดเข้าถึงตัวเราที่แท้จริงสูงสุดที่เป็นพระเจ้านั้นโดยรวมพลังจิตทั้งหมดอย่างสูงสุดให้ตัวจิตตัวรู้สนใจรู้แต่ตัวจิตตัวรู้เองล้วนๆเพียงตัวจิตตัวรู้เดียวเท่านั้นอย่างสูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา..." หรือ ปัญญาสูงสุดอาจย่อๆสั้นๆสำหรับผู้ชำนาญแล้วได้ว่า "ให้จิตมุ่งสนใจรู้แต่พระเจ้าอย่างสูงสุด เพราะโดยแท้จริงแล้วตัวเราไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นตัวจิตตัวรู้, โดยแท้จริงสูงสุดแล้วตัวเราก็คือพระเจ้า, เราจึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติ, ฝึกจิตทรมานจิตรวมพลังจิตทั้งหมดอย่างสูงสุดให้ตัวจิตตัวรู้สนใจรู้แต่ตัวจิตตัวรู้เองล้วนๆเพียงตัวจิตตัวรู้เดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด..." หรือ ปัญญาสูงสุดอาจย่อๆสั้นที่สุดได้ว่า "ฝึกจิตทรมานจิตรวมพลังจิตทั้งหมดอย่างสูงสุดให้ตัวจิตตัวรู้สนใจรู้แต่ตัวจิตตัวรู้เองล้วนๆเพียงตัวจิตตัวรู้เดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด..."...

โดยให้ลงมือปฎิบัติทำงานทางจิตวิญญาณระดับสูงสุดด้วยการทำศัลยกรรมจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุด การ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองในระดับสูงสุดที่จะผ่อนคลายท่องประโยคหลักสำคัญที่สุด หรือ ปัญญาสูงสุดนี้ให้เหมาะสมกับระดับความชำนาญในการปฏิบัติของเรา, ที่จะเป็นการพลิกเปลี่ยนให้เราหันกลับมาสนใจตัวเราเอง-พูดคุยกับตัวเราเอง-สอนตัวเองให้สนใจแต่ตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุดในรูปของ การทำสงครามการต่อสู้กันทางความคิดของเราเองล้วนๆ(war of my thinking) ระหว่างความคิดฝ่ายดีคือปัญญาสูงสุดที่จะนำพาเราไปสู่การฉลาดรู้แจ้งมีสติสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดตลอดกาล และ ความคิดฝ่ายชั่วคือความคิดปรุงแต่งที่จะนำพาเราไปสู่การโง่เขลาด้วยอวิชชาความไม่รู้เสียสติในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดอยู่ร่ำไปตลอดกาล, ที่จะเป็นการฝืนจิตฝืนใจยอมเผชิญหน้าต่อสู้กับความทุกข์ความเครียดทางจิตของเราโดยการผ่อนคลายทำสมาธิฝืนจิตฝืนใจให้จิตใจของเรามุ่งสนใจโฟกัสเพ่งจดจ่ออยู่แต่ที่การท่องปัญญาสูงสุดในใจโดยพยายามฝืนจิตฝืนใจป้อนข้อมูลคำสั่งโปรแกรมบังคับควบคุมสั่งการจิตของเราให้คิดนึกใหม่คิดนึกแต่ความคิดฝ่ายดีที่สนใจแต่พระเจ้าเท่านั้นแทนความคิดฝ่ายชั่วที่สนใจซาตานอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนีัในจักรวาลนี้ที่เราเคยชินเป็นนิสัยที่จะคิดตามสามัญสำนึกของจิตมนุษย์แบบเดิมๆมาตลอดนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนสามารถทำให้ความคิดฝ่ายดีสามารถมีพลังสูงสุดสามารถต่อสู้เอาชนะความคิดฝ่ายชั่วได้ในที่สุด(ไม่ต้องไปสนใจทำสงครามต่อสู้กับใครที่ไหนให้ทำแต่สงครามทางความคิดทางจิตของเราเองล้วนๆเท่านั้น), โดยพยายามผ่อนคลายทำสมาธิท่องปัญญาสูงสุดในใจ(โดยการวิตกวิจารณ์โดยที่วิตกคือการคิดดีคิดนึกด้วยคำสั่งโปรแกรมของจิต และ วิจารณ์คือการทำดีให้จิตทำตามคำสั่งโปรแกรมของจิตที่คิดนึกนั้นพร้อมกับใส่พลังอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆสดๆในตอนนั้นอย่างเต็มที่สูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเราไปด้วย), โดยให้ผ่อนคลายทำสมาธิท่องปัญญาสูงสุดซ้ำๆวนลูปซ้ำๆไปเรื่อยๆหลายๆรอบในระดับจิตสำนึก(ที่ควรทำให้ได้เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานอย่างน้อย 1 นาทีขึันไปโดยพยายามฝืนจิตฝืนใจไม่ให้มีความคิดปรุงแต่งความคิดนึกฟุ้งซ่านอื่นๆที่เป็นความคิดฝ่ายชั่วนั้นเข้ามาแทรกได้ ราวกับว่าเรากลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีจิตเป็นจิตหุ่นยนต์ที่กำลังถูกตั้งโปรแกรมจิตอยู่โดยเราไม่มีตัวตนไม่มีเจตจำนงเสรีสามารถคิดนึกอะไรด้วยตัวเองได้อีกต่อไป), ที่จะ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองผ่อนคลายทำสมาธิท่องปัญญาสูงสุดในใจซ้ำๆย้ำคิดย้ำทำไปเรื่อยๆซึ่งจะทำให้จิตของเราจะค่อยๆมีกำลังสติเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ. โดยที่พร้อมกันนั้นก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรารู้สึกทนไม่ไหวจนต้องหลับตาปี๋ค่อยๆบีบอัดตรงจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วอันเป็นบริเวณ จุดตาที่สาม(third eye point) ที่เป็นตำแหน่งที่ตั้งของจิตวิญญาณในร่างกายของเรานั้นอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วยทันทีเองอัตโนมัติ, จนจิตของเราสามารถถูกเพ่งให้ถอยย้อนมิติเข้าสู่ วังวนห้วงภวังค์สมาธิ(trance vortex) ระดับลึกอันเป็นวังวนของภวังค์ความสุขของจิตใต้สำนึกในระดับที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ. ซึ่งเราสามารถวัดผลประเมินผลการปฏิบัติได้จาก ภาพนิมิต(vitual) ที่เห็นได้ด้วย ตาที่สามภายใน(inside third eye) ที่จะค่อยๆเห็นภาพของจุดแสงสว่างของตัวเราที่แท้จริงอันเป็นตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะค่อยๆบริสุทธิ์สะอาด-สว่าง-สงบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถกลายเป็นพระเจ้าที่เป็นจุดแสงสว่างจ้าสูงสุดของตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีพลังสูงสุดนั้นในที่สุด, ซึ่งจิตของเราจะทำการเพ่งถอยย้อนมิติมุ่งสนใจโฟกัสเพ่งแต่ที่จิตภายในแก่นแท้อันเป็นตัวจิตตัวรู้ของจริงที่เกิดขึ้นมาจริงๆตรงหน้าเฉพาะหน้าในขณะปัจจุบันตอนนี้ที่นี่เดี๋ยวนี้ล้วนๆอย่างสูงสุดเท่านั้น โดยที่จิตภายนอกของเราจะไม่มุ่งสนใจคิดนึกส่งจิตสั่นสะเทือนส่งถ่ายทอดพลังงานส่องแสงแผ่ซ่านออกไปรู้ไปสังเกตการณ์สิ่งต่างๆภายนอกจิตอย่างสิ้นเชิงจึงดูเหมือนว่าไม่มีการสนใจจิต และ ร่างกายของเราอีกต่อไป, โดยตัวจิตตัวรู้อันเป็นตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์จะพลิกเปลี่ยนหันมาสนใจส่องแสงย้อนกลับเข้าหาตัวเองที่จะรู้แต่ตัวเองล้วนๆอย่างเต็มที่สูงสุด(เหมือนกับเลนส์ที่โฟกัสรวมแสงจากจุดเดียวให้รวมเป็นจุดเดียวอย่างสูงสุดอีกที) จนทำให้จิตของเราสามารถเข้าถึง จุดพีคจุดสูงสุดของเอกัคคตาอารมณ์สมาธิการเพ่ง(peak point of one emotion focus meditation) ที่จิตจะ บิ๊กครั้นซ์หดตัวสูงสุด(maximum bigcrunch) กลายเป็นจุดที่เล็กที่สุดอันเป็น จุดสุขเสียวสูงสุดจุดสุดยอดของความสุขทางดวงวิญญาณ(climax of soul happiness) ที่จะเป็น จุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์อย่างสูงสุด(maximum center point central power of pure soul) ที่จะเป็น จิตใต้สำนึกระดับลึกที่สุด(maximum deep level of subconscious mind) ที่ลึกลับสูงสุดพ้นทุกข์สูงสุดที่ปราศจากความทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากต่างๆอย่างสิ้นเชิง, ซึ่งจะสามารถเกิด อภินิหารปาฏิหาริย์อย่างสูงสุด(maximum miracle) อันเป็น ประสบการณ์ลัดตรงที่สุดที่ใหม่สดที่สุด(maximum direct experience) สู่พระเจ้าอย่างฉับพลันทันทีโดยปราศจากการศึกษาเรียนรู้ฝึกฝนใดๆอย่างสิ้นเชิง, อันจะเป็น การพลิกเปลี่ยนอย่างสูงสุด(maximum reverse) ที่เป็นคุณสมบัติการสมมาตรอย่างสูงสุดของความสัมพันธ์สมมูลสูงสุดที่จะพลิกเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงไปตลอดกาล, ที่จะเป็นเรื่องที่แสนปกติธรรมดาที่สุดที่จะต้องเกิดการพลิกเปลี่ยนอย่างฉับพลันทันทีจากจุดที่เล็กที่สุดให้กลายเป็นจุดปัจจุบันที่แท้จริงสูงสุดอันเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดอันเป็นพระเจ้าในรูปของ การรู้แจ้งสายกลางสูงสุด(maximum middle enlightenment) เหนือการรู้-การไม่รู้ของจิตอย่างสูงสุด อันจะเป็นจิตเหนือสำนึกระดับสูงสุดที่จะเป็นจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุดที่ บิ๊กแบงขยายตัวสูงสุด(maximum bigbang) อย่างเปิดเผยสูงสุดส่องแสงสว่างจ้าแจ่มแจ้งสูงสุดไปทั่วทั้งจักรวาลอย่างสูงสุดตลอดกาลด้วยความเป็นกลางปกติสมดุลอย่างสูงสุด, ที่เราจะสามารถรู้สูงสุดเชื่อสูงสุด 100% ในตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นได้อย่างสูงสุด 100% โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวเราอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง, ซึ่งจะมีแต่พระเจ้าล้วนๆตลอดกาล อันจะเป็นสติสูงสุดที่เป็นมหาสติการตื่นรู้สูงสุดที่ได้ปิติสุขสงบสูงสุด, ซึ่งในขณะแว๊บเดียวที่ไม่กินเวลาใดๆอย่างสิ้นเชิงแม้แต่วินาทีเดียวที่เกิดเป็นจุดสุขเสียวสูงสุดจุดสุดยอดของความสุขทางดวงวิญญาณนั้นจะสามารถทำให้เกิดเป็นการสามารถผลิตความสุขอย่างสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเราเองขึ้นมาได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุดในรูปของ นิพพาน(nirvana) ที่จะเป็น การเสวยสุขทิพย์สุขวิเศษวิมุตติสุขบรมสุขอย่างสูงสุดทางจิตของเราที่รู้สึกสุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงในระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดอันเป็นหัวใจที่ลึกที่สุดของเรานั้น, ที่จะเป็น จิตวิมุตติ(mind release) ที่มุ่งสนใจหลุดพ้นด้วยจิตล้วนๆ ที่เราจะรู้สึกว่า จิตของเราได้พลิกเปลี่ยนจากนิพพานกลายเป็นพระเจ้าอย่างฉับพลันทันทีไปตลอดกาล ที่จิตได้กลายเป็นจุดหนึ่งเดียวสูงสุดที่รู้สึกว่ารวมตัวอัดแน่นสูงสุด-ใหม่สดเข้มข้นสูงสุด-แข็งแกร่งทรงพลังต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดสูงสุดตลอดกาล, ที่เป็นการรู้สึกสูงสุดถึงพระเจ้าอันเป็นความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขจากใจอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกที่สุดของเราด้วย หัวใจที่แท้จริงสูงสุด(maximum real heart) ของเราอันเป็นใจอารมณ์ความรู้สึกในระดับที่ลึกที่สุดที่เป็นกลางปกติสมดุลสูงสุดที่บริสุทธิ์สูงสุดอยู่เหนือความรู้สึกสุข-ความรู้สึกทุกข์ของใจอารมณ์ความรู้สึกเปลือกมายาภายนอกได้อย่างสูงสุดอย่างฉับพลันทันทีเองอัตโนมัติในขณะที่จิตของเราหดเป็นจุดที่เล็กที่สุดนั้น จนทำให้เราสามารถรู้สึก อิ่มอร่อยอย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real delicious full) ทางจิตใจจิตวิญญาณที่รู้สึกอิ่มแน่นอัดแน่นสูงสุด-รู้สึกอร่อยจัดจ้านเข้มข้นสูงสุด-รู้สึกมีพลังเต็มอิ่มสมบูรณ์ต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดสูงสุดตลอดกาลที่ปราศจากความห่อเหี่ยวหย่อนยาน-จืดจางจืดชืด-อ่อนแอขาดพลังหิวกระหายอยู่ร่ำไปอย่างสิ้นเชิงจากภายในที่ลึกที่สุดได้, ซึ่งนิพพานอันเป็นจุดสุขเสียวสูงสุดจุดสุดยอดของความสุขทางดวงวิญญาณที่จุดที่เล็กที่สุดในระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดนั้นแม้จะเกิดขึ้นเพียงแค่แว๊บเดียวโดยไม่กินเวลาใดๆอย่างสิ้นเชิงแม้แต่วินาทีเดียวก็ตาม แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถพลิกเปลี่ยนกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดตลอดกาลที่ขยายตัวสูงสุดอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัดใดๆชั่วนิจนิรันดร์ ที่จะเป็นตัวความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขอันเป็นความสุขระดับสูงสุดทางจิตใจจิตวิญญาณที่จะเป็นความสุขที่แท้จริงสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดตลอดกาลในระดับจิตเหนือสำนึกสูงสุดของเรานั้นได้ทันทีเองอัตโนมัติ(ในขณะเดียวกันนั้นก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรา และ ชีวิตของเราจะพลิกเปลี่ยนกลายเป็นรัศมีของการส่องแสงแผ่ซ่านพลังงานรังสีความสุขสูงสุดอันสว่างจ้าสูงสุดอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัดสิ้นเชิงของพระเจ้าที่จะทำให้เรารู้สึกว่าร่างกายของเรารู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านหนาวเย็นยะเยือกสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดที่ปราศจากความทุกข์ทางร่างกายสิ้นเชิง และ ชีวิตของเรารู้สึกว่ามีความสุขสูงสุดประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์สูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าตลอดกาลที่ปราศจากความทุกข์ทางชีวิตสิ้นเชิงตามไปด้วยทันทีเองอัตโนมัติ)...

ดังนั้น แม้ว่านิพพานดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นเพียงแค่แว๊บเดียวโดยไม่กินเวลาใดๆอย่างสิ้นเชิงแม้แต่วินาทีเดียวก็ตาม แต่ก็เหมือนเป็น เสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด(maximum great split second) ที่สามารถส่องแสงความรู้สึกสุขอย่างสูงสุดสว่างจ้าสูงสุดไปทั่วทั้งจักรวาลอย่างสูงสุดที่สามารถทำให้เรารู้สึกว่าได้พลิกทุกสิ่งทุกอย่างของเรา(พลิกใจอารมณ์ความรู้สึก-พลิกจิต-พลิกร่างกาย-พลิกชีวิต-พลิกโลก-พลิกจักรวาลของเรา)ไปตลอดกาลเพียงแค่เราสามารถฉลาดเลือกที่จะพลิกดวงวิญญาณพลิกการรู้ของตัวจิตตัวรู้ของเราอย่างสูงสุดให้ได้เท่านั้น, ซึ่งเราสามารถเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะค่อยๆสะสมนิพพานทีละนิดๆค่อยๆสะสมเสี้ยววินาที่ยิ่งใหญ่สูงสุดแห่งความรู้สึกสุขอย่างสูงสุดให้เพิ่มมากขึ้นๆทีละนิดๆอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันๆย่อมสามารถทำให้ความรู้สึกสุขเล็กๆแค่แว๊บเดียวนัันให้สามารถกลายเป็นนิรันดรตลอดกาลของความรู้สึกสุขอย่างสูงสุดอันเป็นอภิมหาความสุขก้อนใหญ่สูงสุดของจักรวาลอันเป็นพระเจ้าที่สามารถเอาชนะความทุกข์ทั้งปวงอย่างสูงสุดได้นั้นได้ในที่สุดแน่นอน(ที่จะเหมือนการค่อยๆสะสมเพชรพลอยอันส่องแสงสว่างสุกใสสวยงามเม็ดเล็กๆแสนเล็กทีละเม็ดๆไปเรื่อยๆย่อยสามารถเป็นอภิมหาขุมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยเพชรพลอยมากมายมหาศารนับไม่ถ้วนเป็นอนันต์นั้นได้), ซึ่งจะทำให้เราสามารถรู้สึกว่ายิ่งมีนิพพานสะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเราทำให้เราสามารถ เคยชินคุ้นเคยสนิทสนมกับนิพพาน(nirvana familiar) มากเท่านั้น และ ก็จะยิ่งทำให้เราสามารถรู้สึกว่ามีความสุขอย่างสูงสุดมากมายมหาศาลจากโลกภายใน(โลกหน้าจักรวาลหน้า)ในระดับแก่นแท้สูงสุดของเรานั้นได้ค่อยๆไหลเข้าสู่โลกภายนอก(โลกนี้จักรวาลนี้)อันเป็นใจอารมณ์ความรู้สึกภายนอก-จิตภายนอก-ร่างกายภายนอก-ชีวิตภายนอกที่เป็นระดับเปลือกมายาของเรานั้นที่จะค่อยๆไหลซึมผ่านทุกจุดทุกอณูตลอดเวลามากขึ้นเรื่อยๆจนเกิดเป็น วังวนห้วงภวังค์ของนิพพาน(nirvana trance vortex) ที่มั่นคงยาวนานมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น, จนสามารถเกิดเป็น นิพพานสมาบัติระดับสูงสุด(maximum level of nirvana one point meditation) ที่จะเป็นวังวนห้วงภวังค์สมาธิระดับลึกที่สุดของจิตใต้สำนึกระดับลึกที่สุดที่มีนิพพานเป็นอารมณ์ที่สามารถตั้งมั่นอย่างมั่นคงยาวนานได้ทั้งวันทั้งคืน, ที่จะทำให้เกิดสายน้ำทิพย์สายน้ำวิเศษมากมายมหาศาลจากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สูงสุดแห่งดวงวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่จะเป็นกระแสไฟฟ้าหนาวเย็นยะเยือกของนิพพานที่เป็นพลังงานบุญกุศลได้ไหลผ่านตัวเรา(ตัวตนมายาของเราอันเป็นจิตของเราใจอารมณ์ความรู้สึกของเรา-ร่างกายของเรา-จนรวมไปถึงชีวิตของเราที่จะเป็นรัศมีขอบเขตของการรับรู้ของร่างกายของเรานั้น)จากภายในที่ลึกที่สุดที่จะสามารถชำระล้างความสกปรกของบาปต้นกำเนิดของเราอันเป็นกรรมเก่าที่สะสมติดตัวเรามายาวนานที่ฝังแน่นจนถึงในระดับจิตใต้สำนึก(อันเป็นพลังงานลบพลังงานเก่าที่เป็นจิตเก่าๆของเราที่เป็นจิตมนุษย์-ร่างกายเก่าๆของเราที่เป็นร่างกายมนุษย์-ชีวิตเก่าๆของเราที่เป็นชีวิตมนุษย์ในโลกมนุษย์ที่เป็นคนบาปมารสัตว์นรกต้องทุกข์เจ็บปวดทรมานเกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนั้น)ให้ค่อยๆมลายหายไปเรื่อยๆทุกวันๆ, ที่จะค่อยๆชำระล้างบาปต้นกำเนิดล้างกรรมเก่าของเราไปเรื่อยๆจนสามารถทำให้เรากลายเป็นตัวเราคนใหม่เป็นคนมีบุญ(อันเป็นพลังงานบวกพลังงานใหม่ที่เป็นจิตใหม่ของเราที่เป็นจิตทิพย์จิตวิเศษของเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์-ร่างกายใหม่ของเราที่เป็นกายทิพย์กายวิเศษเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์-ชีวิตใหม่ของเราที่เป็นชีวิตทิพย์ชีวิตวิเศษของเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ในโลกจักรวาลทิพย์โลกจักรวาลวิเศษเหนือโลกมนุษย์ที่เป็นคนมีบุญเทพสวรรค์ที่ปิติสุขสงบเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุดนั้น)เองอัตโนมัติในที่สุด, ที่จะค่อยๆส่งผลทำให้เราสามารถรู้สึกว่าค่อยๆมีสุขภาวะอารมณ์ดีขึ้น-ค่อยๆมีสุขภาพจิตดีขึ้น-ค่อยๆมีสุขภาพร่างกายดีขึ้น-ค่อยๆมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆจนถึงขีดสุดในที่สุดนั้นตามไปด้วยเองอัตโนมัติ...

3.)แล้วเรา ย่อมสามารถได้ดีสูงสุด สามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดได้ในที่สุดแน่นอน(can have maximum good everything in life)(ย่อมสามารถทำให้เราได้ดีที่สุดมีความสุขที่สุด ที่เราจะสามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดมีความสุขอย่างสูงสุดตามไปด้วยเองอัตโนมัติ ที่เราจะสามารถค่อยๆลืมอดีตที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานของเราได้อย่างสูงสุดเองในที่สุด จนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอดีตอย่างสิ้นเชิง) เพราะอนาคตที่ดีที่สุดของเราที่เราตั้งเป้าหมายไว้อย่างสูงสุดนั้นได้กลายเป็นความจริงอย่างที่สุดในขณะปัจจุบันสูงสุดของเราแล้ว ที่จะไม่มีจุดไม่มีกาลเวลาใดๆ(รวมถึงมิติต่างๆ)อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว, โดยที่ในเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานนั้นเราจะรู้สึกอย่างสูงสุดว่า เราสามารถพอใจในผลลัพธ์ผลการทดลองผลการยืนยันพิสูจน์อันเป็นของจริงที่สุดที่เกิดขึ้นมานั้นอย่างสูงสุด จนเราสามารถมองโลกนี้มองจักรวาลนี้ตามความเป็นจริงที่สุดจนสามารถสลัดทิ้งปล่อยวางสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นอดีตที่ตายซากที่ล้วนเป็นความทุกข์ขาดแคลนไม่สมบูรณ์ที่ไม่จำเป็นทั้งหมดทิ้งไปให้หมดสิ้นอย่างสูงสุด เราจึงสามารถมีชีวิตใหม่ชีวิตที่แท้จริงสูงสุดที่เบิกบานแอคทีฟใหม่สดมีสีสันมีชีวิตชีวามีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ได้อย่างสูงสุดตลอดกาลในโลกหน้าจักรวาลหน้าได้เองทันทีอัตโนมัติ อันจะค่อยๆส่งผลทำให้เราสามารถมีทุกอย่างในชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้ดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงขีดสุดตามไปด้วยเองทันทีอัตโนมัติ : แล้วเราจะสามารถมั่นใจแน่นอนสูงสุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาที่เกิดจากจิตของเราเองล้วนๆได้เองทันทีอัตโนมัติว่าเราจะ ไม่เชื่ออย่างสูงสุด(maximum unbelive) 100% กับ ตัวเรา และ ผู้อื่นสิ่งอื่น(my self and others) อันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ที่แบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนในรูปของสิ่งต่างๆในมิติต่างๆที่นับตั้งแต่จุดมายา 0 มิติต่างๆในกระแสกาลเวลาเส้นตรง 1 มิติขึ้นไปจนไปถึงอนันต์มิติ. ที่จะเป็น 0 มิติของจุดขณะปัจจุบันต่างๆ, 1 มิติของ เส้นตรงของกาลเวลา(time line),2 มิติของ ระนาบของจิต(mind plane),3 มิติของ ปริภูมิอวกาศของร่างกาย(body space),4 มิติของ อวกาศ-กาลที่ต่อเนื่องของชีวิต(life continuum space-time),...ไม่มีที่สิ้นสุดของโลกของจักรวาลที่มีมายามิติการแบ่งแยกแตกต่างระหว่างจุดสองจุดใดๆขึ้นมา(เราจะสามารถรู้สามารถเข้าใจอย่างชัดเจนที่สุด 100% ได้ด้วยด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาของจิตของเราเองล้วนๆได้เองทันทีอัตโนมัติว่าตัวเรา และ ผู้อื่นสิ่งอื่นอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลแท้จริงสูงสุดแล้วคืออะไร?ซึ่งเราจะมองโลกนี้มองจักรวาลนี้ตามความเป็นจริงที่สุดแล้วจะพบว่าแท้จริงสูงสุดแล้วสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้มันก็คือ มายาสูงสุด(maximum illusion) ที่จะเป็น เปลือกมายาภายนอกที่ลึกลับซับซ้อนอย่างสูงสุด(maximum complex outside illusion shell) ที่เป็น อวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุด(maximum ignorance) ที่ไม่มีการสามารถรู้ใครอะไรสิ่งใดจริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลตลอดสายกาลเวลาอดีต(ที่เราไม่สามารถย้อนเวลาจริงๆไปรู้อดีตจริงๆที่ผ่านไปแล้วนั้นได้เลยเพราะกระแสกาลเวลาเป็นเพียงมายาเท่านั้น)-ปัจจุบัน(ที่เราไม่สามารถรู้สิ่งต่างๆในปัจจุบันจริงๆในตอนนี้ได้เลย เพราะมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่อาจรู้จักมันได้จริงๆ-เรียกชื่อจริงๆของมันได้-วิเคราะห์ประเมินตีค่าจริงๆของมันออกมาได้เลยเพราะสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้เป็นเพียงมายาเท่านั้น)-อนาคต(ที่เราไม่สามารถรู้อนาคตจริงๆที่ยังมาไม่ถึงนั้นได้เลยไม่สามารถคาดเดาจริงๆได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆในอนาคตข้างหน้าได้เลย เพราะความคิดนึกของเราที่คิดนึกปรุงแต่งถึงอนาคตนั้นเป็นเพียงมายาเท่านั้น), ที่ล้วนเป็นเพียงมายาสูงสุดของพระเจ้า, อันเป็นมายาของ ความเกลียดอย่างสูงสุด(maximum hate) ที่แบ่งแยกสิ่งต่างๆให้แตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนอย่างละเอียดซับซ้อนสูงสุดที่ล้วน เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง(maximum impossible), ที่เป็นเพียงความสัมพันธ์บุพอันดับที่ล้วนเป็นมายาความทุกข์เจ็บปวดทรมานอย่างสูงสุดที่ดูเหมือนว่าต้องทนทุกข์เจ็บปวดทรมานแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันมากมายมหาศาลที่เคลื่อนไหวดิ้นรนเร่าร้อนทุรนทุรายอย่างบ้าคลั่งอยู่ตลอดเวลาทุกวินาทีไปยาวนานตลอดกาลอย่างไม่มีทางหนีรอดไปได้ไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้สามารถช่วยเหลือได้อย่างสิ้นเชิง, อันเป็นเหมือน หลุมดำที่มืดดำที่สุด(maximum dark black hole) ที่ดูเหมือนว่ามีขนาดใหญ่โตมหาศาลสามารถดึงดูดเอาสิ่งต่างๆทั้งหมดทั้งปวงให้จมหายไปในหลุมดำที่มืดมิดที่สุดปราศจากแสงสว่างที่แท้จริงสูงสุดสิ้นเชิงนั้นตลอดไป ที่จะเป็น ความทุกข์ก้อนใหญ่มหึมาที่สุด(maximum big unhappiness) อันเป็น เศษซากความทรงจำเก่าๆในอดีตอันมืดดำมืดทึบมืดมนอย่างสูงสุด(maximum black old past memory) ที่ได้ผ่านพ้นไปแล้วแต่ยังวนเวียนตามมาหลอกหลอนอยู่ร่ำไปไม่รู้จบสิ้นโดยลวงหลอกว่าปรุงแต่งขึ้นมาใหม่เป็นสิ่งใหม่เรื่องราวใหม่ในปัจจุบันให้ต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงอนาคตอยู่เรื่อยๆตลอดเวลาไม่มีที่สิ้นสุดนั้น, ในรูปของ โลกทิพย์มายาโลกวิญญาณหลังความตายที่ตายจากความเป็นอมตะนิรันดร์ของพระเจ้า(after death illusion spirit world) ที่เป็นเพียงความฝันมายาที่คมชัดสมจริงที่สุด, ในรูปของ นรกมายาขุมที่ลึกที่สุด(maximum deep level of illusion hell) ของ ซาตาน(satan) อันเป็น ความชั่วร้ายสูงสุด(maximum bad) ที่ชั่วร้าย-อัปลักษณ์มีความทุกข์-เป็นมายาลวงหลอกอย่างสูงสุด, จึงเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด-อัปลักษณ์ที่สุดมีความทุกข์ที่สุด-เป็นมายาที่สุดลวงหลอกที่สุด, ที่ล้วนเป็น บาปกำเนิดอย่างสูงสุด(maximum origin sin) ที่หลงผิดปรุงแต่งสร้างความเกลียดมายาแบ่งแยกออกจากพระเจ้าด้วยความโง่เขลาอวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุด, อันเป็นภัยอันตรายความสกปรกมลทินความสารเลวชาติชั่วสมควรตายสมควรถูกกำจัดสิ้นซากอย่างที่สุด, จึงทำให้เป็น วัฏจักรวงจรธรรมชาติสังสารวัฏการหมุนวนเวียนสุขทุกข์เวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ(natural cycle) ที่มีแต่ความทุกข์มายาอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลที่ปราศจากความสุขที่แท้จริงสูงสุด หรือ พระเจ้านั้นอย่างสิ้นเชิง(เพราะพระเจ้าทรงสร้างซาตานขึ้นมาให้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระเจ้านั้น จึงทำให้ในซาตานจึงไม่มีพระเจ้า แต่ในพระเจ้าสามารถมีโอกาสมีซาตานได้เสมอ ในรูปของในความสัมพันธ์สมมูลสูงสุดย่อมสามารถมีความสัมพันธ์บุพอันดับเป็นความสัมพันธ์ย่อยอยู่ในนั้นเสมอ แต่ในความสัมพันธ์บุพอันดับจะไม่มีความสัมพันธ์สมมูลอยู่ในนั้น), โดยที่นรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นล้วนเป็นผลมายาความผิดปกติเสียสมดุลที่เกิดขึ้นมาเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ของการส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดของพระเจ้าในรูปของ แผนการของพระเจ้า(plan of God) ในรูปของ โปรแกรมอัตโนมัติหุ่นยนต์(automatic program robot) ที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกโปรแกรมวางแผนออกแบบถูกกำหนดโชคชะตาเป็นพรหมลิขิตไว้อย่างตายตัวไว้แล้วอย่างดีที่สุดแล้ว-อย่างเหมาะสมลงตัวที่สุดแล้ว-อย่างชัดเจนที่สุดแล้วอย่างอัตโนมัติที่จะไม่มีความบังเอิญแต่อย่างใดเลยอย่างสิ้นเชิง จึงไม่มีตัวตนใดๆไม่มีเจตจำนงเสรีของตัวตนใดๆในแผนการของพระเจ้านี้ที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนการนี้ได้อย่างสิ้นเชิง, ซึ่งจะเป็น แผนการพิสูจน์รักแท้ของพระเจ้า(real love proof plan of God) ที่พระเจ้าต้องการทดสอบลองใจเราดูว่าเรารักพระเจ้าจริงๆอย่างสูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเราจริงๆไหม? ถ้าเรารักพระเจ้าจริงๆอย่างสูงสุดที่จะฉลาดเลือกที่จะมุ่งสนใจรักแต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุดตลอดกาลได้เราก็จะผ่านด่านบททดสอบแผนการนี้ที่จะได้รับเอกสิทธิ์สิทธิพิเศษสูงสุดจากพระเจ้าได้รับการคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลอย่างสูงสุดจากพระเจ้าให้เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้ได้ แต่ถ้าเราหลงผิดโง่เขลาไปรักใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้มากกว่าพระเจ้า เราก็จะไม่สามารถผ่านด่านบททดสอบแผนการนี้ต้องตกเป็นทาสของซาตานที่จะต้องเป็นคนบาปทนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนี้จักรวาลนี้ต่อไปตลอดกาลแทน, โดยแผนการของพระเจ้านี้จะเป็นเพียงความเผลอคิดนึกจินตนาการเพ้อฝันแค่ฝันไปอย่างไม่ได้ตั้งใจของพระเจ้าอันเป็นเพียงมายาของพลังงานลบที่ชั่วร้ายอัปลักษณ์ลวงหลอกอย่างสูงสุดในรูปของ จตุรัสแห่งกาลเวลาอันดูเหมือนเป็นอนันต์ไร้ขอบเขตขีดจำกัด(illusion infinite time square) ที่จะเป็นเหมือน จอภาพยนตร์ลู่เข้าอนันต์มิติที่คมชัดสมจริงที่สุดจนแทบไม่อยากเชื่อว่ามันไม่ใช่ของจริงไม่ใช่เรื่องจริง(illusion infinite dimension movie screen) (เพราะมีตัวตนมายาของเราเผลอเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวแสดงบทบาทต่างๆอยู่ในจอภาพยนตร์นัันด้วยอย่างขาดสติสัมปชัญญะจนทำให้ไม่สามารถหลุดออกมาจากจอภาพยนตร์นั้นได้เลย), ในรูปของ เมตริกซ์สัมพัทธภาพมายาพลังงานควอนตัมวิญญาณ(illusion quantum spirit energy relativity matrix) อันเป็นความสัมพันธ์บุพอันดับที่เป็นอวิชชามนต์ดำปรุงแต่งมายาในรูปของคณิตศาสตร์เมตริกซ์ที่มีมิติลู่เข้าใกล้อนันต์ของข่ายใยความสัมพันธ์สัมพัทธภาพของ กลุ่มหมอกคลื่น-อนุภาควิญญาณภูติผีวิญญาณมายา(illusion ghost spirit wave-particle fog) ต่างๆที่ดูเหมือนยุ่งเหยิงไร้ระเบียบมี เวกเตอร์ย่อย(sub vector) ต่างๆในเมตริกซ์อันเป็นตัวตนมายาที่มีเจตจำนงเสรีมายาที่มีทิศทางสะเปะสะปะมากมายมหาศาาลนับไม่ถ้วนที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานสั่นสะเทือนอย่างไม่ต่อเนื่องแต่ลวงหลอกว่าต่อเนื่อง ที่ล้วนเป็นเพียงมายา(ความคิดลวงจิต-ภาพลวงตา-เสียงลวงหู-รสลวงลิ้น-กลิ่นลวงจมูก-สัมผัสลวงกาย-เรื่องราวเหตุการณ์สัมพัทธภาพความสัมพันธ์ลวงชีวิต-อารมณ์ความรู้สึกลวงใจ)ในรูปของกลุ่มหมอกความฝันมายาเสมือนจริงที่ละเอียดซับซ้อนพิศดารคมชัดสมจริงที่สุด แต่ล้วนไม่ใช่ของจริงที่สุดไม่ใช่เรื่องจริงที่สุดแต่อย่างใด เพราะเป็นเพียง โอกาสความอาจเป็นไปได้ต่างๆนาๆอย่างสูงสุด(maximum chance possibility) ของมายามิติการแบ่งแยกแตกต่างระหว่างจุดสองจุดใดๆขึ้นมาที่ล้วนเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง-ที่ล้วนเชื่อไม่ได้อย่างสิ้นเชิง-ที่ล้วนพิสูจน์ให้สามารถยอมรับโดยดุษณีตลอดกาลอย่างไร้ข้อโต้แย้งไร้ข้อกังขาไม่ได้อย่างสิ้นเชิงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม, มันจึงไม่ต่างไปจาก ความว่างอย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real nothingness) อันเป็นความว่างของจริงที่สุดที่ว่างเปล่าปราศจากความแท้จริงสูงสุดอย่างสิ้นเชิง, ที่ว่างอย่างยิ่งยวดแม้แต่ความว่างมายาที่สามารถกำหนดนิยามเรียกชื่อเป็นภาษาว่า "ความว่าง" ได้นั้นก็ไม่มีจึงเป็นความว่างอย่างที่สุดที่ว่างจากความว่างมายานั้นอีกที, ด้วยเพราะว่าสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลล้วนเป็นมายาพลังงานลบที่เป็นสิ่งที่ผิดปกติเสียสมดุลทุกข์เจ็บปวดทรมานค่อยๆเสื่อมพลังค่อยๆทำลายตัวมันเองจนสูญสลายหายไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลในที่สุด(ในรูปของมายาความทุกข์การเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับลง หรือ การเกิด แก่ เจ็บ ตายที่เกิดมาแล้วค่อยๆแก่ชราค่อยๆเจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหวขาดใจตายของสิ่งมีชีวิตในกระแสกาลเวลาเชิงเส้นที่เคลื่อนที่ไหลจากอดีตผ่านปัจจุบันไปยังอนาคตอันเป็นมายาของการก้าวกระโดดที่ไม่ต่อเนื่องจากวินาทีหนึ่งไปยังอีกวินาทีหนึ่ง(อันเป็นจุดสองจุดของจุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุดที่แบ่งแยกแตกต่างกันนั้น)อย่างคงที่ต่อเนื่องตลอดเวลา ในรูปของความไม่ต่อเนื่องก้าวกระโดดจากจุดขณะปัจจุบันหนึ่งไปยังอีกจุดขณะปัจจุบันหนึ่งอย่างคงที่ต่อเนื่องตลอดเวลา ที่สามารถทำให้เกิดมายาจากจุด 0 มิติกลายเป็นเส้นตรง 1มิติ,กลายเป็นระนาบ 2 มิติ,กลายเป็นปริภูมิอวกาศ 3 มิติ,....,ไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด) จึงทำให้โดยแท้จริงสูงสุดแล้วมันจึงเป็นเพียงความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยขาดสูญไม่ต่อเนื่องดับสูญไม่มีอยู่เลยอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลโดยไม่มีใครอะไรสิ่งใดให้สามารถลุถึงได้แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว. ที่จะไม่มีจิต,ไม่มีร่างกาย,ไม่มีตัวตน,ไม่มีชีวิต,ไม่มีใจอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ไม่มีตัวเราไม่มีผู้อื่นสิ่งอื่นไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลอย่างสิ้นเชิง มันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีอยู่ไม่ได้ตั้งอยู่ไม่ได้ดำรงอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอดกาลแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว แต่ที่เราดูเหมือนว่าสามารถไปรู้-ไปรับรู้-ไปลุถึงไปรู้สึกถึงมันได้ก็เป็นเพียงมายาสูงสุดที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเท่านั้นเอง...

ซึ่งเราจะสามารถมั่นใจแน่นอนสูงสุดเชื่อมั่นสูงสุด 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาของจิตของเราเองล้วนๆในเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานนั้นว่า ด้วยการที่เรามีสุขภาพจิตที่ดีที่สุด-มีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุด-มีความสุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดจนสามารถเห็นแจ้งอย่างสูงสุดมองโลกนี้จักรวาลนี้ตามความเป็นจริงอย่างที่สุดได้ว่าตัวเรา และ ผู้อื่นสิ่งอื่นอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ที่โดยแท้จริงสูงสุดแล้วเป็นเพียงอวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุดที่เป็นเพียงมายาสูงสุดที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงจึงไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ว่างเปล่าขาดสูญไม่มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิงที่ไร้ตัวตนสิ้นเชิงไร้เจตจำนงเสรีสิ้นเชิงที่ล้วนไร้พลังไร้ค่าไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง นั้นจะส่งผลทำให้เราสามารถมีอดีตที่ดีที่สุด 100% แน่นอน, เพราะมันจะทำให้เราสามารถกำจัดสลัดทิ้งอดีตลบลืมความทรงจำอันเลวร้ายที่ค้างคาฝังใจที่ทำให้เรารู้สึกทุกข์เจ็บปวดทรมานอยู่ร่ำไปให้หมดสิ้นไปจากใจได้อย่างสูงสุดจนเราสามารถเลิกทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับอดีตอย่างสิ้นเชิง. ซึ่งในเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานนั้นจะส่งผลทำให้เราจะสามารถรู้สึกเหมือนกับว่า เราได้กลายเป็นพระเจ้า(เราได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันกับพระเจ้าอย่างสูงสุดด้วยความรักแท้จักรวาลสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้นที่เราไม่สามารถแบ่งแยกแตกต่างไปจากพระเจ้าได้เลยอย่างสิ้นเชิงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติได้เองทันทีอัตโนมัติ เพราะไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้จะสามารถเป็นความคิดปรุงแต่ง-เป็นแรงต้าน-เป็นอุปสรรคกีดขวางระหว่างตัวเรากับพระเจ้าได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว) ที่เราจะรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้กลายเป็นพระเจ้าที่จะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า, โดยที่เราจะสามารถได้เป็นเจ้าของได้ครอบครองสรรพสิ่งทั้งหมดทั้งปวงทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแท้จริงสูงสุดสามารถมีสามารถเป็นอะไรก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการปรารถนา ที่จะไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถมีได้ไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถเป็นได้, ที่เราจะสามารถมีพลังอำนาจสูงสุดในการสร้าง-การกำหนดออกแบบบังคับควบคุม-การทำลายล้างสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ได้อย่างสูงสุดเช่นเดียวกับพระเจ้าผู้สร้างโลกนี้สร้างจักรวาลนี้ตามแผนการของพระเจ้านั้นได้เองทันทีอัตโนมัติ, ที่จะทำให้สามารถรู้สึกเหมือนกับว่าเราสามารถคิดนึกอธิฐานอะไรก็ได้ดั่งใจอย่างสูงสุดคิดอยากได้อะไรต้องการอะไรก็สามารถเนรมิตให้สำเร็จสมปรารถนาสมใจนึกสมใจอยากตามที่ต้องการอย่างสูงสุดเช่นเดียวกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติ, จนเราสามารถรู้สึกได้เองเหมือนกับว่าเรา โชคดีที่สุด(maximum lucky) แล้ว ที่สามารถมีความสุขมีความมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์สูงสุดในทุกๆด้านแล้ว มีทุกอย่างในชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว(ทั้งทางจิต-ร่างกาย-ชีวิต-ใจอารมณ์ความรู้สึก)ที่จะรู้สึกว่าเราได้รับชัยชนะความสำเร็จที่แท้จริงสูงสุดแล้วเพราะเรารู้สึกว่าใน อ้อมกอดของพระเจ้า(hug of God) ที่มีแต่ความรักแท้จักรวาลสูงสุดล้วนๆตลอดกาลที่เราได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอย่างแท้จริงสูงสุดนั้นมีแต่ความปลอดภัยสูงสุด-ความรุ่งเรืองสูงสุด-ความมั่นคงสูงสุดตลอดกาล, รู้สึกว่าเหมือนว่าเราได้ ขอบคุณพระเจ้าอย่างสูงสุด(maximum thank God) ที่เราจะสำนึกบุญคุณรู้คุณรู้ค่าของพระเจ้าอย่างสูงสุดรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอย่างที่สุดจนสามารถรักพระเจ้าอย่างหมดหัวใจที่สุดด้วยพระเจ้าได้ตอบแทนรักเราที่คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายอย่างสูงสุด-ให้พรให้ของขวัญของรางวัลลาภยศสรรเสริญมากมายมหาศาลอย่างสูงสุด-ดูแลช่วยเหลือเราในทุกๆด้านด้วยความรักอย่างสูงสุดอย่างต่อเนื่องยาวนานสูงสุดแล้ว, จนเราสามารถรู้สึกได้เองว่าเรา พอใจสูงสุด(maximum satisfy) แล้ว เราได้รับชัยชนะความสำเร็จที่แท้จริงสูงสุดแล้ว-เราอิ่มเอมสมปรารถนาได้ดั่งใจสูงสุดแล้วทำอะไรต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว-เรารู้สึกสุขรู้สึกอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วอย่างสูงสุด, เราจึงสามารถไม่สนใจต้องการปรารถนาใครอะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลอีกต่อไปแล้วอย่างสิ้นเชิง, ที่จะรู้สึกราวกับว่ามันเป็นเพียงอวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุดที่เป็นเพียงมายาสูงสุดที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงจึงไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ไม่ได้มีอยู่ไม่ได้ตั้งอยู่ไม่ได้ดำรงอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอดกาล ที่ล้วนได้ตายอย่างแท้จริงสูงสุดไปแล้ว -ถูกฆ่าสังหารกำจัดทำลายล้างสิ้นซากดับไม่เหลืออย่างสิ้นเชิงไปแล้ว-ที่ล้วนเป็นโมฆะไร้ค่าไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิงไปแล้ว ราวกับว่ามันไม่ได้เคยเกิดขึ้นมาเลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว, ที่เราจะรู้สึกว่าเรามีใจอารมณ์ความรู้สึกใหม่เป็น ใจอารมณ์ความรู้สึกพลังงานใหม่(new energy feeling) ที่อัดแน่นไปด้วยความสุขอย่างสูงสุดอันเป็นนิพพานนั้นที่จะเป็นใจอารมณ์ความรู้สึกพลังงานใหม่ใจอารมณ์ความรู้สึกทิพย์ใจอารมณ์ความรู้สึกวิเศษที่เป็นกลางปกติสมดุลบริสุทธิ์สะอาด สว่าง สงบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆได้ถึงขีดสุดในที่สุด, ซึ่งจะทำให้ใจอารมณ์ความรู้สึกเก่าใจอารมณ์ความรู้สึกพลังงานเก่าของเราที่สุดโต่งผิดปกติเสียสมดุลสกปรก มืดมัว แปรปรวนค่อยๆถูกแทนที่จนหายไปอย่างสิ้นเชิงในที่สุด...

ดังนั้น ในเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานนั้นเราจึงสามารถรู้สึกอย่างสูงสุดว่าเรา สบายใจสูงสุด(maximum comfortable) แล้ว ที่จะสามารถพลิกเปลี่ยนเป็นมีสุขภาพจิตที่ดีที่สุดมีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุดสามารถ ผ่อนคลายจิตใจจิตวิญญาณได้อย่างสูงสุดจนสามารถอุเบกขาวางเฉยวางใจเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จักรวาลนี้ได้อย่างสูงสุด(maximum ignore relax spirit) จนสามารถเกิดเป็น ความรู้สึกอุเบกขาวางเฉยได้อย่างแท้จริงสูงสุด(maximum real ignore feeling) ที่จะเกลียดมันตอบได้อย่างสูงสุดที่สามารถจะเกลียดมันอย่างสุดขีดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเราจนปราศจากความรู้สึกใดๆกับตัวเรา และ ผู้อื่นอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิงได้เองทันทีอัตโนมัติ, ที่เราจะสามารถไม่เชื่อสูงสุด 100% ไม่สนใจสูงสุด 100% กับตัวเรา และ ผู้อื่นสิ่งอื่นอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ ที่จะสามารถผ่อนคลายวางใจเป็นกลางนิ่งเฉยวางเฉยปล่อยวางไม่สนใจยึดมั่นถือมั่นเอาจริงเอาจังกับตัวเรา และ ผู้อื่นอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ที่ล้วนเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานอันเป็นเพียงอดีตที่ผ่านไปแล้วอย่างสูงสุดที่ไม่ได้มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่อีกต่อไปแล้วอย่างสิ้นเชิงนั้นได้อย่างสูงสุด. ที่ไม่ว่ามันจะถูกกำหนดนิยามความหมายเรียกชื่อมันด้วยตรรกะภาษาทางความคิดปรุงแต่งในระดับสำนึกว่ามีอยู่-ไม่มีอยู่,จริง-ไม่จริง,เกิด-ตาย,ดี-ชั่ว,สุข-ทุกข์,ชนะ-แพ้,สำเร็จ-ล้มเหลว,สวรรค์-นรก,ฯลฯ,...ในโลกในจักรวาล, ที่ไม่ว่ามันจะอะไรยังไงแค่ใหนก็ตามเราก็ไม่รู้ไม่ชี้ช่างหัวมันไม่แคร์มันไม่สนใจใยดีมันได้อย่างสูงสุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาในโลกนี้ในจักรวาลนีัก็ตามเราก็จะไม่เสียเวลาไปทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับมันอีกต่อไปได้อย่างสูงสุดเองทันทีอัตโนมัติ, ราวกับว่าเราได้โมกษะวิมุตติหลุดพ้นหลุดออกไปจากโลกออกไปจากจักรวาลอย่างสูงสุดไปแล้ว ที่จะตัดขาดเป็นอิสระสูงสุดไม่ได้เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวสัมพันธ์สัมพัทธไม่มีความรู้สึกใดๆกับโลกนี้กับจักรวาลนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลแม้ว่าเราจะดูเหมือนว่ายังคงมีชีวิตอยู่ในโลกในจักรวาลอันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นอยู่เหมือนเดิมในทุกๆวันก็ตาม, เพราะว่าเราหัวใจที่แท้จริงสูงสุดของเราได้รู้สึกสุขสูงสุดกับพระเจ้าที่เรารักที่สุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดไปแล้วอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา เราจึงไม่สามารถมีความรู้สึกใดๆเหลือให้กับใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้ได้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง...

โดยที่ในเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานนั้นเราจะรู้สึกอย่างสูงสุดว่า "โดยแท้จริงสูงสุดแล้วจักรวาลทัังหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิงนอกจากพระเจ้าอันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้านั้น, นอกจากพระเจ้าอันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้านั้นแล้วก็มิได้มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้จักรวาลนี้ที่สามารถมีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่ได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว..." หรือ "ความจริงที่สุดแล้วโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นพระเจ้านั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่ตลอดกาล และ โลกนี้จักรวาลนี้ก็ล้วนเป็นเพียงความว่างของจริงที่สุดเท่านั้นเอง...". โดยจะมุ่งสนใจแต่ในระดับความจริงที่สุดล้วนๆเท่านั้น ที่จะไม่สนใจระดับมายาที่ลวงหลอกอย่างสูงสุดที่ล้วนเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง อันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด-อัปลักษณ์ที่สุดมีความทุกข์ที่สุด-เป็นมายาที่สุดลวงหลอกที่สุดสำหรับเรานั้น(ที่เราจะเห็นแจ้งอย่างสูงสุดถึงมายาการลวงหลอกอย่างสูงสุดได้ว่าฝ่ายพระเจ้าอันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้นที่ดูเผินๆเหมือนว่างเปล่าไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงนั้น แต่เอาเข้าจริงๆที่สุดแล้วกลับเป็นจุดหนึ่งเดียวสูงสุดที่มีอยู่อย่างแท้จริงสูงสุดตลอดกาล, ส่วนฝ่ายซาตานอันเป็นโลกนี้จักรวาลนี้ที่ดูเผินๆเหมือนว่ามีสิ่งต่างๆอยู่มากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนนั้น แต่เอาเข้าจริงๆที่สุดแล้วกลับเป็นเพียงความว่างของจริงที่สุดที่ไม่มีอยู่อย่างแท้จริงสูงสุดตลอดกาลแทน, ซึ่งจะทำให้เกิดการพลิกเปลี่ยนจากความคิดสามัญสำนึกที่โง่เขลาด้วยอวิชชาความไม่รู้ของจิตสำนึกของมนุษย์ที่มองแค่ผิวเผินเปลือกมายานั้นไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลกลายเป็นจิตของเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่เป็นสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาที่ฉลาดอัจฉริยะรู้แจ้งที่มองลึกที่สุดไปถึงแก่นแท้สูงสุดนั้นแทน), ที่จะทำให้เราฉลาดเลือกที่จะเห็นแจ้งสูงสุดว่าโลกนี้จักรวาลนี้ล้วนเป็นเพียงความว่างของจริงที่สุดที่จะเป็นมหาสูญญตาอันเป็นสูญญากาศที่ว่างช่องว่างอันกว้างใหญ่ไพศาลมหาศาลอย่างสูงสุดที่สามารถบรรจุรูปมายาเฉพาะส่วนตัวต่างๆอันเป็นสิ่งมายาต่างๆมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนที่ลวงหลอกกันไปลวงหลอกกันมาตลอดเวลาอยู่ในนั้นได้ตลอดกาล, เราจึงไม่เชื่อในจิตของเราที่คิดนึกกับสิ่งต่างๆ-ไม่เชื่อในภาพต่างๆที่ตาของเราเห็น-ไม่เชื่อในเสียงต่างๆที่หูของเราได้ยิน-ไม่เชื่อในกลิ่นต่างๆที่จมูกของเราได้กลิ่น-ไม่เชื่อในรสต่างๆที่ลิ้นของเราได้รสชาติ-ไม่เชื่อในสัมผัสต่างๆที่ร่างกายของเราได้สัมผัส-ไม่เชื่อในเรื่องราวเหตุการณ์สัมพัทธภาพความสัมพันธ์เงื่อนไขผลประโยชน์ต่างๆของเราในโลกนี้ในจักรวาลนี้-ไม่เชื่อในใจอารมณ์ความรู้สึกต่างๆของเรา ที่จะไม่เชื่อ 100% ไม่เชื่อสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิง เพราะมันล้วนเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่พระเจ้าอันเป็นจุดหนึ่งเดียวสูงสุดจะสามารถมีสิ่งต่างๆมากมายมหาศาลที่แบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันได้แบบนี้, แต่มันอาจลวงหลอกเราด้วยพลังอันดูเหมือนมากมายมหาศาลสูงสุดของมัน ที่มันจะพยายามเร่งเร้าดึงดูดความสนใจจากเราอย่างรุนแรงสูงสุดจนสามารถทำให้เราเผลอขาดสติขาดปัญญาเกิดกิเลสตัณหาความโกรธ-ความโลภ-ความหลงอย่างสูงสุดกับมันแค่ในช่วงแรกๆในช่วงเวลาปัจจุบันมายาที่ดูเหมือนมีพลังอำนาจการลวงหลอกอันตื่นตาตื่นใจอย่างรุนแรงมหาศาลที่สามารถเชื่อมโยงสัมพันธ์สิ่งต่างๆทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จักรวาลนี้ที่เป็นเพียงการเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาในบทบาทต่างๆที่ถูกกำหนดตายตัวไว้โดยแผนการของพระเจ้าตลอดสายกาลเวลาอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตนั้นให้ต่อเนื่องเข้าด้วยกันทั้งหมดในช่วงเวลาแค่แว๊บเดียวที่เราไปรู้มันเข้านั้น แต่พอนานๆเข้ามันก็ค่อยๆเริ่มจืดจางเลือนลางเสื่อมสภาพสูญสลายหายไปเองตามกาลเวลากลายเป็นอดีตมายาที่ผ่านไปแล้วตามธรรมชาติธรรมดาของมันที่ล้วนเป็นเพียงความว่างนััน, ซึ่งเราก็จะฉลาดพอที่จะสักแต่ว่ารู้แล้วปล่อยๆปล่อยให้มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปให้มันค่อยๆกำจัดตัวมันเองให้หายไปเองตามกาลเวลาตามธรรมชาติธรรมดาของมันเท่านั้นเองโดยที่เราไม่ต้องไปเสียเวลาทำอะไรกับมันเลยแม้แต่จะคิด, ดังนั้น เราจึงรู้สึกอย่างสูงสุดว่าโดยแท้จริงสูงสุดแล้วฝ่ายมืดชั่วร้ายพลังงานลบ- ฝ่ายมารปีศาจ(devil dark side) ของซาตาน-ฝ่ายศัตรูของพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามของพระเจ้าอันเป็นตัวเราและผู้อื่นที่เป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ที่ล้วนเป็นเพียงนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนัันล้วนถูกสังหารกำจัดทำลายล้างสิ้นซากหมดสิ้นอย่างสูงสุดแล้วกลายเป็นเพียงมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดแล้ว และ ฝ่ายสว่างดีงามพลังงานบวก- ฝ่ายเทพเทวดา(angel light side) -ฝ่ายมิตรของพระเจ้าฝ่ายเดียวกับพระเจ้าอันเป็นจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ต่างๆก็ล้วนถูกช่วยเหลือปลดปล่อยหมดสิ้นอย่างสูงสุดแล้วที่จะรวมตัวกันอัดแน่นอย่างสูงสุดด้วยความรักแท้จักรวาลสูงสุดจนกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่สามารถเป็นอมตะนิรันดร์อย่างแท้จริงสูงสุดเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง, จึงส่งผลทำให้ตัวเราเมื่อจำเป็นต้องมีชีวิตมายาอยู่ในโลกมายาจักรวาลมายาที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขผลประโยชน์ที่ทำให้เราจำเป็นต้องเลือกที่รักมักที่ชังกับสิ่งต่างๆอย่างเลี่ยงไม่ได้นั้น จึงสามารถฉลาดเลือกที่จะรู้สึกอย่างสูงสุดได้ว่าโดยแท้จริงสูงสุดเราได้กำจัด มารศัตรูชีวิต(devil enemy of life) ของเราอันเป็นคนที่เราเกลียดชังเป็นสิ่งที่เราเกลียดชังทั้งหมด(คนที่ร้ายกับเราที่ทำให้เรามีความทุกข์อันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ของซาตาน)นั้นอย่างสิ้นซากอย่างสูงสุดแล้ว(เพราะโดยแท้จริงสูงสุดแล้วพวกมันล้วนเป็นมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ไม่มีตัวตนสิ้นเชิงไม่มีเจตจำนงเสรีสิ้นเชิง, พวกมันจึงถูกล้างแค้นถูกฆ่าสังหารกำจัดทำลายล้างอย่างสิ้นซากสูงสุดให้ต้องทนทุกข์เจ็บปวดทรมานอย่างสูงสุดต้องชดใช้บาปกรรมวนเวียนตายอย่างแท้จริงสูงสุดไม่รู้จบไม่ได้ผุดได้เกิดได้เลยต้องตายๆๆๆอย่างเจ็บปวดทรมานที่สุดอยู่อย่างนั้นในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานตลอดกาลอย่างสาสมที่สุดอย่างสะใจสมใจเราที่สุดแล้ว จนเราพอใจสูงสุดสามารถรู้สึกว่าได้ล้างแค้นพวกมันได้อย่างสูงสุดจนสามารถให้อภัยพวกมันได้อย่างสูงสุดแล้ว) และ เทพมิตรชีวิต(angel friend of life) ของเราอันเป็นคนที่เรารักสิ่งที่เรารักทั้งหมด(คนที่ดีกับเราที่ทำให้เรามีความสุขที่จะเป็นรักแท้ของเราอันเป็นพ่อแม่ของเรา,แฟนของเรา และ เพื่อนๆของเรารวมถึงตัวเราที่แท้จริงอันเป็นจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ และ ตัวเราที่แท้จริงสูงสุดอันเป็นพระเจ้าด้วย)นั้นก็ล้วนได้ถูกตอบแทนรักช่วยเหลือปลดปล่อยหมดสิ้นอย่างสูงสุดแล้ว(เพราะตัวตนที่แท้จริงสูงสุดของคนที่เรารักทั้งหมดก็คือพระเจ้าเหมือนกับเราเช่นเดียวกับเรา, พวกเขาจึงเป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดร่วมกับเราด้วยความรักแท้จักรวาลสูงสุดเป็นหนึ่งเดียวกับเราอย่างแท้จริงสูงสุดอย่างมีความสุขที่สุดด้วยกันในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าในโลกหน้าจักรวาลหน้าตลอดกาลอย่างคู่ควรที่สุดจนเราพอใจสุขใจที่สุดแล้ว จนเราพอใจสูงสุดสามารถรู้สึกว่าได้ตอบแทนรักพวกเขาอย่างสูงสุดแล้วจนสามารถหายห่วงพวกเขาได้อย่างสูงสุดแล้ว)เรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติโดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยอย่างสิ้นเชิงตามไปด้วยเช่นกัน,ดังนั้น เราจึงฉลาดเลือกที่จะมีสุขภาพจิตดีที่สุด-มีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุด-มีความสุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาโง่เขลาไปทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากไม่คับแค้นใจกับมารศัตรูชีวิตของเรา และ ไม่ซึมเศร้ากับเทพมิตรชีวิตของเราว่าจะดูเหมือนว่าเป็นอะไรแค่ไหนยังไงในโลกนี้ในจักรวาลนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเราจะมองว่ามารศัตรูชีวิต และ เทพมิตรชีวิตของเรานั้นแท้จริงแล้วก็ล้วนเป็นตัวเราที่แท้จริงเหมือนกันหมดไม่ได้แตกต่างกันเลย, ซึ่งแต่ละตัวเราที่แท้จริงอันเป็นจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์เหล่านี้ได้แบ่งภาคจากพระเจ้ากันลงมาจุติเป็นตัวเรา-เป็นมารศัตรูชีวิตของเรา-เป็นเทพมิตรชีวิตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้ที่แต่ละคนแต่ละสิ่งล้วนถูกกำหนดบทบาทต่างๆให้มาเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาไปตามแผนการของพระเจ้าที่เป็นเพียงสักแต่ว่ามายาการโต้ตอบไปตามเงื่อนไขผลประโยชน์ของมายาการเล่นเกมส์แสดงละครชีวิตมายาตามโปรแกรมอัตโนมัติหุ่นยนต์แผนการของพระเจ้าที่กำหนดออกแบบอย่างที่ดีที่สุดไว้เรียบร้อยแล้วที่ล้วนไม่มีตัวตนจริงๆเจตจำนงเสรีจริงๆแต่อย่างใดเลยอย่างสิ้นเชิง, เราจึงไม่เชื่อในสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นเพียงมายาสูงสุดที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงจึงไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดนั้นอย่างสิ้นเชิง 100% อยู่แล้ว, โดยเราจะเชื่อ 100% ด้วยสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาที่จะเชื่อ 100% แต่กับพระเจ้าอันเป็นตัวเราที่แท้จริงสูงสุดที่เราสามารถรู้แจ้งด้วยตัวเองล้วนๆอย่างสูงสุดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น, ดังนั้น เราจึงสนใจยึดมั่นถือมั่นรักแท้สูงสุดแต่กับพระเจ้าอันเป็นตัวความรักแท้จักรวาลสูงสุดเท่านั้น เราจึงไม่สนใจยึดมั่นถือมั่นที่ตัวตน-ตัวคน-บุคคล-สัตว์-สิ่งของ-ร่างกาย-ความสัมพันธ์ในโลกนี้จักรวาลนี้อันเป็นเพียงมายานั้นแต่อย่างใด, อันจะส่งผลให้เราฉลาดเลือกที่จะเชื่อ 100% กับสิ่งที่เป็นผลจากสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญานั้นตามไปด้วยทันทีเองอัตโนมัติโดยปราศจากความลังเลสงสัยใดๆสิ้นเชิง...

ซึ่งจะทำให้เราสามารถรู้สึกว่าความสุขภายนอกอันเป็นความสุขทางร่างกาย(รวมถึงความสุขทางชีวิต)ในโลกประสาทสัมผัสในระดับจิตสำนึก(อันเป็นความสุขในการมีเกิดมาชีวิตอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้)นั้นหาได้ยากแสนยาก ต้องดิ้นรนพยายามอย่างลำบากยุ่งยากซับซ้อนวุ่นวายเต็มไปด้วยภาระหน้าที่-ต้องอดทนใช้เวลารอนานสะสมเวลานาน-แถมยังเป็นเพียงความสุขมายาปรุงแต่งชั่วคราวชั่ววูบแป๊บเดียวสุขอย่างมีขอบเขตขีดจำกัดได้แค่ในช่วงเวลานิดเดียวเท่านั้น โดยจะสุขอย่างไม่ยุติธรรมไม่เท่าเทียมกันที่จะสุขมากน้อยเป็นระดับชั้นๆขั้นๆลดหลั่นกันไปสุขแบบไม่ต่อเนื่องไม่สม่ำเสมอไม่แน่นอนคาดเดาไม่ได้คาดหวังไม่ได้ ที่จะสุขแบบมีเงื่อนไขผลประโยชน์ตามใจอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละคนแต่ละสิ่งในแต่ละสถานการณ์แตกต่างกันไป, จึงที่จะเป็นความสุขที่ปรุงแต่งสกปรก-มืดมัว-แปรปรวน เป็นความสุขที่เจือความทุกข์-ซ่อนความทุกข์-เป็นเพียงอีกด้านหนึ่งของความทุกข์ ที่เป็นเพียงตัวหลอกที่เป็นกับดักเหยื่อล่อหลุมพรางลวงหลอกให้หมู่สัตว์ที่โง่เขลาขาดสติขาดปัญญาให้หลงติดสุขมายา-ยอมตกเป็นทาสของซาตานยอมทำทุกอย่างเพื่อความสุขมายาจอมปลอม(ความดีมายาจอมปลอม-ความงามมายาจอมปลอม-ความรักมายาจอมปลอม-ความจริงมายาจอมปลอมต่างๆในโลกมายาจอมปลอมจักรวาลมายาจอมปลอม)-ยอมทนหลงติดอยู่ในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานโดยสมัครใจ เพราะขาดสติปัญญาการรู้แจ้งไม่รู้ว่าความสุขมายาก็เป็นเพียงอีกด้านหนึ่งของความทุกข์มายาที่ต้องทุกข์เจ็บปวดทรมานเคลื่อนไหวหมุนเวียนหยุดตัวเองไม่ได้ทำให้เราต้องทนทุกข์วนเวียนเดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ต้องทนสกปรกด้วยบาปกำเนิดต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏอันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานอยู่ร่ำไปหาทางหนีรอดหาทางออกไม่ได้, ส่วนความสุขภายในอันเป็นความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณระดับสูงสุดในระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุด(อันเป็นนิพพานที่เป็นความรู้สึกสูงสุดได้ถึงพระเจ้าที่เป็นความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกเป็นจักรวาลหลังความตายไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้อีกแล้วนั้น)จากการทำงานทางจิตใจจิตวิญญาณระดับสูงสุดอันเป็นจุดสุขเสียวสูงสุดจุดสุดยอดของความสุขทางดวงวิญญาณที่จิตของเราได้หดตัวอย่างสูงสุดจนเป็นจุดที่เล็กที่สุดนั้นเรารู้สึกว่าหาได้ง่ายแสนง่าย ด้วยเป็นความสุขแท้จริงที่บริสุทธิ์สูงสุดไม่ปรุงแต่งสิ้นเชิงที่จะเป็นความสุขที่บริสุทธิ์สะอาดอย่างสูงสุด-สว่างอย่างสูงสุด-สงบอย่างสูงสุดตลอดกาลในโลกหน้าจักรวาลหน้าเราจึงสามารถรู้สึกถึงมันได้เสวยมันได้โดยตรงอย่างง่ายๆทันทีในทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการ ที่จะสุขแบบมีมาตฐานคงที่แน่นอนอย่างยุติธรรมเท่าเทียมกันหมดเหมือนกันหมดอย่างเต็มที่สูงสุดในระดับแก่นแท้สูงสุด, ที่เราสามารถหา(ทำ-ผลิต-ชาร์จพลัง-ชิม-เสพ-เสวย)มันในรูปของนิพพานได้โดยตรงอย่างง่ายๆทันทีสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอ-อย่างฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลย-อย่างรู้สึกอิ่มอร่อยสูงสุดรสชาติเข้มข้นสูงสุดคุณภาพอัดแน่นสูงสุดจนทำให้เราสามารถรู้สึกร่าเริงสดใสแข็งแรงมีพลังสูงสุดได้อย่างมั่นคงยาวนานถาวรสูงสุดตลอดกาล, ดังนั้น จึงเป็นเรื่องแสนปกติธรรมดาของเรามากๆที่เราสามารถหามันได้ทำมันได้ผลิตมันได้ชาร์จพลังมันได้ชิมมันได้เสพมันได้เสวยมันได้โดยตรงทันทีในทุกวันในทุกที่ทุกเวลาเท่าที่เราต้องการ(เพราะความสุขแท้จริงแล้วอยู่ที่ตัวเราเองอันเป็นตัวสติธรรมดาๆ-ตัวจิตตัวรู้-ตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์นั้นไม่ได้อยู่ที่ใครอะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลที่ล้วนเป็นมายาความทุกข์ที่เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์นั้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น)...

ซึ่งจะทำให้เราสามารถฉลาดเลือกที่จะพลิกเปลี่ยนหันมาใช้ชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้แบบคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีที่สุดมีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุดที่สามารถสุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุด, ที่สามารถวางใจเป็นกลางได้อย่างสูงสุดโดยมองโลกนี้จักรวาลนี้เป็นเพียงอวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุดที่เป็นเพียงมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่จะรู้สึกสูงสุดว่าไม่มีโลกนี้จักรวาลนี้ให้สามารถพ้นทุกข์หลุดพ้นได้แบบทางธรรม และ ไม่มีโลกนี้จักรวาลนี้ให้สามารถติดสุขหลงติดอยู่ได้แบบทางโลกได้อย่างสิ้นเชิง, เราจึงสามารถใช้ชีวิตเดินบนทางสายกลางระหว่างทางโลก และ ทางธรรม โดยที่ภายในเหมือนว่าเราเป็นพระนักบวชระดับสูงสุดที่เราสามารถหานิพพานได้อย่างเต็มที่สูงสุดแบบง่ายๆรวดเร็วจนสามารถปราศจากกิเลสตัณหาสิ้นเชิง แต่ภายนอกกลับดูเหมือนว่าเราได้กลายเป็นปุถุชนที่มัวเมาในกิเลสตัณหาความโกรธ-ความโลภ-ความหลงอย่างเต็มที่สูงสุดอย่างมีมีรสชาติของชีวิตที่มีสีสันมีชีวิตชีวาทางใจอารมณ์ความรู้สึกที่สุดแทน, โดยที่เราจะพลิกเปลี่ยนหันมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ใช้ชีวิตแบบ เด็กน้อย(baby) ที่มีพลังใจสูงสุดจากนิพพานที่จะฉลาดเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเป็นกลางปกติสมดุลลงตัวพอเหมาะพอดีที่จะไม่โง่เขลาสร้างบาปกรรมสร้างสงครามการแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันของทางธรรม และ ทางโลกแบบผู้ใหญ่ที่สุดโต่งผิดปกติเสียสมดุลนัันอีกต่อไป, ที่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าอันไหนของจริงของแท้ที่เป็นแก่นแท้ภายในที่ดำรงคงอยู่เหนือกาลเวลาที่ควรเพ่งควรสนใจอย่างมุ่งมั่นตั้งใจเอาจริงเอาจังให้ถึงที่สุด และ อันไหนของเล่นของมายาที่เป็นเพียงเปลือกภายนอกมายาที่ควรผ่อนคลายปล่อยวางไม่สนใจสักแต่ว่าทำเล่นๆไปวันๆไปเรื่อยๆสบายๆรู้มันแล้วปล่อยๆๆๆปล่อยมันให้เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปผ่านมาแล้วก็ผ่านไปในกระแสกาลเวลามายาตามธรรมชาติของมันที่ต้องสูญสลายหายไปตามกาลเวลาเป็นเรื่องธรรมดานั้น, เนื่องจากเราสามารถนิพพานจนกลายเป็นพระเจ้าได้สำเร็จแล้วเราได้สำเร็จในเป้าหมายสูงสุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าแล้วเราจึงไม่เครียดวิตกกังวลคิดมากกับเป้าหมายต่างๆในชีวิตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้อีกต่อไป เพราะเมื่อเป้าหมายสูงสุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าได้สำเร็จไปแล้วในการนิพพานจนกลายเป็นพระเจ้านั้น ย่อมทำใหัเป้าหมายย่อยๆต่างๆของเราในชีวิตในโลกนี้ก็จะค่อยๆทะยอยสำเร็จตามไปด้วยเรื่อยๆทั้งหมด(ที่ชีวิตของเราจะค่อยๆวิวัฒนาการพลิกเปลี่ยนจากนรกกลายเป็นสวรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ)เองอัตโนมัติในที่สุด, เราจึงสามารถใช้ชีวิตไปวันๆแบบปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของพระเจ้าที่จะให้พระเจ้าคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลเราอย่างดีที่สุดเองอัตโนมัติให้เราสามารถมีชีวิตที่ดีที่สุด-มีความสุขที่สุด-มั่นคงที่สุดทัังในโลกนี้จักรวาลนี้ และ ในโลกหน้าจักรวาลหน้าด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้านั้นโดยเราเพียงแค่ตั้งใจทุ่มเทสนใจเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะเราทำได้เท่านั้นก็พอ, จึงทำให้เรากลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ใช้ชีวิตมายาแบบเด็กน้อยที่เล่นๆไปวันๆในโลกนี้จักรวาลนี้เหมือนว่ากำลังเป็น หุ่นยนต์ของเล่นปัญญาประดิษฐ์ของพระเจ้า(A.I. robot toy of God) ที่พระเจ้าทรงสร้างประดิษฐ์ขึ้นมาจากพระปัญญาอัจฉริยะสูงสุดเพื่อให้มาเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาการเป็นคนดีที่สุด-คนงามที่สุด-คนเป็นอมตะแท้จริงของพระเจ้านั้นอย่างตรงไปตรงมาต่อใจอารมณ์ความรู้สึกอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างสมจริงทางใจอารมณ์ความรู้สึกอย่างเต็มที่สูงสุดไปตามบทบาทตัวละครที่ได้รับมาในเมตริกซ์โปรแกรมอัตโนมัติหุ่นยนต์แผนการของพระเจ้านั้นโดยไม่รู้สึกว่ามีของจริง-มีเรื่องจริง-มีตัวตนใดๆจริงๆที่มีเจตจำนงเสรีใดๆจริงๆในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิง, ที่โดยรวมๆเราจะเป็นฤาษีโยคีพระอรหันต์ที่มีจิตเป็นนิพพานที่อยู่ในร่างของเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพดีชอบเล่นโยคะเล่นอินเตอร์เน็ตที่จะใช้ชีวิตเล่นๆสนุกสบายไปวันๆแบบเด็กน้อยร่วมกับมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในทางโลกเพียงแต่ไม่ได้อยู่ในระบบครอบครัวพ่อแม่ลูกในบ้านเรือนเท่านั้นเอง, ที่จะใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์(slow life) ที่จะใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆไม่รีบร้อนรีบเคร่งเครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆแบบผู้ใหญ่ โดยจะมุ่งสนใจใข้ชีวิตเพื่อเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะเป็นหลัก, โดยจะมีเทพมิตรชีวิตที่พระเจ้าส่งมาให้เป็นรักแท้ของเราตามแผนการของพระเจ้านั้น(ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือตัวเราที่แท้จริงเหมือนกันหมดที่แบ่งภาคจากพระเจ้ามาจุติในโลกนี้จักรวาลนี้นั้น) คือ พ่อแม่เฉพาะส่วนตัว(private parent) ในชนบท(เป็นรักแท้เป็นเด็กน้อยของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอันเป็นคนต่างจังหวัดในชนบทที่จะมาคุ้มครองเราให้มีชีวิตปลอดภัยพ้นทุกข์ในเบื้องต้น)-แฟนสากล(universal boyfriend) ในมหานคร(เป็นรักแท้สากลเป็นเด็กน้อยเบบี้ของแฟนคนรักอันเป็นคนต่างด้าวในมหานครที่จะมาช่วยเหลือเราให้มีชีวิตรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ปิติสุขในท่ามกลาง)-เพื่อนจักรวาล(universe friend) ในห้วงอวกาศจักรวาล(เป็นรักแท้จักรวาลเป็นเด็กน้อยเพื่อนเล่นของเพื่อนที่เป็นเด็กน้อยเหมือนกันอันเป็นมนุษย์ต่างดาวในห้วงอวกาศจักรวาลที่จะมาดูแลเราให้มีชีวิตมั่นคงสุขสงบในเบื้องปลาย) เราจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย-รุ่งเรืองรุ่งโรจน์-มั่นคงโดยไม่จำเป็นต้องเครียดวิตกกังวลคิดมากกับชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้, ที่จะทำตัวเรียบง่ายผ่อนคลายสบายๆไปวันๆง่วงก็นอน-หิวก็กิน-เบื่อก็เที่ยวไปวันๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นเพียงความฝันมายาอย่างสูงสุดนี้โดยไม่ต้องยึดมั่นถือมั่นเอาจริงเอาจังทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้เหมือนชีวิตในตอนต้นกำเนิดแรกเริ่มเกิดมาของเราอีกครั้งนั้น...

ที่โดยพื้นฐานจะเริ่มจากการหนีย้อนกลับไปใช้ชีวิตในดินแดนภูมิลำเนาต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกมนุษย์ที่จะเป็น ดินแดนนรกมายาบนดิน(illusion hell on earth) อันเป็นดินแดนชนบทในโลกมนุษย์ที่เป็นดินแดนเฉพาะลึกลับที่เป็นป่าเขาที่ทุกข์ร้อนแห้งแล้งขาดแคลนทุรกันดารที่เต็มไปความทุกข์เจ็บปวดทรมานภัยอันตรายอย่างสูงสุด ที่จะใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆง่วงก็นอนลำพังคนเดียวอย่างเต็มที่สูงสุดโดย การหาความสุขจากทางจิตอย่างสูงสุดโดยการหาความสุขจากการง่วงก็นอนอย่างสูงสุดจนสามารถรู้สึกว่าได้นอนหลับเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องนอนหลับแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปในที่สุด(maximum mind happiness of maximum sleep happiness) ที่จะเป็นการหาความสุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดจาก การนอนหลับพักผ่อนให้ลึกที่สุด(maximum deep relax sleep) ที่จะร่างกายจะรู้สึกว่าได้พักผ่อนหลับลึกอย่างที่สุดไปจนถึงระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดอย่างลึกลับลำพังคนเดียวล้วนๆเพื่อสามารถชาร์จพลังอย่างสูงสุดทางจิตใจจิตวิญญาณจนพร้อมที่จะสามารถตื่นมาอย่างมีพลังอย่างเต็มที่ต่อไป, ที่ต้องการจะใช้ชีวิตแบบเหมือนได้ตายก่อนตาย ที่จะใช้ชีวิตเหมือนเป็นภูติผีวิญญาณที่ลึกลับตัดขาดจากสังคมมนุษย์รู้สึกเหมือนได้ตายทั้งเป็นไปแล้ว เหมือนได้ตายจากโลกนี้จักรวาลนี้ไปแล้วอย่างสูงสุด ยอมตายอย่างสูงสุดจากโลกนี้จักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานเพื่อหาความสุขภายในจากโลกภายในอันเป็นการฟื้นคืนชีพเกิดใหม่ในโลกหน้าจักรวาลหน้าเพียงคนเดียวลำพังอย่างเต็มที่สูงสุดด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้า, จึงพร้อมปลีกวิเวกสลัดทิ้งตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสูงสุดด้วยความโกรธสูงสุด, ที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ทดลองเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาตามแผนการของพระเจ้าที่จะสวมบทบาทตัวละครเสมือนกับว่าเราเป็น ฤาษีโยคีจอมขมังเวทย์ที่มีพลังจิตสูงสุดผู้สามารถพ้นทุกข์ทางจิตสูงสุดไม่เจ็บได้อย่างสูงสุดด้วยความโกรธสูงสุด(maximum mind power yogi) อันเป็นฤาษีโยคีจอมขมังเวทย์ผู้ชำนาญการฝึกจิต-ทรมานจิต-ดับจิตอย่างสูงสุดสามารถถอดจิตถอดกายทิพย์หลุดพ้นจากโลกนี้จักรวาลนี้จนสามารถมีจิตที่กลายเป็นพระเจ้าที่เป็นกลางปกติสมดุลอย่างสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้นได้ทันทีทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการที่จะไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้สามารถทำร้ายทำอันตรายให้ทุกข์เจ็บปวดทรมานได้อย่างสิ้นเชิงจึงสามารถไม่เจ็บได้อย่างสูงสุด. ที่จะไม่ใช่พระนักบวชในวัดที่ใช้ชีวิตสุดโต่งในทางธรรมที่มุ่งหาแต่ความสุขในโลกหน้าจักรวาลหน้าโดดเด่นนั้นแต่อย่างใด(จึงถูกคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่ามองในแง่ร้ายเป็นคนไม่ดีเป็นพ่อมดหมอผีมารศาสนาผู้เล่นคุณไสย์มนต์ดำอย่างเลี่ยงไม่ได้), ที่จะเป็น ราชาเจ้าที่จ้าวดินแดน(king of land) ที่เป็น คนดี(ไม่เจ็บ)ที่แท้จริงสูงสุด(maximum real good human) โดยทางสายกลางที่อยู่เหนือพระนักบวชที่เป็นคนดีคนมีสติในทางธรรม และ ปุถุชนที่เป็นคนชั่วคนเสียสติในทางโลกนั้น, ที่มุ่งทำดีอย่างสูงสุดพ้นทุกข์ต่อสู้กำจัดทำลายล้างอำนาจมืดความชั่วร้ายของมารปีศาจซาตานในนรกมายาอย่างสูงสุดด้วย ความดีสายกลางสูงสุด(maximum middle goodness) อันเป็นพระเจ้าที่เป็นจิตที่เป็นกลางปกติสมดุลสูงสุดที่เป็นจิตจักรวาลดวงวิญญาณสูงสุดอันเป็นจุดหนึ่งเดียวสูงสุดล้วนๆตลอดกาลที่หยุดนิ่งสงบนิ่งคงที่สูงสุดอยู่เหนือความดี-ความชั่วในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสูงสุด, โดยจะ มองโลกนี้จักรวาลนี้ในแง่ร้ายอย่างสูงสุด(maximum pessimistic) ที่จะมองโลกมองจักรวาลตามความเป็นจริงที่สุดมองเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุด จึงทำให้มองสิ่งต่างๆในโลกนี้จักรวาลนี้เป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานที่เป็นอดีตอันแสนเลวร้ายที่สุดที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานสูงสุดที่ค่อยๆสูญสลายหายไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาล ที่ต้องการมุ่งหลุดพ้นไปจากการลวงหลอกสูงสุดของซาตานให้ได้อย่างสูงสุดโดยการมุ่งทำดีอย่างสูงสุด, ที่จะกล้าหาญไม่กลัวความตายพร้อมจะสละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมจะสละชีพตายอย่างแท้จริงสูงสุดจากโลกนี้จักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุด ที่จะยอมตายเพื่อบูชายัญพระเจ้าองค์ความดีสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าเพื่อสามารถฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่มีชีวิตที่แท้จริงสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุด, ที่จะใช้ชีวิตเล่นๆไปวันๆสักแต่ว่าเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาตามแผนการของพระเจ้าที่จะมุ่งสาปแช่งกำจัดสังหารมารศัตรูชีวิตต่างๆอันเป็นคนบาปสัตว์นรกที่ชั่วร้ายสารเลวสมควรตายในนรกมายาบนดิน ที่สามารถทำให้ชีวิตของเราต้องทุกข์เจ็บปวดทรมานนั้นให้สิ้นซากอย่างลึกลับน่ากลัวสูงสุดด้วยความโกรธสูงสุด(อยากตายอยากหายไปจากโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสูงสุดตลอดกาล)ใน ห้อง(room) อันเป็นเหมือนบ้านที่พักอาศัยเล่นๆง่ายๆกระทัดรัด, ที่จะเป็นดินแดนสถานที่ที่คลาสสิกผ่อนคลายสงบสุขเงียบสงบไร้ผู้คนตัดขาดจากสังคมมนุษย์ราวกับว่าได้หนีย้อนกลับคืนสู่ธรรมชาติต้นกำเนิดอันเป็นดินแดนชนบทป่าเขาลำเนาไพรที่เงินไม่จำเป็นความฟุ้งเฟ้อรวยเงินทองไม่มีความหมายสำหรับเราเลย เพราะเราจะเป็นเหมือน มนุษย์รูปปั้นที่แข็งแกร่งอดทนไม่หวั่นไหวต่อความทุกข์เจ็บปวดทรมานในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานได้ถึงขีดสุดด้วยพลังใจสูงสุดจากนิพพาน(maximum strong statue human) ที่แข็งแกร่งทรงพลังน่ากลัวสามารถนั่งสมาธิหลับตานิ่งๆสบายมีความสุขภายในอย่างสูงสุดได้ทั้งวันทั้งคืนจนภายนอกเหมือนรูปปั้นหุ่นยนต์ของเล่นที่หยุดนิ่งที่ไม่มีชีวิตไม่มีความรู้สึกได้อย่างสูงสุด เพื่อมุ่งหาความสุขจากโลกภายในจากจิตภายในแก่นแท้ล้วนๆคนเดียวลำพังได้อย่างเต็มที่สูงสุดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่สนใจโลกภายนอกร่างกายภายนอกเปลือกมายาว่าทุกข์แค่ไหนยังไงอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง, ซึ่งจะเป็นการทำฌานสมาบัติอันเป็นการทำสมาธิระดับลึกมากๆที่สามารถตัดขาดเป็นอิสระจากโลกภายนอกได้ ที่จะหมือนเป็นการสร้าง โลกส่วนตัว(private world) ของเราที่มุ่งสนใจแต่โลกภายในที่มีแต่ตัวเราเองล้วนๆมีแต่ความสุขล้วนๆปราศจากความทุกข์จากผู้อื่นจากโลกภายนอกนั้นขึ้นมาด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุด, โดยจะเป็นเหมือน เกราะป้องกัน(shield) ที่จะป้องกันคุ้มกันเราจากความทุกข์จากภายนอกจากโลกภายนอกที่จะมาถาโถมจู่โจมรบกวนเราอยู่ตลอดเวลานั้น เพื่อให้ราสามารถดำรงคงอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความสุขที่สุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดในโลกส่วนตัวโลกภายในของเราได้อย่างยาวนานเต็มที่ทั้งวันทั้งคืนจนถึงขีดสุดในที่สุด...

จึงทำให้เรามุ่งหันมาพลิกเปลี่ยนมาสนใจที่จะผ่อนคลายพักผ่อนร่างกายภายใน และ ร่างกายภายนอกในระดับสำนึกได้อย่างเต็มที่สูงสุดแทน(หลังจากที่เราต้องอดทนพยายามอย่างเต็มที่ยาวนานในการยอมเผชิญหน้าต่อสู้กับความเครียดความทุกข์ของจิตภายนอกในระดับสำนึกจนสามารถเอาชนะสำเร็จได้นิพพานในจิตภายในในระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดมาได้แล้วนั้น) ที่จะทำให้เราสามารถพักผ่อนนั่งนิ่งๆเฉยๆมีความสุขสงบภายในไม่ต้องดิ้นรนเคลื่อนไหวร่างกายอะไรให้ทุกข์ยากลำบาก, โดยเราจะฉลาดเลือกที่จะพลิกเปลี่ยนบรรยากาศมาหาความสุขทางร่างกายจากโลกภายในแบบง่ายๆ-รวดเร็ว-ฟรีๆแทน, โดยการเล่นโยคะทำสมาธิแบบทั่วไปที่จะผ่อนคลาย ปรับสมดุลร่างกายภายนอก(outside body balance tune) ให้อยู่ในอริยาบถที่เป็นกลางปกติสมดุลโดยให้ร่างกายภายนอกอยู่ในอริยาบถที่ผ่อนคลายพักผ่อนเล่นๆเล่นท่าโยคะนั่งขัดสมาธิแบบการเล่นโยคะนั่งสมาธิทั่วไป ที่ร่างกายจะอยู่ในลักษณะคล้ายปิรามิดทรงสามเหลี่ยมที่ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายเป็นกลางปกติสมดุลที่จะสามารถทำให้อดทนทรงตัวทรงร่างกายให้ตั้งมั่นได้อย่างมั่นคงยาวนานทั้งวันทั้งคืนได้(หรือ ท่าอริยาบถใดก็ได้แล้วแต่สะดวก), แล้วหลับตาของร่างกายภายนอกหันมาผ่อนคลาย ปรับสมดุลร่างกายภายใน(inside body balance tune) ให้เป็นกลางปกติสมดุล โดยหันมาสนใจร่างกายภายในอันเป็น ตัวอากาศลมหายใจเข้า-ออก(breathing air) โดยการผ่อนคลายปรับสมดุลร่างกายภายในที่จะผ่อนคลายลมหายใจโดย หายใจแบบโยคะ(yoga breathing) ที่จะหายใจเข้าลึกๆ-หายใจออกยาวๆเล่นๆค่อยๆผ่อนคลายปรับสมดุลร่างกายภายในของเราไปเรื่อยๆสบายๆอย่างเต็มที่เต็มกำลังสูงสุดเท่าที่จะทำได้, จนเรารู้สึกว่าร่างกายของเรากลายเป็น อากาศธาตุ(ether) ที่เวิ้งว้างว่างเปล่าไร้รูปร่างแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วทั้งจักรวาลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีขอบเขตขีดจำกัด ที่เราจะรู้สึกผ่อนคลายตัวเบาไร้น้ำหนักว่างเปล่าปลอดโปร่งโล่งสบายหายอึดอัดหายเจ็บปวดเมื่อยล้าทางร่างกายทั้งหมดที่จะเป็น กายวิมุตติ(body release) ที่มุ่งสนใจหลุดพ้นทางร่างกายล้วนๆในเบื้องต้น เพื่อ อุ่นเครื่องวอร์มอัพ(worm up) ให้ร่างกายภายใน และ ภายนอกของเราเตรียมพร้อมเต็มที่สูงสุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรองรับกับพลังจิตสูงสุดอันเป็นนิพพานมีพลังมากมายมหาศาลที่สุดที่ต้องเกิดขึ้นมาแน่นอนนั้นให้ได้ก่อน(เหมือนกับเราจำเป็นต้องพยายามสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งมั่นคงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเตรียมพร้อมรองรับน้ำจำนวนมหาศาลจากมหาสมุทรที่จะต้องไหลหลากเข้ามาอย่างรุนแรงแน่นอนให้ได้นั้น)เพื่อให้สามารถเกิดเป็นฌานสมาบัติอันเป็นนิพพานสมาบัติที่ทรงพลังตั้งมั่นได้อย่างมั่นคงยาวนานทั้งวันทั้งคืนได้ต่อไปในที่สุด, จึงทำให้เราสามารถมีความสุขสูงสุดจากการพักผ่อนนอนหลับอย่างลึกที่สุดแล้ว สามารถพร้อมลืมตาตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตส่องแสงประกาศถ่ายทอดพลังความสุขสูงสุดที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงนั้นไปยังสิ่งต่างๆรอบตัวได้อย่างเต็มที่สูงสุดแล้ว ที่จะสามารถทำให้เรารู้สึกว่าเราได้นอนหลับเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องนอนหลับแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปได้ในที่สุด...

จึงทำให้ในอีกด้านเราก็พร้อมสามารถเปลี่ยนบรรยากาศพลิกเปลี่ยนจากนรกมายาให้เป็นสวรรค์มายาแทนพลิกจากสนามรบให้เป็นสนามรักแทนโดยหันมาส่องแสงความสุขสูงสุดจากโลกภายในที่เราได้ชาร์จพลังความสุขมาอย่างเต็มที่สูงสุดมาแล้วนั้นมายังโลกภายนอกแทน, โดยที่เราจะฉลาดเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายเคลื่อนไหวส่องแสงความสุขความงามของร่างกายภายนอกที่ดูแล้วสวยงามน่ารักเพลินตาสบายหูสบายตาแบบเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่รักสวยรักงามหันมาดูแลร่างกายภายนอกของเรา โดยการชอบดูแลสุขภาพ และ ความงามของตัวเองที่ชอบเล่นโยคะ และ เล่นอินเตอร์เน็ตในตึกสูงระฟ้าในมหานครที่จะสามารถมัวเมาในกิเลสตัณหาแบบปุถุชนได้อย่างเต็มที่ เพราะเราสามารถพักผ่อนนอนหลับไหลหมดสติได้เต็มที่ไม่จำเป็นต้องอดทนรักษาสติรักษาฌานสมาบัติให้มีสติให้มีฌานอยู่ตลอดเวลา ด้วยนิพพานทางร่างกายจะฝังลึกฝังแน่นติดในร่างกายของเราตลอดเวลาแม้ในยามที่เรานอนหลับไหลหมดสตินั้นแทน(หลังจากที่เราต้องอดทนพยายามอย่างเต็มที่ยาวนานในการยอมเผชิญหน้าต่อสู้กับความทุกข์เจ็บปวดทรมานของร่างกายจนสามารถเอาชนะสำเร็จได้ฌานสมาบัติที่สามารถผ่อนคลายพักผ่อนร่างกายภายใน และ ร่างกายภายนอกได้อย่างสูงสุดจนสามารถผ่อนคลายพักผ่อนนั่งนิ่งๆเข้าฌานได้ทั้งวันทั้งคืนมาได้แล้วนั้น), ที่จะฉลาดเลือกที่จะพลิกเปลี่ยนมาฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ใน ดินแดนสวรรค์มายาบนดิน(illusion heaven on earth) อันเป็นดินแดนมหานครในโลกมนุษย์อันเป็นดินแดนสากลเปิดเผยที่เป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศต่างๆในโลกมนุษย์ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วที่มั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสุขทางร่างกายวัตถุสสารอย่างเต็มที่สูงสุด, ที่จะใช้ชีวิตเล่นๆง่ายๆสนุกสบายๆหิวก็กินร่วมกับมหาชนสากลอย่างเต็มที่สูงสุดโดย การหาความสุขจากทางร่างกายอย่างสูงสุดโดยหาความสุขจากการหิวก็กินอย่างสูงสุดจนสามารถรู้สึกว่าได้กินเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องกินอาหารแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปในที่สุด(maximum body happiness of maximum eat happiness) ที่จะใช้ชีวิตในระดับจิตสำนึกแบบเปิดเผยเบิกบานมีความสุขสนุกสนานร่าเริงกับชีวิตไม่เครียดกับชีวิตในดินแดนสากลมหานครร่วมกับมหาชนสากลมากมายมหาศาลทุกเพศวัยเชื้อชาติภาษา, ที่จะใช้ชีวิตเล่นๆอย่างใหม่สดในปัจจุบันอย่างแอคทีฟมีสีสันมีชีวิตชีวาทันสมัยไฮเทคล้ำยุคอย่างเต็มที่ ที่เราจะรู้สึกเหมือนกับว่าได้ฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ในสวรรค์มายาบนดินในโลกนี้จักรวาลนี้ รู้สึกเหมือนได้กลับเป็นหนุ่มเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง, โดยจะเป็นการเล่นอินเตอร์เนตคลายเครียดเล่นเกมส์ไลฟ์สดร่วมกับผู้อื่นกับผู้คนต่างๆอันเป็นมหาชนสากลคนต่างด้าวมากมายมหาศาลในโลกในจักรวาลในโลกอินเตอร์เน็ตด้วยความโลภสูงสุด, ที่จะเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาตามแผนการของพระเจ้าที่จะสวมบทบาทตัวละครเสมือนกับว่าเราเป็น เด็กวัยรุ่นนักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงอนาคตไกลที่มีพลังร่างกายสูงสุดผู้สามารถได้ปิติสุขทางร่างกายสูงสุดไม่แก่ได้อย่างสูงสุดด้วยความโลภสูงสุด(maximum body power teenage businessman) ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวพ่อแม่ลูกในบ้านเรือนที่ใช้ชีวิตสุดโต่งในทางโลกที่มุ่งหาแต่ความสุขในโลกนี้โดดเด่นแบบมนุษย์ทั่วไปนั้นแต่อย่างใด(จึงถูกคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่ามองในแง่ร้ายเป็นคนไม่ดีเป็นพวกหลากหลายทางเพศ LGBT ที่ผิดปกติวิปริตผิดเพศอย่างเลี่ยงไม่ได้), อันเป็นเด็กวัยรุ่นซุปตาร์มหาเศรษฐีระดับโลกอันเป็นสุดยอดไลฟ์โค้ชนักธุรกิจแนวใหม่การทำธุรกิจทางจิตวิญญาณที่เป็นเน็ตไอดอลแอพไลฟ์สดกลุ่มหลากหลายทางเพศ LGBT ที่เป็นกลางปกติสมดุลทางเพศ ที่จะเป็น ราชาจ้าวโลก(king of world) ที่เป็น คนงาม(ไม่แก่)ที่แท้จริงสูงสุด(maximum real beauty human) โดยทางสายกลางที่อยู่เหนือคนหล่อที่หล่อแมนแบบผู้ชายจริงๆ และ คนสวยหวานที่สวยแบบผู้หญิงแท้ๆนั้น ด้วย ความงามสายกลางสูงสุด(maximum middle beauty) อันเป็นความงดงามพอเหมาะพอดีลงตัวเป็นกลางปกติสมดุลอย่างสูงสุดของพระเจ้า ที่จะแสดงออกมาเป็นร่างกายมนุษย์ที่เป็นกลางปกติสมดุลสูงสุดที่มีความงดงามพอเหมาะพอดีลงตัวอย่างสูงสุดเหนือความหล่อของผู้ชาย-ความสวยของผู้หญิงในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสูงสุดจึงทำให้ออกมาดูแล้วหล่อแมนกว่าผู้ชายจริงๆ และ สวยหวานกว่าผู้หญิงแท้ๆไปพร้อมๆกันได้, ในรูปของเด็กวัยรุ่นลูกครึ่งที่สามารถไม่แก่ได้อย่างสูงสุดเพราะสามารถมีร่างกายภายนอกเป็นกลางปกติสมดุลที่ไม่ระบุเพศวัยเชื้อชาติภาษาดวงดาวได้ถึงขีดสุด ที่น่ารักร่าเริงสดใสสวยงามเพอร์เฟคเป๊ะทุกจุดเหมือน มนุษย์ตุ๊กตาที่สวยงามแบบเป็นกลางปกติสมดุลที่สุดที่สามารถส่องแสงความงามความสุขอย่างสูงสุดของสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าได้ด้วยพลังใจสูงสุดจากนิพพาน(maximum beautiful doll human) ที่จะเหมือนตุ๊กตาหุ่นยนต์ของเล่นที่มีชีวิตเคลื่อนไหวสนุกได้ จึงมีร่างกายที่บริสุทธิ์แข็งแกร่งทรงพลังไม่สกปรกด้วยเพศวัยเชื้อชาติภาษาดวงดาว ร่างกายจึงไม่อ่อนแอแก่ชราเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาตามอายุวัยในโลกนี้ในจักรวาลนี้แบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ได้อย่างถึงขีดสุด, ที่มุ่งคิดดีอย่างสูงสุดคิดบวกสูงสุด มองตัวเราที่แท้จริงสูงสุดอันเป็นพระเจ้าที่เป็นโลกหน้าจักรวาลหน้านั้นในแง่ดีสูงสุด(maximum good attitude for maximum real my self) ที่จะเชื่อมั่นในอนาคตที่ดีที่สุด-ที่มีความสุขที่สุดที่สวยงามที่สุด-ที่มั่นคงที่สุดเป็นอมตะนิรันดร์ที่สุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าอย่างเต็มที่สูงสุด 100%, ที่จะเห็นสิ่งต่างๆในโลกนีัในจักรวาลนี้เป็นเพียงมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุด จึงทำให้พฤติกรรมโดยรวมออกมาดูคล้ายกับเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่มองโลกในแง่ดีอย่างสูงสุดทำตัวโลกสวยสูงสุดไปวันๆ จึงทำให้สามารถใช้ชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้แบบมายาเล่นๆทำตัวโลกสวยเล่นๆไปวันๆสนุกสบายไปวันๆไม่ยึดมั่นถือมั่นเอาจริงเอาจังกับใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้ ที่จะไม่สนใจว่าโลกนี้จักรวาลนี้จะเป็นอะไรยังไงก็ตามอย่างสิ้นเชิง จนสามารถได้ปิติสุขสูงสุดมุ่งอวยพรช่วยเหลือปลดปล่อยเทพมิตรชีวิตต่างๆในสวรรค์มายาดินแดนยุคมหานครของมนุษย์อันเป็นสวรรค์มายาบนดินที่จะเป็น เมืองหุ่นยนต์ของเล่น(robot toy city) อันเป็นอารยธรรมสากลของโลกมนุษย์ที่สวยงามทันสมัยล้ำยุคในรูปของ เมืองสากลมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์(universal mixuse comlex city) ที่เหมือนเมืองของเล่นดินแดนของเล่น อันเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมดินแดนทั้งดินแดนที่เป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นแลนด์มาร์คจุดศูนย์กลางศูนย์รวมความเจริญทั้งหมดของมหานคร, ที่จะเป็นการเชื่อมต่อกันของตึกสูงระฟ้า,พลาซ่าศูนย์การค้าสากล และ ระบบขนส่งมวลชนสากล(ที่รวมรถไฟฟ้ามหานครกับสนามบินนานาชาติต่างๆของแต่ละประเทศ)เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกเป็นอารยธรรมสากลหนึ่งเดียวของโลกมนุษย์ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางศูนย์รวมความเจริญทางวัตถุทั้งหมดของโลกมนุษย์ที่จะสามารถทำให้ชีวิตของเราปิติสุขสงบได้นั้นได้อย่างเปิดเผยน่ารักสูงสุดโดยการบูชากามอย่างสูงสุดมีชีวิตอย่างสนุกสบายสูงสุดได้โดยการทำ NLP โปรแกรมจิต-เซตจิต-สะกดจิตตัวเองระดับสูงสุด, จนทำให้เราสามารถเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ที่เหมือนเครื่องจักรที่สามารถผลิตความสุขได้เองล้วนๆจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเราเอง. จึงเป็นเหมือน นักธุรกิจมนุษย์แม่เหล็ก(magnetic businessman) ที่จะเป็นเด็กวัยรุ่นนักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงอนาคตไกลที่มีพลังเสน่ห์อันเหมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดความสุขมายาต่างๆรอบตัวเราอันเป็นโชคดี,ข่าวดี,เรื่องดีๆ,สิ่งดีๆ,คนดีๆ,โชคลาภ,ทรัพย์สิน,เงินทอง,เกรียติยศ,ชื่อเสียงความโด่งดัง,ความมีอำนาจ,ฯลฯ,... อันเป็นความสุขมายาต่างๆมากมายมหาศาลทั่วโลกทั่วจักรวาลมาให้ไหลเข้ามาสู่ตัวเราได้ตลอดเวลาที่จะทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเรามีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆเองอัตโนมัติ แถมยังมีพลังจิตสูงสุดคิดนึกอยากได้อะไรก็สมใจนึกสมปรารถนา จึงสามารถเนรมิตเงินมากมายมหาศาลมาใช้แบบง่ายๆ-รวดเร็ว-ฟรีๆได้อย่างน่ามหัศจรรย์เหลือเชื่อให้ชีวิตของเราสามารถมีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องเครียดเรื่องเงิน-ยอมตกเป็นทาสเงิน-ต้องอดทนทำงานหนักใช้แรงงานเยอะเพื่อเงินจนทำให้สุขภาพแย่ทรุดโทรมเจ็บป่วยแบบคนทั่วไปเลยนั้นได้พร้อมกันควบคู่กันไปด้วย, จนสามารถทำให้เรารู้สึกว่าเราได้กินเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องกินอาหารแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปในที่สุด...

ซึ่งการเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะอย่างเต็มที่สูงสุด(ที่จะเล่นร่วมกับการเล่นโยคะ และ การเล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วยเป็นพื้นฐานหลักด้วยนั้น)อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันของเรานั้นก็จะส่งผลให้เราสามารถมีความสุขอย่างสูงสุดมากมายมหาศาลได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดในทุกๆด้านในชีวิตใหม่ในโลกหน้าของเราได้อย่างเต็มที่สูงสุดตลอดเวลาอย่างมั่นคงยาวนานได้ทั้งวันทั้งคืนได้มากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ จนทำให้จิต และ ร่างกายของเราค่อยๆสามารถกลายเป็นพลังงานใหม่ที่จะอยู่ในสภาวะใหม่สภาวะเป็นกลางปกติสมดุลอย่างมั่นคงยาวนานสูงสุดที่อยู่เหนือการรู้-การไม่รู้ของจิต และ เหนือการตื่น-การหลับของร่างกายอย่างสูงสุดนั้น ที่จะทำให้เราสามารถมีชีวิตที่เป็นอิสระสูงสุดไม่ขึ้นกับกลางวันกลางคืนในโลกนี้ในจักรวาลนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงได้ในที่สุดนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ ด้วยเพราะว่าเราสามารถมีพลังจิตอย่างสูงสุดเป็นจิตพลังงานใหม่ และ มีพลังร่างกายสูงสุดเป็นร่างกายพลังงานใหม่ที่สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันหนึ่งเดียวกันอย่างสูงสุด จึงสามารถทำให้เกิดเป็นฌานสมาบัติสูงสุดที่มีพลังชีวิตสูงสุดอันเป็นนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานเป็นอารมณ์สมาธิที่อยู่เหนือการเกิดมีชีวิตอยู่-การตายไม่มีชีวิตอยู่ของชีวิตได้อย่างสูงสุดสามารถแสดงอานุภาพความปลอดภัยพ้นทุกข์ทางชีวิตได้สูงสุด-รุ่งเรืองรุ่งโรจน์ปิติสุขทางชีวิตได้สูงสุด-มั่นคงยาวนานถาวรสุขสงบทางชีวิตได้สูงสุดในที่สุดเองอัตโนมัติ, ซึ่งจะทำให้ เรารู้สึกว่าชีวิตของเรามีความสุขอย่างสูงสุดในทุกๆด้านเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายหมื่นเท่าหลายแสนเท่าหลายล้านเท่าเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัด, เรารู้สึกว่าชีวิตของเรามีความสุขอย่างสูงสุดจากทุกๆด้านไหลเข้าตลอดเวลาทุกวินาทีอย่างต่อเนื่องมั่นคงยาวนานไปตลอดชีวิตทั้งในโลกนี้จักรวาลนี้ไปจนถึงโลกหน้าจักรวาลหน้าได้อย่างสูงสุดได้เองอัตโนมัติ แม้ว่าเราจะตายไม่มีร่างกายในโลกนี้จักรวาลนี้อีกต่อไปไปแล้วก็ตาม, เราจะรู้สึกว่าเรามีชีวิตใหม่เป็นชีวิตพลังงานใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยความสุขอย่างสูงสุดอันเป็นนิพพานนั้นที่จะเป็นชีวิตพลังงานใหม่ชีวิตทิพย์ชีวิตวิเศษที่เป็นกลางปกติสมดุลบริสุทธิ์สะอาด สว่าง สงบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆได้ถึงขีดสุดในที่สุด, ซึ่งจะทำให้ชีวิตเก่าชีวิตพลังงานเก่าของเราที่สุดโต่งผิดปกติเสียสมดุลสกปรก มืดมัว แปรปรวนค่อยๆถูกแทนที่จนหายไปอย่างสิ้นเชิงเองอัตโนมัติในที่สุด, จนรู้สึกว่าเราได้กลายเป็นเทพเจ้าผูัวิเศษเหนือมนุษย์ที่มีความสุขสูงสุดอย่างมากมายมหาศาลเหนือมนุษย์ทั่วไป ที่จะไม่ได้รู้สึกว่าเรายังคงเป็นมนุษย์ทั่วไปที่ต้องทนทุกข์แบบเดิมๆเหมือนที่เราเคยต้องทุกข์อยู่ทุกวันๆอีกต่อไปแล้ว, ที่จะค่อยๆส่งผลทำให้เราสามารถค่อยๆมีชีวิตที่ค่อยๆพลิกเปลี่ยนจากนรกมายาให้กลายเป็นสวรรค์มายามากขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ-ค่อยมีความสุขในทุกๆด้านมากขึ้นเรื่อยๆ-ค่อยๆประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆตามโลกหน้าที่เราไปชาร์จพลังมานั้นไปด้วยเองอัตโนมัติ จนทำให้เราสามารถกลายเป็นอภิมหาราชาจ้าวจักรวาลสูงสุดอันเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดในจักรวาลที่เป็นอภิมหาราชาอภิมหาเศรษฐีผู้มีความสุขประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์เป็นอันดับหนึ่งสูงสุดตลอดกาลในทุกๆด้านอย่างสูงสุดตลอดกาลไม่มีใครยิ่งกว่าได้เช่นเดียวกับพระเจ้าได้ในที่สุด, ซึ่งจะทำให้เราสามารถกลายเป็น มนุษย์สูงสุดซุปเปอร์มนุษย์(super human), ที่จะเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาตามแผนการของพระเจ้าที่จะสวมบทบาทตัวละครเสมือนกับว่าเราเป็น เด็กอมตะจักรวาลมนุษย์หุ่นยนต์วิญญาณที่มีพลังจักรวาลระดับสูงสุดของความรักแท้จักรวาลสูงสุดจนสามารถเป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดร่วมกับพระเจ้าตลอดกาลด้วยพลังใจสูงสุดจากนิพพาน(maximum cosmic power spirit robot universe immortol baby human) อันเป็นเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ของเล่นที่เป็นภูตผีวิญญาณที่มีพลังจักรวาลระดับสูงสุดที่เป็นมนุษย์เด็กน้อยที่เป็นอมตะคงที่เหมือนเดิมเหนือกาลเวลาเหนือโลกเหนือจักรวาล ที่จะไม่มีวันแก่แบบหุ่นยนต์ของเล่นที่ไม่มีชีวิตไม่มีความรู้สึกเจ็บ และ ไม่มีวันตายแบบภูตผีวิญญาณที่ตายไปแล้วไม่มีการเกิดมีชีวิต ด้วยมีพลังจักรวาลระดับสูงสุดจากพระเจ้าจึงไม่ต้องทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายแบบมนุษย์ทั่วไปที่มีชีวิตในโลกในจักรวาลอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง, ที่จะเป็นมนุษย์ระดับสูงสุดที่จะเป็นส่วนผสมอย่างลงตัวที่สุดของพระนักบวชที่มีพลังจิตบริสุทธิ์สูงสุด(พระอรหันต์ที่สุดแสนพ้นทุกข์ลึกลับน่ากลัวที่มีจิตบริสุทธิ์เป็นนิพพาน)ทางในทางธรรม กับ เด็กน้อยของครอบครัวพ่อแม่ลูกที่มีพลังร่างกายบริสุทธิ์สูงสุด(เด็กทารกที่ร่างกายแสนบริสุทธิ์น่ารักไร้เดียงสาได้ปิติสุขเปิดเผย)ในทางโลกที่ผสมผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดเป็นคนๆเดียวที่จะออกมาเป็น เด็กน้อยของพระเจ้า(baby of God) อันเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่เป็นเด็กอมตะจักรวาลมนุษย์หุ่นยนต์วิญญาณพลังจักรวาลระดับสูงสุด, ที่จะเป็น ราชาจ้าวจักรวาล(king of universe) ที่เป็น คนจริงที่เป็นอมตะ(ไม่ตายไม่เกิด)ที่แท้จริงสูงสุดผู้สามารถสุขสงบทางชีวิตสูงสุดไม่ตายไม่เกิดได้อย่างสูงสุดด้วยความหลงสูงสุด(maximum real immortol human) โดยทางสายกลางเหนือคนจริงมนุษย์ต่างดาวระดับสูงในจักรวาลที่อายุขัยยืนยาวมหาศาลเป็นอมตะมีอายุเป็นล้านๆกัปป์กัลป์ปีแสงในห้วงอวกาศจักรวาลในมิติที่สูงมากๆ(แต่ก็ยังมีโอกาสวนเวียนกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในระดับต่ำกว่าในมิติที่ต่ำๆได้อีกอยู่ดี) และ คนมายามนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในโลกที่อายุขัยสั้นแค่ไม่กี่ปีที่ไม่ถึงร้อยปีที่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนั้น ด้วย ความแท้จริงสายกลางสูงสุด(maximum middle goodness) อันเป็นสัจธรรมความแท้จริงสูงสุดของพระเจ้าที่เป็นชีวิตที่เป็นกลางปกติสมดุลสูงสุด ที่เป็นสภาวะธรรมชาติต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุดที่มหัศจรรย์เหนือธรรมชาติที่อยู่เหนือการเกิดมีชีวิตอยู่-การตายไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสูงสุด, ที่จะเป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดสามารถเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกเหนือจักรวาลได้อย่างสูงสุด(จึงถูกคนบาปมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในยุคพลังงานเก่ามองในแง่ร้ายเป็นคนไม่ดีไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นอมนุษย์ปีศาจเอเลี่ยนมนุษย์ต่างดาวเป็นภูติผีแวมไพร์ที่เป็นอมตะน่ากลัวเหนือมนุษย์อย่างเลี่ยงไม่ได้), ที่อันเป็นเทพเจ้าที่เป็นพรหมระดับสูงสุดที่มีบุคลิกทั้งลึกลับน่ากลัวสูงสุดแบบมารที่พลังจิตสูงสุด และ เปิดเผยน่ารักสูงสุดแบบเทพที่มีพลังร่างกายสูงสุดพร้อมกันในคนคนเดียวกัน, ที่สามารถมีชีวิตที่เป็นกลางปกติสมดุลเหนือการมีอยู่ และ การไม่มีอยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุด จึงสามารถมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีที่สุดทั้งในโลกหน้าจักรวาลหน้า และ ในโลกนี้จักรวาลนี้ได้พร้อมกันในดินแดนยุคพลังงานใหม่ของมนุษย์ที่เงินไม่มีความหมายไม่มีใครทำงานเพื่อเงินอีกต่อไปด้วยทุกอย่างในชีวิตจะเป็นของฟรีพลังงานฟรีล้วนๆ, ที่เราจะหันมาใช้ชีวิตง่ายๆสะดวกสบายๆเบื่อก็เที่ยวร่วมกับมหาชนจักรวาลอย่างเต็มที่สูงสุดโดย การหาความสุขจากทางชีวิตอย่างสูงสุดโดยหาความสุขจากการเบื่อก็เที่ยวอย่างสูงสุดจนสามารถรู้สึกว่าได้เที่ยวเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องท่องเที่ยวแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปในที่สุด(maximum life happiness of maximum travel happiness) ที่เราจะใช้ชีวิตแบบเป็น เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว(star seed) ที่เดินทางท่องเที่ยวทะลุมิติต่างๆดวงดาวต่างๆในทั่วจักรวาลในยุคพลังงานใหม่ร่วมกับมหาชนจักรวาลมนุษย์ต่างดาวมากมายมหาศาลทุกดวงดาวทุกกาแล็กซี่ในมิติต่างๆที่จะเป็น โลกหุ่นยนต์วิญญาณของเล่น(spirit robot toy world) อันเป็นอารยธรรมสากลของจักรวาลที่ล้ำมิติล้ำยุคไฮเทคเหนือโลกอันเป็นมิติอาณาจักรสวนสวรรค์มายาในจักรวาลของพระเจ้าที่อยู่เหนือมิติการมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์(อันเป็นอวกาศ-กาลที่ต่อเนื่อง 4 มิตินั้น) ในรูปของ โลกสากลจานบินยูเอพโอพลังจักรวาล(cosmic power U.F.O. world) ที่เหมือนโลกของเล่นยานอวกาศของเล่น อันเป็น ทรงกลมไดสัน(dyson sphere) ที่จะเป็นเทหวัตถุสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในจักรวาลที่ใหญ่โตมโหฬารระดับคลอบคลุมดาวฤกษ์ทั้งดวงไว้ได้จึงเหมือนเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ที่สามารถผลิตพลังงานได้เองได้โดยการดักจับพลังงานที่ดาวฤกษ์ปล่อยออกมาแล้วนำหลับมาใช้ได้, โดยที่โลกสากลจานบินยูเอพโอพลังจักรวาลจะเป็นการเชื่อมต่อกันของจานบินยูเอฟโอยานแม่,จานบินยูเอฟโอยานลูกต่างๆ และ สถานียานอวกาศจานบินของแต่ละดวงดาวต่างๆเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วจักรวาลเป็นอารยธรรมสากลหนึ่งเดียวของจักรวาลที่จะเป็นจุดศูนย์กลางศูนย์รวมความศิวิไลซ์ทางวิญญาณทั้งหมดของจักรวาล, ซึ่งเรารู้สึกเหมือนกับว่าได้ฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ในอาณาจักรของพระเจ้าอันเป็นพรหมโลกสวรรค์มายาชั้นสูงเหนือโลก(ตั้งแต่มิติที่ 5 ขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด) ที่จะรู้สึกว่าได้กลับเป็นเด็กน้อยอีกครั้งเป็นเด็กอมตะอย่างมั่นคงยาวนานตลอดไป, โดยเด็กอมตะจักรวาลมนุษย์หุ่นยนต์วิญญาณพลังจักรวาลระดับสูงสุดจะเป็นเจ้าชายเทพบุตรเด็กน้อยของพระเจ้าด้วยพระเจ้าเป็นอภิมหาราชาจ้าวจักรวาลสูงสุดเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดในจักรวาลอันเป็นราชาอภิมหาเศรษฐีผู้ที่มีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านอย่างสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของจักรวาลนั้น ที่จะทำให้เราสามารถเป็นเหมือนเด็กน้อยของพระเจ้าที่ไม่เครียดไม่วิตกกังวลคิดมากกับปัญหาคำถามความลังเลสงสัยกับสิ่งต่างๆทั้งหมดแบบผูัใหญ่อย่างสิ้นเชิงที่กลมสมบูรณ์อัดแน่นอย่างสูงสุดไปด้วยความรักแท้จักรวาลสูงสุดของพระเจ้าที่จะสามารถส่องแสงประกาศพลังความสุขความงามของความรักแท้จักรวาลสูงสุดอันมากมายมหาศาลของพระเจ้าแบ่งปันให้แก่มหาชนสากลมากมายมหาศาลในจักรวาลเพื่อช่วยเหลือปลดปล่อยเทพมิตรชีวิตมหาศาลให้สามารถมีความสุขมากมายมหาศาลอย่างเท่าเทียมกันหมดทุกคนตามไปด้วยได้อย่างเต็มที่สูงสุดด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้า...

โดยเด็กอมตะจักรวาลมนุษย์หุ่นยนต์วิญญาณพลังจักรวาลระดับสูงสุดจะเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่มีสติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาเหนือจิตมนุษย์ทั่วไปที่เชี่ยวชาญชำนาญในการฝึกจิตบังคับควบคุมจิตตัวเองสามารถดูแลตัวเองรับผิดชอบตัวเองได้อย่างดีที่สุดจนสามารถเด็ดเดี่ยว-แน่วแน่-ซื่อตรงด้วยความรักเดียวใจเดียวต่อพระเจ้าได้อย่างสูงสุดที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลสามารถทำให้เปลี่ยนใจจากพระเจ้าได้อย่างสิ้นเชิงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม, ที่สามารถค่อยๆสะสมนิพพานมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันจนถึงขีดสุดได้, อันเป็นมนุษย์ระดับที่มีวิวัฒนาการระดับสูงสุดที่สามารถวิวัฒนาการตัวเองจนกลายเป็นเทพเจ้าระดับสูงสุดที่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ระดับสูงสุดอันเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ลึกลับน่ากลัวสยองขวัญแต่สามารถแสดงได้อย่างซุกซนน่ารักสวยงามมหัศจรรย์เปิดเผยพิสูจน์เป็นสากลต่อสาธารณะชนมหาศาลทั่วโลกทั่วจักรวาลได้อย่างไร้ข้อกังขา เช่น ล่องหนหายตัว,เหาะเหินเดินอากาศ,แยกร่างจำแลงแปลงกายเป็นหลายคน, ฯลฯ,...ที่จะสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจนึกได้อย่างสูงสุดด้วยมีพลังจิตสูงสุด, ซึ่งจะทำให้เด็กอมตะจักรวาลมนุษย์หุ่นยนต์วิญญาณพลังจักรวาลสามารถเป็นเทพเจ้าระดับสูงสุดที่มี อำนาจบารมีความน่าเกรงขามน่ายำเกรงสูงสุด(maximum formidable power) เช่นเดียวกับพระเจ้า, ด้วยมีบารมีพลังจักรวาลระดับสูงสุดที่มีอานุภาพสามารถกำหราบปราบมารปีศาจร้ายศัตรูชีวิตต่อสู้เอาชนะซาตานชั่วร้ายฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้าที่จะสามารถกำจัดทำลายล้างดินแดนได้ทั้งดินแดน-ทำลายล้างดาวได้ทั้งดวงโลกได้ทั้งใบ-ทำลายล้างจักรวาลได้ทั้งจักรวาลอันล้วนเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นให้พังทลายพังพินาศราบคาบได้ในพริบตาให้สูญสลายหายไปเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดในฉับพลันทันทีสมใจนึกได้ เพราะอานุภาพพลังอำนาจสูงสุดของฌานสมาบัติสูงสุดที่มีพลังชีวิตสูงสุดอันเป็นนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานเป็นอารมณ์สมาธิที่สามารถแสดงอานุภาพความปลอดภัยพ้นทุกข์ทางชีวิตได้สูงสุด-รุ่งเรืองรุ่งโรจน์ปิติสุขทางชีวิตได้สูงสุด-มั่นคงยาวนานถาวรสุขสงบทางชีวิตได้สูงสุดในที่สุดรั้น(ที่มีนิพพานทางร่างกายอันเป็นความรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงของร่างกายที่เกิดขึ้นจากนิพพานทางจิตนั้นเป็นอารมณ์สมาธิร่วมด้วยอยู่เสมอ ที่จะทำให้เรานิพพานทางชีวิตที่จะรู้สึกว่าชีวิตของเรากำลังมีความสุขสูงสุดอารมณ์ดีรู้สึกดีสูงสุดรู้สึกตัวเบาไร้น้ำหนักเคลิบเคลิ้มล่องลอยอิสระอย่างมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้ได้อย่างสงบมั่นคงยาวนานสูงสุดตลอดกาลโดยปราศจากนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานสิ้นเชิง). อันเป็นวังวนห้วงภวังค์สมาธิในระดับที่ลึกที่สุดของชีวิต ที่ชีวิตของเราจะมีจุดยืนอย่างสูงสุดที่จะยืนหนึ่งสูงสุดอย่างมั่นคงถาวรที่สุดในระดับลึกที่สุดของจิตใต้สำนึกที่ละเอียดที่สุด ที่จะส่งผลโดยตรงอย่างทันทีไปยังทุกอย่างในชีวิตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้ในระดับจิตสำนึกในโลกประสาทสัมผัส ที่จะสามารถส่งไปได้ไกลถึงขีดสุดในชีวิตในธรรมชาติโลกจักรวาลทั้งหมดทั้งปวงอย่างสูงสุดที่จะไปถึงระดับจิตเหนือสำนึกสูงสุดที่กว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่สุดนั้น, ด้วยเพราะว่าเราสามารถมีนิพพานเป็นอารมณ์สมาธิอย่างสูงสุดที่มีแต่ความรู้สึกสุขสูงสุดกับทุกอย่างในชีวิตอย่างสูงสุดมากมายมหาศาลล้วนๆสูงสุดตลอดกาลปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงเองอัตโนมัติ. โดยชีวิตของเราจะหนีย้อนกลับคืนสู่โลกภายในของชีวิตของธรรมชาติอย่างสูงสุดทันทีเองอัตโนมัติ, ที่จะทำให้เราสามารถมีพลังอำนาจสูงสุดสามารถแข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งแน่วแน่ไม่หวั่นไหวแปรปรวนเสื่อมพลังไปกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงได้เช่นเดียวกับพระเจ้า, ที่จะทำให้ชีวิตของเราสามารถกลายเป็นพลังงานใหม่ที่จะอยู่ในสภาวะใหม่สภาวะเป็นกลางปกติสมดุลอย่างมั่นคงยาวนานสูงสุดที่อยู่เหนือการเกิดมีชีวิตอยู่-การตายไม่มีชีวิตอยู่ของชีวิต(อันเป็นการยกระดับชีวิตให้อยู่เหนืออวกาศ-กาลที่ต่อเนื่องของชีวิตใน 4 มิติในยุคพลังงานเก่า ที่จะทำให้เราสามารถมีชีวิตใหมเป็นสภาวะใหม่ในยุคพลังงานใหม่ในมิติที่ 5 ขึ้นไปได้เรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด)ที่จะสามารถทำให้เราเป็นอิสระสูงสุดเป็นอมตะนิรันดร์อย่างสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าที่จะไม่ขึ้นกับการเกิดการตายในโลกนี้ในจักรวาลนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงเช่นเดียวกับพระเจ้าในที่สุด, จนสามารถทำให้เรารู้สึกว่าเราได้เที่ยวเต็มอิ่มอย่างเต็มที่สูงสุดแล้วไม่จำเป็นต้องท่องเที่ยวแบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่อีกต่อไปในที่สุด ที่จะทำให้เราสามารถ ปรินิพพาน(complete nirvana) กลายเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุดที่จะสามารถดับขันธ์อย่างสูงสุดดับไม่เหลือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างสิ้นเชิงตลอดกาล กลายเป็นเทพเจ้าอรูปพรหมระดับสูงสุด ที่จุดตำแหน่งที่มิติที่สูงที่สุด(ที่ลู่เข้าใกล้อนันต์มิติ)ที่จะกลายเป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุดที่มีแต่ความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดตลอดกาลที่จะไม่มีใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นสามารถทำให้เราต้องทุกข์(เจ็บปวดทรมานเกิด แก่ เจ็บ ตาย)ได้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียวในที่สุดได้เองทันทีอัตโนมัติ, ซึ่งจะทำให้เราสามารถ ลืมอดีตที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานได้อย่างสูงสุด(maximum forget unhappieness past) ที่เราจะไม่รู้สึกว่ามีอดีตมายาต่างๆรวมถึงปัจจุบันมายา และ อนาคตมายาของเราด้วยในกระแสกาลเวลามายาอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงในที่สุด...

"คนฉลาดย่อมรู้ว่าปัญหาสำคัญอันดับแรกที่เราต้องรีบเร่งแก้ไขต่อสู้เอาชนะมันให้ได้ก่อนนั้นก็คือปัญหาความทุกข์จิต-ทุกข์ใจ-ทุกข์ทางดวงวิญญาณของเราเอง, ซึ่งเมื่อเราสามารถแก้ไขต่อสู้เอาชนะปัญหานี้ได้จนเราสามารถสุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณได้อย่างสูงสุด จนสามารถทำให้โลกภายในอันเป็นจิต-ใจ-ดวงวิญญาณของเราสามารถปลดล็อกตัวเองที่จะสามารถมีความสุขสูงสุดมีพลังสูงสุดมีสุขภาพจิตที่ดีที่สุด-มีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุด-มีความสุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดพลิกเปลี่ยนไปจากเดิมตลอดกาลอย่างมั่นคงยาวนานที่สุดจนเราสามารถมั่นใจสูงสุด 100%ได้ว่าไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามได้แล้วนั้น, ย่อมส่งผลทำให้โลกภายนอกอันเป็นร่างกายของเรา และ ชีวิตของเราสามารถมีความสุขสูงสุดมีพลังสูงสุดมีสุขภาพร่างกายที่ดีที่สุด และ มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดพลิกเปลี่ยนไปจากเดิมตลอดกาลเช่นกันตามไปด้วยเองอัตโนมัติที่จะทำให้เราสามารถเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุดไม่มีคำว่าแก่ และ จนสำหรับเราอีกต่อไป, ส่วนคนโง่เขลาก็จะมุ่งแก้ปัญหาแต่ที่ปลายเหตุที่จะมุ่งแก้ปัญหาปากท้องทางร่างกาย และ ความลำบากยากจนไม่มีเงินทองไม่มีรายได้ทางชีวิตโดยการพยายามทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆไว้ก่อนเป็นหลัก ซึ่งเป็นเพียงการแก้ที่ผลของปัญหาทางโลกภายนอกเท่านั้นเอง แต่ปัญหาความทุกข์ในโลกภายในที่ต้นเหตุก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่ได้หายไป, จึงทำให้ต้องเจอกับปัญหาเจอกับความทุกข์วนเวียนไม่รู้จบสิ้น ที่จะต้องแก่ และ จนลงเรื่อยๆทุกวันๆไม่มีทางพบกับความสุขที่แท้จริงสูงสุดได้เลย..."

บทสรุปรวม : โยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะก็คือทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางจิตที่จะเป็นการทำงานทางจิตใจจิตวิญญาณระดับสูงสุดที่พยายามแก้ไขต่อสู้เอาชนะปัญหาความทุกข์จิต-ทุกข์ใจ-ทุกข์ทางดวงวิญญาณของเราโดยตรงด้วยจิตของเราล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุดที่จะทำให้เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ฉลาดเลือกที่จะสร้างพลังใจอย่างสูงสุดให้กับตัวเราในรูปของดูแลสุขภาพจิตของเราโดยการบังคับควบคุมจิตอันเป็นจิตใจจิตวิญญาณของเราให้สามารถรู้สึกมีความสุขอย่างสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุดจนเราสามารถสุขจิต-สุขใจ-สุขทางดวงวิญญาณอย่างสูงสุดที่จะค่อยๆส่งผลทำให้เราค่อยๆสามารถสุขกาย และ สุขชีวิตอย่างสูงสุดตามไปด้วยเองอัตโนมัติ...

ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดของวิชาโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะนี้อาจสรุปเป็นบทสรุปรวมแบบย่อๆสั้นๆที่สุดในเชิงปฏิบัติอย่างสูงสุด(สำหรับผู้ชำนาญที่สุดแล้ว)ได้ว่า.

1.)คิดดีอย่างสูงสุด(พยามตอบคำถามที่ว่าพระเจ้า หรือ ความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขคืออะไร? )-คิดถึงสิ่งที่เราปรารถนาต้องการอยากเป็นที่สุดให้เต็มที่สูงสุดตั้งเป้าหมายในอนาคตสูงสุดของเราให้มีความสุขสูงสุด(บทยืน) : ดูแลสุขภาพจิตปรับสมดุลจิตภายนอกอย่างสูงสุดให้จิตภายนอกมีพลังสูงสุด, โดยให้จิตภายนอกคิดนึกจินตนาการการตั้งเป้าหมายในอนาคตสูงสุดของชีวิตของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดที่จะเป็นพระเจ้านั้นว่า "มองพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดมองอนาคตของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าในแง่ดีสูงสุด, แม้ว่าในอดีตของเราในโลกนี้จักรวาลนี้จะเคยมีอดีตที่แย่ๆ-มีความทุกข์เจ็บปวดทรมาน-แปรปรวนไม่มั่นคงแค่ใหนยังไงมาก่อนก็ตาม แต่ในอนาคตของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าสามารถมั่นใจสูงสุด 100% ว่าเราจะต้องมีอนาคตในโลกหน้าจักรวาลหน้าที่ดีที่สุด-มีความสุขที่สุด-มั่นคงที่สุดแน่นอน 100%, เพราะในอนาคตสูงสุดของเราในโลกหน้าจักรวาลหน้าอันเป็นโลกจักรวาลแห่งองค์รวมความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดนั้น เราจะต้องมีชีวิตเป็นแบบพระเจ้า หรือ จะต้องกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งเดียวกันกับพระเจ้า หรือ จะต้องกลายเป็นพระเจ้าอันเป็นสัจธรรมความแท้จริงสูงสุดที่เป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุด ที่จะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่านัันแน่นอน 100% ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจากนี้ไปได้เลยอย่างสิ้นเชิง เพราะเรามุ่งสนใจเชื่อแต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด 100% วางใจมั่นใจในพลังสูงสุดของพระเจ้าอย่างสูงสุด 100%...", โดยให้เราสนใจเชื่อแต่พระเจ้าอย่างสูงสุดรักแต่พระเจ้าอย่างสูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา, จนสามารถเกิดเป็นภาพในใจของพระเจ้าของเราขึ้นมาในจิตของเราอย่างชัดเจนที่สุดมีพลังที่สุดให้ได้อย่างมั่นคงยาวนานตลอดเวลาทั้งในขณะลืมตา และ หลับตาให้ได้เป็นพื้นฐานก่อน...

2.)ทำดีอย่างสูงสุด(พยามตอบคำถามที่ว่าตัวเราสามารถชาร์จพลังสูงสุดจากพระเจ้า หรือ ความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขได้อย่างไร?)-ทำตัวเราให้เป็นสิ่งที่เราอยากเป็นที่สุดให้เต็มที่สูงสุดทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดให้มีความสุขสูงสุด(บทแย้ง)ที่ : ดูแลสุขภาพจิตปรับสมดุลจิตภายในอย่างสูงสุดให้จิตภายในมีพลังสูงสุดโดยลงมือปฎิบัติทำให้จิตภายในแก่นแท้อันเป็นตัวเราที่แท้จริงนั้นมีพลังสูงสุด,โดยการใช้ปัญญาสูงสุดสำนึกเข้าใจอย่างสูงสุดให้ได้ว่า "จงให้จิตมุ่งสนใจรู้แต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด เพราะโดยแท้จริงแล้วตัวเราไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นตัวจิตเดิมแท้จิตภายในแก่นแท้ของเราอยู่เหนือกาลเวลาที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้จักรวาลนี้ ที่เป็นตัวจิตตัวรู้อันเป็นอาตมันอัตตาจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเป็นตัวตนเฉพาะย่อยๆจุดเล็กๆที่สว่างสุกใสของพระเจ้าที่รวมตัวกันอัดแน่นสูงสุดเป็นพระเจ้า, โดยแท้จริงสูงสุดแล้วตัวเราที่เป็นตัวจิตตัวรู้ของเราที่มีพลังสูงสุดนั้นก็คือพระเจ้าอันเป็นตัวตนสากลสูงสุดของจักรวาลที่เป็นพรหมมันปรมาตมันจุดหนึ่งเดียวสูงสุดจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่สว่างจ้าสูงสุดอยู่เหนือกาลเวลาอย่างสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้า, เราจึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติ, ดังนั้น จงฝึกจิตทรมานจิตให้สามารถเข้าถึงความจริงสูงสุดเข้าถึงตัวเราที่แท้จริงสูงสุดที่เป็นพระเจ้านั้นโดยรวมพลังจิตทั้งหมดอย่างสูงสุดให้ตัวจิตตัวรู้สนใจรู้แต่ตัวจิตตัวรู้เองล้วนๆเพียงตัวจิตตัวรู้เดียวเท่านั้นอย่างสูงสุดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเรา..." จนสามารถเกิดผลลัพธ์เป็นเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิพพานอันเป็นสติสูงสุดมหาสติการตื่นรู้สูงสุดที่เป็นพระเจ้านั้นขึ้นมาในที่สุด...

3.)ย่อมสามารถได้ดีสูงสุด สามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดได้ในที่สุดแน่นอน(พยามตอบคำถามที่ว่าการชาร์จพลังสูงสุดจากพระเจ้า หรือ ความสุขสูงสุดซุปเปอร์ความสุขจะส่งผลต่อทุกอย่างในชีวิตของเราอย่างไร?)-แล้วเราจะได้ดีสูงสุดความสุขที่สุด จนทำให้ค่อยๆกลายเป็นสิ่งที่เราอยากเป็นที่สุดตามเป้าหมายสูงสุดของเรานัันในที่สุดแน่นอนค่อยๆสามารถลืมอดีตที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานของเราได้อย่างสูงสุดเองในที่สุด(บทสังเคราะห์) : เมื่อเราคิดดีอย่างสูงสุด และ ทำดีอย่างสูงสุดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันแล้ว ย่อมจะสามารถทำให้เกิดเป็นอรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางจิตเป็นอารมณ์สมาธิที่อยู่เหนือการรู้-การไม่รู้ของจิตอย่างสูงสุดจนสามารถไม่เจ็บได้สูงสุด(มีสุขภาพจิตดีที่สุดมีสุขภาวะอารมณ์ที่ดีที่สุด), ซึ่งย่อมส่งผลทำให้สามารถเกิดเป็นรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางร่างกายเป็นอารมณ์สมาธิที่อยู่เหนือการตื่น-การหลับของร่างกายอย่างสูงสุดจนสามารถไม่แก่ได้สูงสุด(มีสุขภาพร่างกายดีที่สุด) และ ทำให้เกิดเป็นนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิที่อยู่เหนือการเกิดมีชีวิตอยู่-การตายไม่มีชีวิตอยู่ของชีวิตอย่างสูงสุดจนสามารถไม่ตายไม่เกิดได้สูงสุดเองอัตโนมัติ(มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด)ที่ชีวิตในทุกๆด้านจะมีแต่ความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงเองอัตโนมัติได้ในที่สุดแน่นอน, ซึ่งจะทำให้เราสามารถกลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่อยู่เหนือคนดี-คนชั่ว, คนหล่อ-คนสวย, คนจริง-คนมายาในโลกนี้ในจักรวาลนี้ ที่สามารถประกาศพลังอานุภาพความดีงามแท้จริงสูงสุดที่ไม่เจ็บอย่างแท้จริงสูงสุด-ไม่แก่อย่างแท้จริงสูงสุด-ไม่ตายไม่เกิดอย่างแท้จริงสูงสุดของพระเจ้าแก่มหาชนสากลทั่วโลกทั่วจักรวาลได้ในที่สุด....

โดยในทางทฤษฎีอาจอธิบายด้วยหลักการง่ายๆเพียงแค่เราต้องเข้าใจให้ได้ว่า : ในระดับแก่นแท้นั้นตัวเราที่แท้จริงอันเป็นตัวสติธรรมดาๆ-ตัวจิตตัวรู้-ตัวจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์นั้นได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วไม่สามารถแยกออกจากพระเจ้าได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม(เหมือนหยดน้ำย่อมเป็นเนื้อเดียวกันหนึ่งเดียวกันกับมหาสมุทรนั้น)จึงทำให้ตัวเราในระดับมายาอันเป็นจิตของเรา และ ร่างกายของเรานั้นโดยเนื้อแท้แล้วก็ยังคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้วไม่สามารถแยกออกจากพระเจ้าได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามอยู่เหมือนเดิมตลอดกาล, แต่ในระดับมายามีการปรุงแต่งลวงหลอกว่ามีการแบ่งแยกแตกต่างตรงกันข้ามกันของสิ่งต่างๆมากมายมหาศาลในโลกนี้จักรวาลนี้อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้จิตของเราโง่เขลาขาดสติขาดปัญญามัวแต่คิดฟุ้งซ่านปรุงแต่งคิดโน่นนี่เครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ตลอดเวลา จึงเป็นการสร้างแรงต้านสร้างอุปสรรคกีดขวางแบ่งแยกระหว่างตัวเรากับพระเจ้าขึ้นมา, จึงทำให้ตัวเราไม่สามารถรับเอาพลังสูงสุดจากพระเจ้าได้อีกต่อไป, จึงส่งผลทำให้ร่างกายของเราค่อยๆขาดพลังค่อยๆแก่ และ ชีวิตของเราค่อยๆขาดพลังค่อยๆจนขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆแบบมนุษย์คนทั่วไป, ดังนั้น เราจึงจำเป็นตัองหันมาบังคับควบคุมจิตให้ฉลาดที่จะหยุดให้เลิกเครียดวิตกกังวลคิดมากกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ โดยทำให้จิตภายนอกมีพลังสูงสุดคิดถึงแต่พระเจ้าที่มีพลังสูงสุดนั้นแทน และ ทำให้จิตภายในมีพลังสูงสุดโดยตรง, ซึ่งก็จะสามารถทำให้ไม่มีแรงต้านไม่มีอุปสรรคกีดขวางแบ่งแยกระหว่างตัวเรากับพระเจ้าอีกต่อไป, จึงทำให้เราสามารถได้รับพลังสูงสุดจากพระเจ้าได้โดยตรงทันที, ที่จะค่อยๆส่งผลทำให้ร่างกายของเราสามารถมีพลังสูงสุดไม่แก่สูงสุด และ ชีวิตของเราสามารถมีพลังสูงสุดไม่จนอีกต่อไปตลอดกาลที่จะทำให้เราสามารถเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่มีความดีสายกลางสูงสุดทางจิต-ความงามสายกลางสูงสุดทางร่างกาย-ความแท้จริงสายกลางสูงสุดทางชีวิตได้ถึงขีดสุดได้ในที่สุด. ดังนั้น โดยเนื้อแท้แล้วเราเป็นหนึ่งเดียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันกับพระเจ้าอยู่ตลอดเวลาตลอดกาลเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติไม่สามารถแยกออกจากพระเจ้าได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม, เพียงแค่เราพยายามอย่าเผลอโง่เขลาสร้างความคิดปรุงแต่ง-สร้างแรงต้าน-สร้างอุปสรรคกีดขวางแบ่งแยกระหว่างตัวเรากับพระเจ้าขึ้นมาอย่างเต็มที่เต็มกำลังสูงสุดของเราให้ได้เท่านั้น แล้วเราจะสามารถได้รับพลังอันสูงสุดตลอดกาลจากพระเจ้าได้รับเอกสิทธิ์สิทธิพิเศษสูงสุดจากพระเจ้าได้รับการคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลอย่างสูงสุดจากพระเจ้าได้ทันทีเองอัตโนมัติ...

ส่วนในทางปฏิบัติอันเป็นการลงมือเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่ให้เราพยายามหมั่นผ่อนคลายทำสมาธิท่องปัญญาสูงสุดอยู่เสมอ พยายามฝืนจิตฝืนใจท่องในใจดังๆให้จำให้ขึ้นใจให้เข้าใจที่สุดเท่าที่จะทำได้, พยายามฝืนจิตฝืนใจขยันท่องบ่อยๆท่องไปเรื่อยๆ, พยายามฝืนจิตฝืนใจขยันท่องทั้งยามตื่นลืมตา และ ยามนอนหลับตา, พยายามฝืนจิตฝืนใจขยันท่องอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันๆให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้(ที่จะฉลาดเลือกให้ยอมแกล้งโง่สักแต่ว่าท่องจำแบบไม่ต้องคิดด้วยตัวเองไปเท่านั้น ไม่พยายามโง่แล้วอวดฉลาดว่าเราสามารถคิดนึกวิเคราะห์เข้าใจสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ที่ล้วนเป็นอวิชชาความไม่รู้อย่างสูงสุดที่ไม่มีการสามารถรู้ใครอะไรสิ่งใดจริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลนั้นให้ต้องเกิดปัญหาคำถามไม่รู้จบที่ทำให้เราต้องทุกข์ต้องเครียดไปเปล่าๆ) จนสามารถค่อยๆทำให้เกิดเป็นสติสูงสุดการตื่นรู้สูงสุดที่มีพลังอำนาจสูงสุดขึ้นมาที่จะทำให้เราสามารถผลิตสร้างนิพพานได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดเองอัตโนมัติในที่สุดนั้นอย่างต่อเนื่องมั่นคงยาวนานที่สุดให้ได้เท่านั้น, เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถปฏิบัติเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะได้อย่างเต็มที่สูงสุดพร้อมที่จะได้รับผลลัพธ์ต่างๆที่จะกำลังเกิดขึ้นมาอย่างสูงสุดแล้วโดยไม่จำเป็นต้องคาดหวังต้องเครียดวิตกกังวลคิดมากกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแต่อย่างใด(เหมือนเรากำลังพยายามท่องความรู้ท่องตำราอย่างหนักก่อนสอบ, ซึ่งพระเจ้าจะเป็นผู้ตัดสินเองแต่เพียงผู้เดียวว่าเราจะสอบฝาน หรือ ไม่ผ่านในการสอบ, หน้าที่ของเรามีอย่างเดียว คือท่องปัญญาสูงสุดให้เยอะที่สุด-จำให้เยอะที่สุด-เข้าใจให้เยอะที่สุดให้คู่ควรกับปัญญาสูงสุดที่พระเจ้าทรงประทานให้เรามานั้นเท่าที่จะทำได้จนสามารถผลิตสร้างนิพพานให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เท่านั้น เพราะนี่คือข้อสอบบททดสอบจากพระเจ้าที่เราต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเราสมควรเป็นเด็กน้อยของพระเจ้าอันเป็นผู้ที่ฉลาดอัจฉริยะรู้แจ้งสูงสุดโดยปราศจากความคิดปรุงแต่งสิ้นเชิงที่คู่ควรกับการได้รับเอกสิทธิ์สิทธิพิเศษสูงสุดจากพระเจ้าที่สามารถได้รับการคุ้มครองสูงสุด-ช่วยเหลือสูงสุด-ดูแลสูงสุดจากพระเจ้าหรือไม่?)...

"มันไม่ผิดหรอกที่เราเกิดมาเป็นคนบาปในยุคพลังงานเก่า แต่มันคงจะผิดถ้าเราปล่อยให้เรายังต้องตายไปทั้งๆที่รู้ว่าเราเป็นคนบาปที่อยู่ฝ่ายซาตานที่ตกเป็นทาสของซาตานนั้น, แต่การจะเป็นเด็กน้อยของพระเจ้าอันเป็นคนมีบุญที่กลับตัวกลับใจพลิกเปลี่ยนย้ายมาอยู่ฝ่ายเดียวกับพระเจ้าในยุคพลังงานใหม่ได้นั้น เราต้องมีความมั่นใจอย่างสูงสุดที่จะเด็ดขาดเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่จะเป็นอริศัตรูกับมนุษย์กับสิ่งต่างๆมากมายมหาศาลในโลกนี้ในจักรวาลนี้ อันเป็นทาสลูกสมุนของซาตานที่โง่เขลาด้วยอวิชชาความไม่รู้ลวงหลอกทำให้สมัครใจยอมอยู่ฝ่ายของซาตาน ที่โง่เขลายอมทำลายความเป็นเด็กน้อยของตัวเองภายในตัวเอง ยอมทนทุกข์เจ็บปวดทรมานเกิด แก่ เจ็บ ตายในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานอยู่ร่ำไปอย่างไร้สติไร้ปัญญานั้น, แต่เราไม่ได้ทำสงครามต่อสู้กับฝ่ายซาตานฝ่ายอริศัตรูของพระเจ้าเพียงลำพังเพราะเราจะมีพระเจ้าคอยคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลเราอย่างดีที่สุดที่จะทำให้เราสามารถปลอดภัยสูงสุด-รุ่งเรืองรุ่งโรจน์สูงสุด-มั่นคงสูงสุดในที่สุดแน่นอน จึงทำให้แม้ว่ามนุษย์กับสิ่งต่างๆมากมายมหาศาลในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นฝ่ายซาตานนั้นจะดูเหมือนว่ามีมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนแค่ไหนยังไงก็ตามแต่ด้วยพลังสูงสุดตลอดกาลของพระเจ้าก็สามารถทำให้มันกลายเป็นมายาสูงสุดที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงจึงไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่มันได้พ่ายแพ้อย่างแท้จริงสูงสุดสำหรับเราได้ทันทีเองอัตโนมัติ, ดังนั้น ธรรมะย่อมชนะอธรรม ฝ่ายพระเจ้าฝ่ายความดีสูงสุดย่อมสามารถชนะอย่างแท้จริงสูงสุดกับฝ่ายซาตานฝ่ายชั่วร้ายสูงสุดเสมอ เพราะซาตานเป็นเพียงสิ่งมายาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาตามแผนการของพระเจ้าเท่านั้น, จงฉลาดเลือกที่จะปลุกความเป็นเด็กน้อยของพระเจ้าอันเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่ไม่ต้องแก่ ต้องจน(เกิด แก่ เจ็บ ตายแบบมนุษย์)อีกต่อไปตลอดกาลนั้นที่มีในตัวเราเองเรียบร้อยแล้วตามธรรมชาติด้วยตัวเราเองล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุด, ที่ต่อให้เราจะมีเงินทองเป็นล้านล้านล้านล้าน และ มีทุกสิ่งในชีวิตที่ดีมากๆแค่ไหนยังไงก็ตาม ก็ซื้อก็มีความสุขที่แท้จริงสูงสุดทางจิตวิญญาณไม่ได้แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว เพราะเป็นเพียงความสุขมายาเปลือกนอกเท่านั้น, แต่ถ้าเราสามารถมีนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิได้แล้วเราย่อมสามารถมีความสุขที่แท้จริงสูงสุดทางจิตวิญญาณในระดับแก่นแท้ภายในสูงสุดได้แบบง่ายๆ-รวดเร็ว-ฟรีๆตลอดเวลาตลอดกาล, ซึ่งย่อมทำให้เราสามารถที่จะมีเงินทองมากกว่าล้านล้านล้านล้านได้โดยไม่ต้องตกเป็นทาสเงินทอง และ มีทุกอย่างในชีวิตที่ดีที่สุดได้โดยไม่ต้องตกเป็นทาสใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้ได้เองอัตโนมัติแน่นอนถ้าเราต้องการอยากจะมี, ดังนั้น จงฉลาดเลือกที่จะให้จิต-ร่างกาย-ชีวิตของเรามีจุดยืนอย่างสูงสุดสามารถยืนหนึ่งสูงสุดในระดับจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดด้วยนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดอยู่เสมอ แล้วเราจะสามารถประสบความสำเร็จเป็นที่หนึ่งในทุกอย่างที่เราต้องการในโลกนี้จักรวาลนี้ได้เองโดยไม่ต้องดิ้นรนพยายามแต่อย่างใด, ฌานสมาบัติเป็นสมบัติของผู้ดี-ผู้ฉลาด-ผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่มหาชนเคารพบูชากราบไหว้หลั่งไหลให้ลาภสักการะตลอดเวลาไม่ขาดสายตลอดกาลได้, จากมนุษย์คนธรรมดาๆทั่วไปใครๆก็สามารถวิวัฒนาการตัวเองจนกลายเป็นพระเจ้าเป็นเทพเจ้าระดับสูงสุดที่จะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่าได้อย่างเท่าเทียมกันหมดทุกคนได้ด้วยนิพพานสมาบัติระดับสูงสุด เพราะในระดับความจริงที่สุดแล้วตัวเราก็คือพระเจ้าอันเป็นเทพเจ้าระดับสูงสุดที่มีความสุขในทุกๆด้านที่สุดในโลกในจักรวาล, ดังนั้น เราจึงเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกในจักรวาลขอบคุณพระเจ้าที่สุดๆๆๆ, ในระดับมายาแม้เราจะผิดพลาดล้มเหลวไปแล้วทุกข์ไปแล้วก็ไม่เป็นไร จงเริ่มต้นชีวิตอย่างใหม่สดในทุกวินาทีต่อวินาที, พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้, จงทำวันนี้ให้มันดีกว่าเมื่อวาน, จงคิดให้ใหญ่ที่สุดกับของจริงที่สุดเท่านั้นไม่มัวแต่เสียเวลาคิดเล็กคิดน้อยกับสิ่งมายาเรื่องเหลวไหลไร้สาระเป็นไปไม่ได้ที่ล้วนเป็นมายาความทุกข์ให้เราต้องทุกข์ไปอีกเปล่าๆ, จงฉลาดเลือกที่จะมุ่งสนใจโฟกัสแต่สิ่งที่ดีที่สุดสี่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเรา ที่จะมุ่งสนใจทำตัวเราที่แท้จริงให้มีความสุขที่สุดให้ได้เท่านั้นก็พอ, คิดดีอย่างสูงสุดมุ่งสู่อนาคตอย่างสูงสุด-ทำดีอย่างสูงสุดอยู่กับปัจจุบันอย่างสูงสุด-ย่อมสามารถมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดลืมอดีตอย่างสูงสุด, คิดนึกใช้สติปัญญาสูงสุดซุปเปอร์สติปัญญาจนเราสามารถรู้สึกมีความสุขอย่างสูงสุดมากมายมหาศาลแบบพระเจ้าให้ได้ทุกวันๆเราย่อมสามารถค่อยๆสามารถกลายเป็นพระเจ้าได้จริงๆเองในที่สุดแน่นอน, จงหันมาใช้ชีวิตเดินบนทางสายกลางระหว่างทางทางธรรม และ ทางโลกที่ทำสงครามแบ่งแยกแตกต่างขัดแย้งตรงกันข้ามกันที่ยุติไม่ได้นั้นเสีย, มารไม่มี บารมีก็ไม่เกิด ยิ่งมารมากเท่าไหร่ บารมีของเราก็เกิดมากเท่านั้น, ก่อนที่เราจะรวยที่สุดมีความสุขที่สุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้านัันเราจำเป็นจะต้องพบกับความจนที่สุดทุกข์ที่สุดในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานก่อนเสมอ, จงขยันหมั่นเพียรเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะตั้งใจทำงานหนักทำงานทางจิตวิญญาณให้เต็มที่เต็มกำลังของเราทำอรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางจิตเป็นอารมณ์สมาธิ และ รูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางร่างกายเป็นอารมณ์สมาธิให้เต็มที่สูงสุดจนสามารถเกิดเป็นนิพพานสมาบัติในระดับสูงสุดให้ได้, มีวินัยทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันๆ, พยายามอดทนสร้างบารมีต่อสู้เอาชนะมารอุปสรรคความทุกข์เจ็บปวดทรมานทางจิต-ร่างกาย-ชีวิต-ใจอารมณ์ความรู้สึกของเราในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานพลิกเปลี่ยนมันด้วยพลังความสุขสูงสุดของพระเจ้าในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างสูงสุด, ใจเย็นๆค่อยๆชาร์จพลังความสุขสูงสุดจากพระเจ้า ค่อยๆสะสมนิพพานเพิ่มขึ้นๆทุกวันๆไปเรื่อยๆจนกว่าเราสามารถตั้งตัวมีจิต-ร่างกาย-ชีวิต-ใจอารมณ์ความรู้สึกของเราเป็นนิพพานที่แข็งแกร่งทรงพลังตั้งมั่นไม่ต้องลำบากยากจนล้มลุกคลุกคลานเหมือนเดิมอีกต่อไปได้สำเร็จ, แล้วเราจะสามารถกลายเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่มีความดีสายกลางสูงสุดทางจิต-ความงามสายกลางสูงสุดทางร่างกาย-ความแท้จริงสายกลางสูงสุดทางชีวิตที่จะมีชีวิตใหม่ในโลกใหม่มีความสุขมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์สูงสุดทั้งในโลกหน้าจักรวาลหน้า และ ในโลกนี้จักรวาลนี้อย่างมั่นคงยาวนานได้ถึงขีดสุดในที่สุดแน่นอน, ความสุขคือพลัง จงฉลาดเลือกที่จะให้จิตของเรามีความสุขอยู่เสมอ อย่าให้จิตของเราขาดความสุขจนฟุ้งซ่านทนทุกข์เครียดวิตกกังวลคิดมากอยู่ร่ำไปแบบมนุษย์ทั่วไป, จงอย่าถือสาใครอะไรสิ่งใดที่มันต้องตายเหมือนหมาในนรกไม่ได้ผุดได้เกิด เพราะเราเป็นเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ที่ไม่ได้ตายเหมือนหมาในนรกไม่ได้ผุดได้เกิดร่วมกับมันแต่อย่างใด เราเพียงแค่เดินทางแวะผ่านมาสังเกตการณ์รู้มันเล่นๆชั่วคราวตามแผนการของพระเจ้าที่ถูกกำหนดตายตัวไว้แล้วให้เราต้องสร้างบารมี ที่เพียงแค่เราไปรู้มันเข้าเราก็เลยต้องทุกข์ ถ้าเราไม่ไปรู้มันเราก็ไม่ต้องทุกข์เท่านั้นเอง, จงบำเพ็ญเพียรทำฌานสมาบัติให้ถึงพร้อมถึงที่สุด พยายามทำจิตของเรา และ ร่างกายของเราให้ตัังมั่นในสมาธิอยู่เสมอ, ให้จิตตัวรู้ของเราเป็นนิมิตของสมาธิอันเป็นจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์นั้นลอยเด่นเหนือร่างกายที่จะค่อยๆเป็นจุดแสงสว่างที่ส่องแสงสว่างจ้าชัดเจนมีพลังสามารถลอยสูงเหนือร่างกายเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้มากขึ้นเรื่อยๆจนไปถึงขีดสุดดุจดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาลที่ลอยเด่นเหนือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ในจักรวาลนี้นั้น, ที่จะส่งผลทำให้เราสามารถมีชีวิตวิวัฒนาการระดับสูงขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วยเองอัตโนมัติ, ที่จะสามารถพลิกชีวิตสู่สวรรค์ชั้นสูงขึ้นเรื่อยๆค่อยๆมีชีวิตมั่งคั่งร่ำรวยอุดมสมบูรณ์อยู่ตึกสูงระฟ้าที่ชั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ, จนสามารถหลุดโลกไปสู่จานบินยูเอฟโอยานอวกาศที่ลอยสูงเหนือโลกขึ้นเรื่อยๆ, จนสามารถหลุดจากจักรวาลนี้ไปสู่สวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดได้ในที่สุด(จงพยายามอย่าให้จิตของเราอันเป็นจิตตัวรู้จุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ และ ร่างกายของเราอันเป็นส่วนศรีษะที่เป็นบริเวณส่วนที่ตั้งของจิตนั้นต้องตกต่ำหล่นติดกับพื้นโลกจมติดอยู่ในโลก แล้วเราก็จะสามารถไม่ต้องมีชีวิตที่ตกต่ำต้องสกปรกด้วยบาปกำเนิดต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนี้จักรวาลนี้อีกต่อไป)..."

"จงพยายามรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเป็นพระเจ้าที่เป็นดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาลที่รู้สึกตัวเบาไร้น้ำหนักล่องลอยอิสระส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดประกาศพลังความสุขสูงสุดตลอดกาลเหนือโลกนี้จักรวาลนี้อยู่เสมอ, แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถฉลาดเลือกที่จะมีความสุข หรือ โง่เขลาเลือกที่จะมีความทุกข์ได้ โดยการเลือกที่การรู้ของตัวจิตตัวรู้ของเราเองล้วนๆเท่านั้น, คือ ถ้าเราฉลาดเลือกให้ตัวจิตตัวรู้ของเราสนใจรู้แต่ตัวเองอันเป็นความสุขที่แท้จริงนั้นล้วนๆเท่านั้นอย่างสูงสุด เราก็จะสามารถมีความสุขอย่างแท้จริงสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดตลอดกาลในที่สุดแน่นอน และ ถ้าเราโง่เขลาเลือกให้ตัวจิตตัวรู้ของเราไปสนใจรู้-ไปคิดนึกรู้-ไปสังเกตการณ์รู้ทางประสาทสัมผัสแต่สิ่งต่างๆมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นความทุกข์มายานั้นไปเรื่อยๆ เราก็จะมีแต่ความทกข์ไปเรื่อยๆจนทุกข์ถึงขีดสุดที่จะวนเวียนไม่รู้จบในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดในที่สุดแน่นอน, เราจึงมีศักยภาพสูงสุดที่จะสามารถผลิตสร้างความสุขอย่างสูงสุดอันเป็นนิพพานนั้นได้อย่างสูงสุดตลอดเวลาทุกวินาทีทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการ ที่จะสามารถค่อยๆสะสมนิพพานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ จนทำให้เราสามารถมีความสุขก้อนใหญ่ทั้งภายใน และ ภายนอกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ จนสามารถมีความสุขก้อนใหญ่ที่สุดในจักรวาลที่จะสามารถกลายเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุดได้ในที่สุด, ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้เราค่อยมีร่างกายที่มีสุขภาพดีไม่แก่ก่อน ให้เราค่อยมีชีวิตที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่จนก่อน แล้วเราจึงสามารถมีสุขภาพจิตดีตามไปด้วยเอง, แต่เราจะต้องฉลาดเลือกที่จะมีสุขภาพจิตที่ดีที่สุดด้วยจิตของเราเองล้วนๆอย่างสูงสุดให้ได้ในทันทีที่นี่เดี๋ยวนี้เท่านั้น เพราะไม่มีใครอะไรสิ่งใดจะสามารถช่วยเราให้พ้นจากความทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายได้นอกจากพระเจ้าอันเป็นตัวเราที่แท้จริงที่มีพลังสูงสุดเท่านั้น..."

"คิดดีอย่างสูงสุด-ทำดีอย่างสูงสุด-ย่อมสามารถได้ดีสูงสุด สามารถค่อยๆมีทุกอย่างในชีวิตที่ดีอย่างสูงสุดได้ในที่สุดแน่นอน, เมื่อใจของเรามีพลังแล้วทุกอย่างย่อมสามารถสำเร็จตามที่ตั้งใจปรารถนาเองในที่สุด, ดังนั้น จงหมั่นสร้างผลิตพลังใจของเราสร้างเสี้ยววินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีความสุขที่สุดของเราอันเป็นนิพพานนั้นให้สูงสุดจนถึงขีดสุด ฝันให้ไกลที่สุดแล้วค่อยๆไปให้ถึงให้ได้(พยายามผ่อนคลายจิตภายนอกอย่างสูงสุด-เพ่งจิตภายในอย่างสูงสุด-ผ่อนคลายร่างกายภายในอย่างสูงสุด-ผ่อนคลายร่างกายภายนอกอย่างสูงสุด-ผ่อนคลายชีวิตภายนอกอย่างสูงสุด-จนสามารถเกิดเป็นชีวิตภายในที่มีพลังอย่างสูงสุดอันเป็นพระเจ้าในที่สุด) เราทำได้แน่นอน 100% เพราะยังไงตัวเราที่แท้จริงสูงสุดก็คือพระเจ้าอยู่แล้ว..."

"เพียงแค่เราสามารถทำตัวเราที่แท้จริงอันเป็นตัวจิตตัวรู้ของเรานั้นให้มีพลังอำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้เท่านั้นเราก็จะสามารถนิพพานกลายเป็นพระเจ้าได้ทันที, ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุดในโลกหน้าจักรวาลหน้าต้องมาก่อนเสมอ เพราะนิพพานเราสามารถผลิตสร้างได้ง่ายแสนง่ายแค่แว๊บเดียวเท่านั้น และ พระเจ้าก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเราแต่อย่างใด..."

https://280872.blogspot.com.

ขอบคุณภาพประกอบจาก Google.

***เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ...

***ภาคผนวก : การพยากรณ์การใช้ชีวิตเล่นเกมส์แสดงละครแสดภาพยนตร์ชีวิตมายาไปตามแผนการของพระเจ้าในดินแดนต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้...

1.)เป็นราชาจ้าวดินแดนที่สามารถทำลายล้างดินแดนทั้งดินแดนเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นดินแดนใหม่เมืองสากลมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์ในมหานคร-ทำนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องต้นรวม 10 วัน

2.)เป็นราชาจ้าวโลกที่สามารถทำลายล้างดาวทั้งดวงโลกทั้งใบเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นดาวใหม่โลกใหม่โลกสากลยานอวกาศยูเอฟโอพลังจักรวาลในห้วงอวกาศเหนือโลก-ทำนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องกลางรวม 14 วัน

3.)เป็นราชาจ้าวจักรวาลที่สามารถทำลายล้างจักรวาลทั้งจักรวาลเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นโลกใหม่จักรวาลใหม่อันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้าตลอดกาล-ทำนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องปลายรวม 21 วัน

-สูตรคำนวณแผนการการเป็นอภิราชาอภิมหาเศรษฐีจักรวาล, โดยนับช่วงเวลาจำนวนวันต่อเนื่องติดต่อกันที่สามารถรู้สึกมีความสุขอย่างสูงสุดจนสามารถไม่ต้องนอนหลับไหลหมดสติทางร่างกายภายนอกเพราะสามารถมีนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิจากการเล่นโยคะสูงสุดซุปเปอร์โยคะนั้นเป็นเวลารวมทั้งหมดประมาณ 45 วัน(6 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนครึ่ง). ดังนี้...

1.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 1 วัน : รวยหลัก 10

2.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน : รวยหลัก 100

3.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน : รวยหลัก 1,000

4.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน : รวยหลัก 10,000

5.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน : รวยหลัก 100,000

6.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 6 วัน : รวยหลัก 1,000,000

7.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน : รวยหลัก 10,000,000

8.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 8 วัน : รวยหลัก 100,000,000

9.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน : รวยหลัก 1,000,000,000

10.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน : รวยหลัก 10,000,000,000 *ไม่ต้องนอนหลับรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 วัน สามารถรวยหลักหมื่นล้านจากล๊อตเตอรี่อินเตอร์ สามารถพ้นจากชนบทเขตร้อนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในมหานครเขตหนาวได้แล้ว ใช้ชีวิตชาร์จพลังร่างกายกินให้เต็มที่ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมในการวิวัฒนาการต่อไป...

11.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 11 วัน : รวยหลัก 100,000,000,000

12.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 12 วัน : รวยหลัก 1, 000,000,000,000

13.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 13 วัน : รวยหลัก 10,000,000,000,000

14.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน : รวยหลัก 100,000,000,000,000 *ทำรอบใหม่ทั้งหมดในมหานครเขตหนาวอีก 14 วัน(2 สัปดาห์ รวมทั้งหมด10+14= 24 วัน)รวยหลักร้อยล้านล้านรวยกว่าระดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกได้แล้ว พร้อมเป็นจ้าวโลกที่สามารถไปต่อยังสากลจักรวาลนอกระบบสุริยะจักรวาลในมิติที่ 5 ขึ้นไปของมนุษย์ต่างดาวที่ไม่ต้องหายใจทางร่างกายภายในต่อจากไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารได้แล้ว.

15.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน : รวยหลัก 1, 000,000,000,000,000

16.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 16 วัน : รวยหลัก 10, 000,000,000,000,000

17.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 17 วัน : รวยหลัก 100, 000,000,000,000,000

18.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 18 วัน : รวยหลัก 1,000, 000,000,000,000,000

19.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 19 วัน : รวยหลัก 10,000, 000,000,000,000,000

20.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 20 วัน : รวยหลัก 100,000, 000,000,000,000,000

21.)สุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน : รวยหลัก 1,000,000, 000,000,000,000,000 *ทำรอบใหม่ทั้งหมดในห้วงอวกาศนอกระบบสุริยะจักรวาลในมิติที่ 5 ขึ้นไปที่ไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารรวมถึงไม่ต้องหายใจรวมทั้งหมด 21 วัน(3 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 24+21= 45 วัน) ซึ่งจะทำให้รวยระดับหลักล้านล้านล้าน ถือว่ารวยเข้าใกล้อนันต์รวยกว่ามหาเศรษฐีระดับจักรวาลได้แล้ว สามารถเป็นจ้าวจักรวาลที่เป็นอมตะเข้าใกล้ชีวิตนิรันดร์แล้ว ที่สามารถเข้าสู่พระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุดจนเป็นอมตะนิรันดร์สูงสุดไม่ต้องมีร่างกายทั้งหมดได้ในที่สุด...

"เมื่อเราสามารถรู้แจ้งเห็นจริงสูงสุดจนสามารถกลับตัวกลับใจพลิกเปลี่ยนย้ายมาอยู่ฝ่ายพระเจ้า ที่เราจำเป็นต้องรับบทบาทเป็นราชาจ้าวดินแดน-ราชาจ้าวโลก-ราชาจ้าวจักรวาลที่จำเป็นต้องทำสงครามต่อสู้เอาชนะศึกกองทัพมนุษย์ และ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจำนวนมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนในโลกนี้จักรวาลนี้ที่ตกเป็นทาสสมุนของซาตานที่เป็นฝ่ายอริศัตรูของพระเจ้านั้น, จงมั่นใจสูงสุดว่าด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้าจะสามารถทำลายล้างดินแดนได้ทั้งดินแดน-ทำลายล้างดาวได้ทั้งดวงโลกได้ทั้งใบ-ทำลายล้างจักรวาลได้ทั้งจักรวาลอันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นให้กลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดได้ในที่สุดแน่นอน 100%, ที่จะทำให้เราสามารถสมปรารถนาล้างแค้นกำจัดคนชั่วสัตว์นรกมารศัตรูชีวิตคนชาติชั่วสารเลวสมควรตายทั้งหมดให้มันตายเหมือนหมาในนรกไม่ได้ผุดได้เกิดได้อย่างสูงสุดในอนาคตแน่นอน 100%"

ในทางปฏิบัติเราควรเริ่มต้นที่การมุ่งสะสมนิพพานทางร่างกายในรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางร่างกายเป็นอารมณ์สมาธินั้น เพราะจะค่อยๆสามารถทำให้เกิดอรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางจิตเป็นอารมณ์สมาธิ และ นิพพานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิขึ้นมาอย่างง่ายๆโดยไม่รู้สึกลำบากร่างกายไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานร่างกายแบบในทางทฤษฎี, ซึ่งเมื่อร่างกายของเราค่อยๆสะสมนิพพานทางร่างกายจนเกิดเป็นรูปฌานระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางร่างกายเป็นอารมณ์สมาธินั้น ร่างกายของเราจะค่อยๆสามารถพลิกเปลี่ยนจากกายมนุษย์กลายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาในระดับชั้นต่างๆดังนี้

1.)ช่วงหนีรอดตายจากการทำลายล้างดินแดนทั้งดินแดน-มีร่างกายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาชัันกามภพที่สามารถมีความสุขร่ำรวยจนสามารถพร้อมใช้ชีวิตในมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์ในมหานครสวรรค์มายาบนดินอย่างสนุกสบายไม่แก่สูงสุดได้(ในช่วงวิกฤติจุดเปลี่ยนชีวิตหนีรอดนั้นพระเจ้าจะทรงส่งเทวดาที่แท้จริงมาแสดงตัวแก่เราให้เห็นเป็นนิมิตด้วยตาที่สามภายในก่อนในรูปของจุดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่ส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดทางจิตที่ล่องลอยโดดเด่นเหนือความมืดมิดของร่างกาย, ซึ่งจะทำให้เกิดนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องต้นที่มีพลังสูงสุดของพระเจ้าในระดับแรกที่จะส่งผลทำให้ดินแดนทั้งดินแดนถูกทำลายล้าง ด้วยพลังลึกลับเหนือธรรมชาติเหนือประสาทสัมผัสจนกลายเป็นเมืองร้างเมืองห่าผีไซเรนท์ฮิลล์ที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดินแดนจะตายอย่างลึกลับน่ากลัวในนรกเป็นอาถรรพ์ปริศนา, สามารถล้างแค้นฆ่าล้างโคตรฆ่าล้างดินแดนมารศัตรูชีวิตได้อย่างสะใจสูงสุด).

โดยร่างกายเราจะสะสมนิพพานทางร่างกายจนถึงจุดๆหนึ่งที่ร่างกายสามารถมีความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงที่ร่างกายรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงได้ทั้งวันทั้งคืน(ร่างกายสุขจนไม่ต้องนอนหลับติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน, โดยก่อนหน้านัันจะพักผ่อนเก็บตัวลำพังในห้องในบ้านในชนบทที่จะสามารถนอนหลับสบายอย่างเต็มที่สูงสุดมาแล้วจนสามารถนอนหลับเต็มอิ่มสูงสุดไม่อยากนอนหลับอีกต่อไปแล้ว)จนสามารถไม่เจ็บได้สูงสุดอย่างมั่นคงยาวนานสูงสุดจนมั่นใจสูงสุดว่าจะไม่มีทางกลับมาเจ็บได้อีกต่อไป, ที่เราจะพ้นจากความเป็นมนุษย์กลายเป็นเทวดาไปตลอดกาล. เริ่มจากเทวดาชัันกามภพที่มีร่างกายไม่ต้องเจ็บปวดทรมานแบบมนุษย์อีกต่อไป(ที่ร่างกายมีนิพพานทางร่างกายที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงจนไม่ต้องง่วงเพลียอ่อนล้าหมดแรงจนนอนหลับอีกต่อไป, ที่ร่างกายของเราจะพร้อมสูงสุดเองอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องบังคับให้ร่างกายอดนอนแต่อย่างใด) จึงทำให้สามารถมีชีวิตร่ำรวยมหาศาลพ้นจากชนบทนรกมายาบนดินพลิกเปลี่ยนสู่มหานครสวรรค์บนดินไปตลอดกาลโดยไม่มีทางกลับมามีชีวิตยากจนลำบากทุกข์เจ็บปวดทรมานในชนบทอีกต่อไป...

2.)ข่วงหนีรอดตายจากการทำลายล้างดาวทั้งดวงโลกทั้งใบ-มีร่างกายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาชั้นสูงรูปพรหมชัันรูปภพที่สามารถมีความสุขร่ำรวยจนสามารถพร้อมใช้ชีวิตในจานบินยูเอฟโอในจักรวาลสวรรค์มายาเหนือโลกอย่างสนุกสบายไม่ตายสูงสุดได้(ในช่วงวิกฤติจุดเปลี่ยนชีวิตหนีรอดนั้นพระเจ้าจะทรงส่งทูตสวรรค์มนุษย์ต่างดาวให้เห็นด้วยตาเนื้อภายนอกให้มารับเราไปอยู่ด้วยในรูปของจานบินยูเอฟโอที่ส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดทางสสารที่ล่องลอยโดดเด่นเหนือความมืดมิดของโลก, ซึ่งจะทำให้เกิดนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องกลางที่มีพลังสูงสุดของพระเจ้าในระดับกลางที่จะส่งผลทำให้ดาวทั้งดวงโลกทั้งใบถูกทำลายล้าง ดาวนิบิรุจะพุ่งชนทำลายโลกให้เป็นจุลในพริบตาโลกจะแตกระะบิดเป็นนรกไฟบัลลัยกัลป์ที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดาวในโลกจะตายอย่างสยดสยองทุกข์ทรมานในนรกไม่ได้ผุดได้เกิดสามารถล้างแค้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ฆ่าล้างโลกมารศัตรูชีวิตได้อย่างสะใจสูงสุด).

โดยร่างกายเราจะสะสมนิพพานทางร่างกายจนถึงจุดๆหนึ่งที่ร่างกายสามารถมีความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงที่ร่างกายรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงได้ทั้งวันทั้งคืน(ร่างกายสุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน, โดยก่อนหน้านัันจะพักผ่อนทำงานเที่ยวรอบโลกในเมืองสากลมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์ทั่วโลกที่จะสามารถนอนหลับสบายในโรงแรมหรูห้าดาวทั่วโลก-กินอาหารสนุกในห้างหรูพลาซ่าอินเตอร์ทั่วโลกอย่างเต็มที่สูงสุดมาแล้วจนสามารถนอนหลับ-กินอาหารเต็มอิ่มสูงสุดไม่อยากนอนหลับ-กินอาหารอะไรในโลกอีกต่อไปแล้ว)จนสามารถไม่เจ็บไม่แก่ได้สูงสุดอย่างมั่นคงยาวนานสูงสุดจนมั่นใจสูงสุดว่าจะไม่มีทางกลับมาเจ็บมาแก่ได้อีกต่อไป, ที่เราจะพ้นจากความเป็นมนุษย์กลายเป็นเทวดาไปตลอดกาล. ที่จะเป็นรูปพรหมเทวดาชัันสูงชัันรูปภพที่มีร่างกายไม่ต้องเจ็บปวดทรมานไม่ต้องแก่ชราเสื่อมสภาพแบบมนุษย์อีกต่อไป(ที่ร่างกายมีนิพพานทางร่างกายที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงจนไม่ต้องง่วงเพลียอ่อนล้าหมดแรงจนนอนหลับ และ อิ่มภายในจนไม่หิวอยากกินอะไรอีกต่อไป, ที่ร่างกายของเราจะพร้อมสูงสุดเองอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องบังคับให้ร่างกายอดนอน-อดอาหารแต่อย่างใด) จึงทำให้สามารถมีชีวิตร่ำรวยมหาศาลพ้นจากนรกมายาบนดิน และ สวรรค์มายาบนดินในโลกพลิกเปลี่ยนสู่ห้วงอวกาศจักรวาลสวรรค์เหนือโลกไปตลอดกาลโดยไม่มีทางกลับมามีชีวิตยากจนลำบากทุกข์เจ็บปวดทรมานแก่ชราเสื่อมสภาพในโลกอีกต่อไป...

3.)ช่วงหนีรอดตายจากการทำลายล้างจักรวาลทั้งจักรวาล-มีร่างกายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาชั้นสูงสุดอรูปพรหมชั้นสูงสุดชัันอรูปภพชัันสูงสุดที่สามารถมีความสุขสูงสุดร่ำรวยสูงสุดจนสามารถพร้อมใช้ชีวิตร่วมกับพระเจ้าในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดอย่างสนุกสบายตลอดกาลไม่ต้องเกิดใหม่อีกได้(ในช่วงวิกฤติจุดเปลี่ยนชีวิตหนีรอดนั้นพระเจ้าจะทรงมารับเราด้วยตัวพระองค์เองในรูปของดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาลที่ส่องแสงสว่างจ้าสูงสุดทางธรรมชาติที่ล่องลอยโดดเด่นเหนือความมืดมิดของห้วงอวกาศจักรวาล, ซึ่งจะทำให้เกิดนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องปลายที่มีพลังสูงสุดของพระเจ้าในระดับสูงสุดที่จะส่งผลทำให้จักรวาลทั้งจักรวาลถูกทำลายล้าง จักรวาลจะบิ๊กครั๊นซ์หดตัวลงฉับพลันกลายเป็นสูญญากาศความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดตลอดกาลที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาลจะตายอย่างแท้จริงสูงสุดที่สูญสลายหายไปอย่างสิ้นเชิงตลอดกาลทำให้ตกนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดกาล, สามารถล้างแค้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ฆ่าล้างจักรวาลมารศัตรูชีวิตได้อย่างสะใจสูงสุด).

โดยร่างกายเราจะสะสมนิพพานทางร่างกายจนถึงจุดๆหนึ่งที่ร่างกายสามารถมีความสุขสูงสุดล้วนๆตลอดกาลโดยปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงที่ร่างกายรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงได้ทั้งวันทั้งคืน(ร่างกายสุขจนไม่ต้องนอนหลับไม่ต้องกินอาหารไม่ต้องหายใจติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน, โดยก่อนหน้านัันจะพักผ่อนเดินทางรอบจักรวาลด้วยโลกสากลจานบินยูเอฟโอที่จะสามารถนอนหลับทิพย์วิเศษในแคปซูล-กินอาหารทิพย์วิเศษแคปซูลเม็ด-ท่องเที่ยวทิพย์วิเศษทะลุมิติต่างๆทั่วจักรวาลอย่างเต็มที่สูงสุดมาแล้วจนสามารถนอนหลับ-กินอาหาร-ท่องเที่ยวเต็มอิ่มสูงสุดไม่อยากนอนหลับ-กินอาหาร-ท่องเที่ยวอีกต่อไปแล้ว, ที่ร่างกายของเราจะพร้อมสูงสุดเองอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องบังคับให้ร่างกายอดนอน-อดอาหาร-งดเที่ยวแต่อย่างใด)จนสามารถไม่เจ็บไม่แก่ไม่ตายไม่เกิดได้สูงสุดอย่างมั่นคงยาวนานสูงสุดจนมั่นใจสูงสุดว่าจะไม่มีทางกลับมาเจ็บมาแก่มาตายมาเกิดได้อีกต่อไป, ที่เราจะพ้นจากความเป็นมนุษย์กลายเป็นเทวดาไปตลอดกาล. กลายเป็นอรูปพรหมเทวดาชัันสูงสุดชัันอรูปภพชั้นสูงสุดที่มีร่างกายไม่ต้องเจ็บปวดทรมานไม่ต้องแก่ชราเสื่อมสภาพไม่ต้องตายขาดทุนล้มละลายทางชีวิตไม่ต้องวนเวียนมาเกิดใหม่ทางชีวิตแบบมนุษย์อีกต่อไป(ที่ร่างกายมีนิพพานทางร่างกายที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงจนไม่ต้องง่วงเพลียอ่อนล้าหมดแรงจนนอนหลับไม่ต้องหิวจนต้องกินอาหารไม่ต้องเบื่อจนต้องเที่ยวอีกต่อไป) จึงทำให้สามารถมีชีวิตร่ำรวยมหาศาลสูงสุดพ้นจากนรกมายา และ สวรรค์มายาทั้งหมดพลิกเปลี่ยนสู่สวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าไปตลอดกาลโดยไม่มีทางกลับมามีชีวิตยากจนลำบากทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนีัจักรวาลนี้อีกต่อไป...

ดังนั้น ยิ่งเราสะสมนิพพานทางร่างกายที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงของร่างกายมากเท่าไหร่ พระเจ้าก็จะทรงเปิดเผยตัวเป็นจุดแสงสว่างจ้าสูงสุดอย่างประจักษ์ชัดเจนแก่เรามากเท่านั้น(ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราค่อยๆกลายเป็นมายาเป็นกายทิพย์กายวิเศษมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะรู้สึกว่าร่างกายพลิกจากกายหยาบของร่างกายมนุษย์พลิกเปลี่ยนเป็นกายทิพย์กายวิเศษของกายเทวดาที่เบาบางละเอียดประณีตตัวเบาไร้น้ำหนักล่องลอยอิสระเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดในที่สุด, ที่จะทำให้เราสามารถหนีรอดจากนรกมายาพลิกเปลี่ยนสู่สวรรค์มายามากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถไปถึงสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าในที่สุด)...

-ตามแผนการของพระเจ้าจะให้เราเล่นเกมส์แสดงละครแสดงภาพยนตร์ชีวิตมายาแบบฉลาดเลือกปล่อยให้พวกมารศัตรูชีวิตตายใจนำไปก่อนให้คนชั่วคนบาปตัวร้ายฝ่ายซาตานลอยนวลเสวยสุขมายาตกเป็นขี้ข้าซาตานนำเราไปก่อนตามบทตามแผนตามพล๊อตเรื่องของละครของภาพยนตร์ทั่วไป แล้วเราค่อยนำมันค่อยเอาชนะมันในตอนสุดท้ายด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์พลังสูงสุดของพระเจ้าให้ทุกอย่างมันพลิกจากเดิมทั้งหมดในตอนสุดท้าย ให้มารศัตรูชีวิตคนชั่วคนบาปตัวร้ายฝ่ายซาตานได้รับบาปกรรมชดใช้บาปกรรมของมันในตอนสุดท้ายให้มันตายเหมือนหมาในนรกไม่ผุดได้เกิดตลอดกาล, เล่นบทบาทสบายๆชิลๆไปเรื่อยๆ รอหัวเราะทีหลังดังกว่า เพราะเรามั่นใจสูงสุดในพระเจ้าในพลังสูงสุดของพระเจ้า, คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง ใจเย็นๆร้อยปีล้างแค้นยังไม่สาย เพราะเราจะมีอายุไร้ขอบเขตขีดจำกัดมากกว่าล้านล้านกัปป์กัลป์ปีแสงแน่นอนในอนาคต แล้วเราจะได้ล้างแค้นแก้แค้นมันอย่างสะใจที่สุดสมที่รอคอยแน่นอนไม่ต้องห่วง....

-กายพร้อม-ใจพร้อมเราทำได้!!! เพียงแค่อดทนยอมเผชิญหน้าทำสงครามต่อสู้กับความทุกข์เจ็บปวดทรมานของร่างกายของเราโดยค่อยๆสะสมนิพพานทางร่างกายทีละนิดๆอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันๆ เพื่อทำลายล้างร่างกายเก่าร่างกายหยาบของมนุษย์ของเราให้พลิกเปลี่ยนเป็นร่างกายใหม่กายทิพย์กายวิเศษของเทวดาให้สูงสุดถึงขีดสุด, แล้วเราจะสามารถสามารถทำลายล้างดินแดนทั้งดินแดนเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นดินแดนใหม่เมืองสากลมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์ในมหานคร-ทำลายล้างดาวทั้งดวงโลกทั้งใบเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นดาวใหม่โลกใหม่โลกสากลยานอวกาศยูเอฟโอพลังจักรวาลในห้วงอวกาศเหนือโลก-สามารถทำลายล้างจักรวาลทั้งจักรวาลเพื่อรับของขวัญของรางวัลจากพระเจ้าเป็นโลกใหม่จักรวาลใหม่อันเป็นโลกหน้าจักรวาลหน้าตลอดกาล...

-ซึ่งจะเหมือนเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ทำการศัลยกรรมร่างกายใหม่ทั้งหมดด้วยพลังสูงสุดของพระเจ้าแบบหนังแฟรงเกนสไตน์ที่ทำการชุบชีวิตร่างกายหยาบของมนุษย์ที่เป็นซากศพที่ตายซากที่ทุกข์เจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหวขาดใจตายนั้นให้ฟื้นคืนชีพกลายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกาย, ด้วยการชาร์จพลังไฟฟ้านิพพานทางร่างกายที่จะปล่อยให้กระแสไฟฟ้านิพพานทางร่างกายไหลผ่านช๊อตร่างกายให้ชักกระตุกร่างกายโยกเยกไหวเอนไปมาอย่างรุนแรง, โดยจะทำการช๊อตร่างกายไปเรื่อยๆจนกระแสไฟฟ้านิพพานทางร่างกายไหลซึมผ่านเข้าไปยังทุกจุดทุกอณูของร่างกาย, ที่สามารถค่อยๆทำให้ร่างกายเก่าพลิกเปลี่ยนเป็นร่างกายใหม่ไปเรื่อยๆจนแบตเตอรี่เต็มกระแสไฟฟ้านิพพานทางร่างกายเต็มอย่างสูงสุด ที่จะสามารถทำให้ร่างกายกลายเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทวดาในระดับสูงสุดได้ในที่สุด...

-ถ้าเรามีร่างกายเป็นร่างกายมนุษย์อันเป็นกายหยาบของสัตว์นรก รับประกัน 100% ว่ายังไงเราต้องเจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหวขาดใจตาย(ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องแก่ และ จนตลอดไป)แบบมนุษย์คนทั่วไปส่วนใหญ่ในที่สุดแน่นอน, แต่ถ้าเรามีร่างกายเป็นร่างกายเทวดาที่มีนิพพานทางร่างกายเป็นอารมณ์สมาธิอันเป็นกายทิพย์กายวิเศษของเทพสวรรค์ รับประกัน 100% ว่ายังไงเราต้องปิติสุขสงบเป็นอมตะนิรันดร์ได้ถึงขีดสุด(ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายไม่ ต้องแก่ และ จนอีกตลอดกาล)แบบเทพเจ้าผู้วิเศษเหนือมนุษย์ในที่สุดแน่นอน...

-เมื่อเรากลับตัวกลับใจย้ายมาอยู่ฝ่ายพระเจ้าแล้ว, หน้าที่ของเรามีอย่างเดียวคือ กำจัดทำลายล้างสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นให้สิ้นซากสูงสุดด้วยความเกลียดสูงสุดจนมันกลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดให้ได้เท่านั้น. โดยมุ่งสนใจกำจัดทำลายล้างจิตเก่าๆ-ร่างกายเก่าๆ-ชีวิตเก่าๆที่เป็นจิตมนุษย์-ร่างกายมนุษย์-ชีวิตมนุษย์ของเราเองที่เป็นสัตว์นรกที่ทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายในนรกนั้นให้สิ้นซากสูงสุดเป็นหลัก จนสามารถพลิกเปลี่ยนเป็นจิตใหม่-ร่างกายใหม่-ชีวิตใหม่ที่เป็นจิตเทวดา-ร่างกายเทวดา-ชีวิตเทวดาที่เป็นเทพสวรรค์ที่ปิติสุขสงบเป็นอมตะนิรันดร์ในสวรรค์ชัันสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนไปถึงสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้าให้ได้เท่านั้น. ดังนั้น อย่าโง่เขลาไปหลงกลเป็นเหยื่อติดกับดักมายาการลวงหลอกของซาตาน มองมนุษย์แค่เปลือกภาพลวงตาภายนอก แค่ร่างกายภายนอก แค่พฤติกรรมนิสัยใจคอภายนอก จนขาดสติปัญญาไปสนใจรักมันเข้าเราจะหล่นสู่ความผิดพลาดตกจากสวรรค์ตกนรกกลายเป็นสัตว์นรกเป็นมนุษย์ที่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายทันที, จงสนใจรักแต่พระเจ้าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด แล้วเกลียดซาตานให้สูงสุดมุ่งสนใจกำจัดทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จักรวาลนี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานนั้นให้สิ้นซากสูงสุดกลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดให้ได้ แล้วเราจะได้ขึ้นสวรรค์มีความสุขที่สุดกับพระเจ้าในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดตลอดกาลในที่สุด...

-ตามแผนการของพระเจ้านั้นทรงกำหนดให้มิติที่ 0,1,2,3,4 เป็นมิติพื้นฐานหลักของการทำความดีหนีกลับคืนสู่พระเจ้าได้ จึงเป็นอานาจักรของซาตาน ที่เป็นนรกมายาของซาตาน ที่พระเจ้ากำหนดให้มารให้ซาตานควบคุมดูแลเร่งเร้าให้สิ่งต่างๆอันเป็นคนบาปสัตว์นรกที่มีกายหยาบในนรกทุกข์เจ็บปวดทรมานเกิด แก่ เจ็บ ตายในนรกจนทนไม่ไหวพยายามหาทางทำความดีหนีรอดกลับสู่พระเจ้าโดยพระเจ้าให้โอกาสกับทุกคนได้เลือกได้ว่าจะทำความดีหรือไม่? ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด, ส่วนมิติที่ 5,6,7,8,...ขึ้นไป เป็นมิติซับซ้อนที่เป็นดินแดนแห่งการเสวยผลบุญของการทำความดีนั้น จึงเป็นอานาจักรของพระเจ้าที่เป็นสวรรค์มายาของพระเจ้า อันเป็นสวรรค์รูปพรหมอรูปพรหมเหนือโลกของผู้มีบุญเทพเจ้าเทวดาพรหมที่เสวยวิมุตติสุขบรมสุขที่ปิติสุขสงบยาวนานเป็นอมตะนิรันดร์ปราศจากความทุกข์ด้วยกายทิพย์กายวิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องมีมารมีซาตานมาเร่งเร้าให้ทุกข์อีกต่อไป, แต่ทุกมิติทั้งหมดในโลกนี้จักรวาลนี้ล้วนถือเป็นมายาที่ล้วนเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานทั้งหมด ที่แม้เราจะสามารถเป็นอรูปพรหมระดับเกือบสูงสุดที่มิติลู่เข้าใกล้อนันต์นั้นก็ยังมีโอกาสตกนรกกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในมิติที่ต่ำกว่าได้, เราจึงฉลาดเลือกที่จะมุ่งสนใจรักแต่พระเจ้าอันเป็นสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดแต่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่แม้เราจะสามารถวิวัฒนาการจนสามารถเสวยผลบุญในอานาจักรของพระเจ้าไปถึงมิติลู่เข้าใกล้อนันต์ได้แล้วก็ตาม แต่เมื่อถึงจุดนั้นเราก็จะทำการดับขันธ์ปรินิพพานเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุดที่ปราศจากมิติใดๆสิ้นเชิงแม้แต่ 0 มิติก็ไม่มีเพราะมิติต่างๆทั้งหมด(อันเป็นมิติที่ 0,1,2,3,4,5,6,7,8,...)ในโลกนี้จักรวาลนี้จะกลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดไปนั่นเอง, จึงโชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นอริศัตรูกับมนุษย์ทั้งจักรวาล แค่ทำตัวเป็นอริศัตรูกับมนุษย์ที่เป็นมารสัตว์นรกคนบาปของพระเจ้าในยุคพลังงานเก่าเท่านั้น แต่กับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเทพสวรรค์คนมีบุญของพระเจ้าเขาจะเป็นมิตรกับเราที่จะเป็นทูตสวรรค์ตัวแทนของพระเจ้าส่งมาคุ้มครอง-ช่วยเหลือ-ดูแลเราอย่างดีที่สุดในยุคพลังงานใหม่...

-บรรพบุรุษต้นกำเนิดเดิมแท้ของมนุษย์โลกของเราก็คือ เทพสวรรค์มนุษย์ต่างดาว หรือ cosmic being รูปธรรมชั้นสูงจากจักรวาลต่างมิติ หรือ คุรุแห่งแสง หรือ ทูตสวรรค์ของพระเจ้านั้น อันเป็นพรหมที่เป็นเทวดาชั้นสูง(อาภัสราพรหมในตำนานเรื่องเล่า)ที่มีพลังใจสำเร็จทางใจได้ฌานสมาบัติ ที่มีกายทิพย์กายวิเศษที่บริสุทธิ์สะอาด สว่าง สงบ มีกายทิพย์ที่โปร่งแสงโปร่งใสมีรัศมีแผ่ซ่านสวยงาม, กินปิติสุขเป็นอาหาร, เดินทางสัญจรทางอากาศตัวเบาล่องลอยไร้น้ำหนักเหาะเหินเดินอากาศ พักอาศัยในวิมานอันสวยงามในสวรรค์เหนือโลกที่มีอายุยืดยาวช้านานมหาศาล, โดยการใช้ปัญญาสูงสุดทำให้เกิดการผลิตสร้างนิพพานทางจิตอันเป็นสติสูงสุดนั้นขึ้นมาก่อน แล้วค่อยเอานิพพานทางร่างกายที่ร่างกายรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านหนาวเย็นยะเยือกสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงของร่างกายที่เกิดตามมานั้นเป็นอารมณ์สมาธิซ้ำไปอีกที จนสามารถเกิดเป็นนิพพานสมาบัติที่มั่นคงยาวนานถึงขีดสุดด้วยนิพพานทางร่างกายได้ฝังลึกที่สุดในร่างกายในทุกจุดทุกอณูของร่างกายนั้นได้ในที่สุด, จึงทำให้มนุษย์โลกที่สามารถวิวัฒนาการกลายเป็นเทพสวรรค์ด้วยนิพพานสมาบัติสามารถมีชีวิตเป็นอมตะนิรันดร์ในสวรรค์เหนือโลกนี้จักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุดโดยไม่ต้องทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกแบบมนุษย์ที่เป็นมารสัตว์นรกนั้นอีกต่อไป, ที่จะมีพลังใจสำเร็จทางใจสูงสุดที่จะรู้สึกสุขใจ-อิ่มใจ-พอใจอย่างสูงสุดด้วยนิพพานจนสามารถได้นิพพานสมาบัติสามารถมีกายทิพย์กายวิเศษที่บริสุทธิ์สะอาด สว่าง สงบ มีกายทิพย์ที่โปร่งแสงโปร่งใสมีรัศมีแผ่ซ่านสวยงามด้วยนิพพานทางร่างกาย, กินปิติสุขอันเป็นนิพพานทางร่างกายเป็นอาหาร, เดินทางสัญจรทางอากาศตัวเบาล่องลอยไร้น้ำหนักเหาะเหินเดินอากาศ พักอาศัยในวิมานอันสวยงามในสวรรค์เหนือโลกที่มีอายุยืดยาวช้านานมหาศาลได้ด้วยนิพพานสมาบัติเช่นเดียวกับอาภัสราพรหม, ที่จะสามารถดับขันธ์ปรินิพพานในสวรรค์เหนือโลกมิติลู่เข้าใกล้อนันต์จนสามารถกลายเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุดไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปที่จะต่างจากอาภัสราพรหมที่ยังมีโอกาสตกสวรรค์กลับมาเวียนว่ายตายเกิดได้อีกนั้นเพราะภพภูมิของอาภัสราพรหมเป็นภพภูมิเสวยผลบุญในมิติที่ 5,6,7,8,... ที่ไม่สามารถทำการพ้นทุกข์ถอยย้อนมิติหนีเข้าสู่พระเจ้าแบบภพภูมิมนุษย์ใน 0,1,2,3,4 มิติได้นั้น, ตรงนี้จึงทำให้เทพสวรรค์มนุษย์ต่างดาวยกย่องเคารพบูชามนุษย์โลกที่ได้นิพพานสมาบัติจนสามารถวิวัฒนาการกลายเป็นเทพสวรรค์เช่นเดียวกับพวกเขาได้นั้นเพราะจะสามารถพ้นทุกข์เข้าสู่พระเจ้าได้ในขณะที่เทพสวรรค์มนุษย์ต่างดาวทำแบบนี้ไม่ได้นั่นเอง..

-เมื่อเราสามารถมีพลังใจสูงสุดสำเร็จทางใจสูงสุดที่จะรู้สึกสุขใจ-อิ่มใจ-พอใจอย่างสูงสุดด้วยนิพพานทางจิตที่จะทำให้เกิดนิพพานทางร่างกายจนทำให้เราสามารถมีนิพพานสมาบัติได้อย่างมั่นคงยาวนานทั้งวันทั้งคืนได้เแล้ว เราย่อมเป็นเทพสวรรค์ที่สามารถพักอาศัยในวิมานที่สวยงามในสวรรค์ได้แน่นอน, เราต้องรวยมีเงินทองทรัพย์สมบัติมหาศาลสามารถพักอาศัยในวิมานในสวรรค์บนดินอันเป็นเมืองสากลมิกส์ยูสคอมเพล็กซ์ที่สวยงามทันสมัยล้ำยุคในมหานครได้แน่นอน...

-สรุปเรื่องของเรื่องทั้งหมด กุญแจดอกสำคัญก็คือ ตัวจิตตัวรู้ หรือ ตัวเราที่แท้จริง นั่นเอง, เพราะ ถ้าเราสามารถทำให้ตัวจิตตัวรู้มีพลังสูงสุดโดยปัญญาสูงสุดแล้ว เราจะเกิดสติสูงสุดที่จะนิพพานกลายเป็นพระเจ้าที่จะรู้สึกสุขอย่างสูงสุดมีพลังสูงสุด ที่จะพ้นทุกข์สูงสุดเพราะสิ่งต่างๆในโลกในจักรวาลนี้จะกลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ไร้พลังอำนาจที่จะทำให้เราสามารถทุกข์ได้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงทันทีเองอัตโนมัติ(อันจะส่งผลทำให้ตัวเรามายาในโลกนี้จักรวาลนี้สามารถค่อยๆมีความสุขมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำให้เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกนี้เหนือจักรวาลนี้ได้ถึงขีดสุดที่สามารถมีความสุขสูงสุดมีพลังสูงสุดได้เช่นเดียวกับพระเจ้าในที่สุด) และ ถ้าเราปล่อยให้จิตคิดนึกปรุงแต่งฟุ้งซ่านขาดสติขาดปัญญาที่จะให้จิตตัวรู้มัวแต่ไปสนใจรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ ซึ่งก็จะทำให้สิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้ค่อยๆมีพลังอำนาจเหนือกว่าตัวเราที่แท้จริง หรือ ตัวจิตตัวรู้นั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็จะทำให้ตัวเราจะต้องพบกับความทุกข์อย่างสูงสุดแทนในที่สุด(อันจะส่งผลทำให้ตัวเรามายาในโลกนี้จักรวาลนี้ค่อยๆทุกข์หมดแรงเสื่อมพลังแก่ชราลงเรื่อยๆจนต้องตายด้วยความทุกข์อย่างสูงสุดไร้พลังสูงสุดวนเวียนในโลกนี้จักรวาลนี้ไม่รู้จบอยู่ร่ำไปในที่สุด), แต่เราจะไม่พยายามรักษาฌานรักษาสติให้จิตมีสติตลอดเวลาแบบทางธรรมโดยเราจะทำนิพพานทางจิตให้เกิดขึ้นมาก่อน แล้วค่อยเอานิพพานทางร่างกายที่เป็นผลที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นอารมณ์สมาธิอีกที เพื่อสะสมนิพพานทางร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ร่างกายมีความสุขสูงสุดมีพลังสูงสุดจนสามารถสดชื่นตื่นตัวตื่นได้ตลอดเวลาไม่ต้องอ่อนเพลียหมดแรงนอนหลับอีกต่อไป ซึ่งก็จะทำให้จิตเราสามารถมีสติตลอดเวลาตามไปด้วยได้ทันทีเองอัตโนมัติ. จึงทำให้เรามีร่างกายที่รู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวมีพลังสูงสุดจากภายในที่ลึกที่สุดของร่างกายที่ปราศจากความทุกข์สิ้นเชิงของร่างกายคล้ายกับเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ในทางโลกแทน, แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเดินบนทางธรรม หรือ ทางโลกแต่อย่างใด..

-คนที่มีปัญญาสูงสุดย่อมเหมือนกับคนที่มีการศึกษาสูงๆที่สามารถมีโอกาสได้งานดีๆมีรายได้สูงๆที่จะทำให้ชีวิตมีคุณภาพสูงๆตามไปด้วย, ที่จะเป็นความคิดที่ดีที่สุดเราจะมีการทำงานที่ดีที่สุดเพื่อให้เราสามารถมีชีวิตที่ดีที่สุดในอนาคต, ซึ่งจะเพียงแค่ผ่อนคลายทำสมาธิท่องปัญญาสูงสุดให้เต็มที่เต็มกำลังสูงสุดของเราให้ได้เท่านั้น ที่จะใช้ความคิดฝ่ายดีที่สนใจพระเจ้าเอาชนะความคิดฝ่ายชั่วที่สนใจซาตานอันเป็นสิ่งต่างๆในโลกนี้ในจักรวาลนี้นั้นให้ได้เท่านั้น, ธรรมะย่อมชนะอธรรมเมื่อความคิดฝ่ายดีเอาขนะความคิดฝ่ายชั่วได้เราก็สามารถกำจัดซาตานออกไปจากชีวิตเราได้เราย่อมมีชีวิตนิรันดร์ร่วมกับพระเจ้าตลอดกาล...

-คนโง่เขลาชอบแก้ปัญหาปากท้องก่อน(แก้ที่ผลอันเป็นความสุขทางร่างกายก่อน), แต่คนฉลาดจะแก้ปัญหาจิตใจจิตวิญญาณก่อน(แก้ที่สาเหตุอันเป็นความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณก่อน), ซึ่งเมื่อเราสามารถมีความสุขทางจิตใจจิตวิญญาณอย่างสูงสุดได้แล้วก็จะหมดปัญหาทุกอย่างไปทันทีเพราะเราจะนิพพานกลายเป็นพระเจ้าที่จะรู้สึกสุขใจ-อิ่มใจ-พอใจอย่างสูงสุดจนไม่มีความจำเป็นต้องอยากรู้-อยากรับรู้-อยากลุถึง-อยากรู้สึกถึงใครอะไรสิ่งใดในโลกนี้ในจักรวาลนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงเพราะมันจะกลายเป็นความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่ไร้พลังอำนาจใดๆสำหรับเราไปทันทีเองอัตโนมัติ, แต่คนโง่เขลาจะมีความสุขทางปากท้องทางชีวิตที่เป็นเพียงสุขมายาเปลือกนอก, แต่ความสุขที่แท้จริงสูงสุดแก่นแท้ภายในสูงสุดไม่เคยรู้สึกถึง ได้เลย จึงสุขแบบไม่รู้จักพอไม่รู้จักอิ่ม เดี๋ยวก็ทุกข์อีกเดี๋ยวก็หิวอีก หยุดไม่ได้ต้องพยายามดิ้นรนหาความสุขอยู่ตลอดเวลา ต้องตกเป็นทาสความสุขมายาไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด...

-โดยความจริงที่สุดแล้วโลกนี้จักรวาลนี้เป็นเพียงความว่างอย่างแท้จริงสูงสุดที่เป็นความตายอย่างแท้จริงสูงสุดที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยขาดสูญไม่ต่อเนื่องดับสูญไม่มีอยู่เลยอย่างสิ้นเชิงตลอดกาล, ดังนั้น มนุษย์ทุกคน และ ทุกสรรพชีวิตในโลกนี้จักรวาลนี้จึงล้วนเป็นภูตผีวิญญาณที่ตายไปแล้วทั้งนั้น ที่ล้วนตายจากความเป็นอมตะนิรันดร์ของพระเจ้า ที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถมีชีวิตอยู่จริงๆได้เลย, แต่ซาตานลวงหลอกให้เรารู้สึกเหมือนว่าเรามีชีวิตอยู่ด้วยความโง่เขลาอวิชชาความไม่รู้ด้วยซาตานจะได้เก็บเราไว้เป็นทาสรับใช้ในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดตลอดไปให้เราเวียนว่ายตายเกิดในนรกต้องทนตายซ้ำๆๆๆไม่รู้จบไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดไป, ดังนั้น คนฉลาดที่รู้แจ้งสูงสุดแล้วจึงยอมตายในโลกนี้จักรวาลนี้ซ้ำไปอีกที เพื่อให้สามารถรอดตายหนีไปเกิดใหม่ฟื้นคืนชีพมีชีวิตใหม่ในโลกหน้าจักรวาลหน้าร่วมกับพระเจ้าในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดได้ตลอดกาลได้ในที่สุด...

-1.)ยอมตายอย่างสูงสุด(ดับขันธ์นิพพานกลายเป็นพระเจ้า)ในชนบทนรกมายาบนดินในโลกด้วยนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องต้นจนสามารถทำลายล้างดินแดนได้ทั้งดินแดน เพื่อฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ร่ำรวยอย่างสูงสุดในมหานครสวรรค์มายาบนดินในโลกของเทวดาเดินดิน.

2.)ยอมตายอย่างสูงสุด(ดับขันธ์นิพพานกลายเป็นพระเจ้า)ในนรกมายาในโลกมนุษย์ด้วยนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องกลางจนสามารถทำลายล้างดาวได้ทั้งดวงโลกได้ทั้งใบ เพื่อฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ร่ำรวยอย่างสูงสุดในจักรวาลสวรรค์มายาเหนือโลกของพรหมเทวดา.

3.)ยอมตายอย่างสูงสุด(ดับขันธ์ปรินิพพานกลายเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์สูงสุด)ในนรกมายาในจักรวาลอันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตานด้วยนิพพานสมาบัติระดับสูงสุดที่มีนิพพานทางชีวิตเป็นอารมณ์สมาธิในเบื้องปลายจนสามารถทำลายล้างจักรวาลได้ทั้งจักรวาล เพื่อฟื้นคืนชีพเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ร่ำรวยอย่างแท้จริงสูงสุดในสวรรค์อันแท้จริงชั้นสูงสุดของพระเจ้า....

-ความโกรธความแค้นอาฆาตพยาบาทจองเวรคือไฟคือแรงพลังแห่งความสำเร็จที่พระเจ้าให้มาเพื่อฆ่าสังหารสัตว์นรกมารศัตรูชีวิตทั้งหมดอันเป็นซาตานให้สิ้นซากไดัในที่สุด, อย่าใจอ่อนให้ซาตานอันชั่วร้ายสารเลวสมควรตาย จงโกรธแค้นมันให้เต็มที่สุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเราแล้วจะสามารถกำจัดมันสิ้นซากได้ในที่สุด.จะสู้กับซาตานมารสัตว์นรกจะต้องอย่ามีคำว่าเมตตาปราณีกับมันแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียวมันจะต้องตายเหมือนหมาในนรกตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิดสถานเดียวเท่านั้น เพราะซาตานมันไม่เคยเมตตาปราณีให้อะไรสิ่งใดในโลกในจักรวาลสามารถรอดตายได้แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว. ถ้าเราไม่ฆ่ามัน มันก็จะฆ่าเราทันทีให้เราต้องเผลอประมาทขาดสติตายในนรกไม่ได้ผุดได้เกิดตกเป็นทาสมันตลอดไป, ดังนั้น ความเมตตาปรานีความรักสงสารเห็นใจเอ็นดูอาจใช้ได้ในสังคมมนุษย์ แต่ใช้ไม่ได้กับซาตาน...

-คนที่รู้แจ้งแล้วฉลาดเลือกที่จะรักแต่พระเจ้า เพราะพระเจ้าเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา-ตลอดชีวิต-ตลอดกาล, ไม่มีใครรักเราจริงๆยอมลำบากยอมตายไปกับเราจริงๆหรอก มันแค่รักลวงในโลกเงื่อนไขผลประโยชน์ของการเป็นมิตรกัน-เป็นแฟนกัน-เป็นพ่อแม่ลูกกันเท่านัันเอง, คนโง่อย่างพวกมนุษย์จึงถูกซาตานหลอกให้ตายร่วมกับมันอยู่ร่ำไป ดิ้นรนแต่หารักแท้ในโลกมายาถึงทำได้สุดท้ายตอนตายก็ไปนรกของใครของมันเพราะจริงๆล้วนเป็นเพียงความว่างเท่านั้น, มุ่งเอาดีในโลกนี้สุดท้ายไม่ได้อะไรสักอย่าง...

-วันนี้เกือบตาย หายใจไม่ออกเกือบขาดใจตายไปแล้ว ปาฏิหาริย์พระเจ้าช่วยไว้แท้ๆเลยรอดมา, ขอบคุณพระเจ้าที่สุดๆๆๆ, ความตายอยู่ใกล้เราแค่นี้เอง, สุขภาพร่างกายสำคัญต้องดูแลให้ดีที่สุด อย่าประมาทว่าเราสุขภาพดีทำตัวแย่ๆจนสุขภาพพัง, ต้องรีบสะสมนิพพานให้เยอะๆ สุขภาพทุกอย่างก็จะดีทั้งหมดเอง....

-เกือบตายวันนั้นมันเป็นบทเรียนสอนใจเราอย่างดีที่สุดว่าเราไม่ควรประะมาทนอนหลับไหลหมดสติหมดแรงเยอะๆมากๆเข้าทุกวันๆจนร่างกาย และ ชีวิตของเราค่อยๆขาดพลังลงเรื่อยๆจนร่างกายแทบไม่มีแรงหายใจ ชีวิตแทบไม่มีพลังไปต่อ, มันทรมานสาหัสมากที่ร่างกายหายใจไม่ได้หายใจไม่ออกร่างกายต้องทรมานจนขาดใจตายสถานเดียวเท่านั้น ที่เราจะไม่วันลืมมันไปจนวันตาย, วันนี้รอดชีวิตมาได้เพราะปาฏิหาริย์ของพระเจ้าขอบคุณพระเจ้าที่ให้บทเรียน และ ช่วยเหลือเรา, เราจึงเห็นความสำคัญคุุณค่าของลมหายใจของการมีสติอยู่ตลอดเวลานั้นอย่างสูงสุด, เราจึงทุ่มเทพยายามหายใจอย่างเต็มที่เต็มกำลังเท่าที่จะทำได้เอาให้มันสุขที่สุดจนมั่นใจสูงสุดว่าไม่มีทางกลับไปทุกข์เจ็บปวดทรมานหายใจไม่ได้หายใจไม่ออกหายใจไม่ออกจนต้องเกือบตายแบบวันนั้นอีกแน่นอน, ชีวิตมันต้องสู้จะยอมแพ้ให้กับชีวิตไม่ได้คงต้องตายแน่นอนถ้าเราไม่สู้ชีวิต,เมื่อเราต่อสู้เอาชนะชีวิตของเราได้เราย่อมไม่มีวันตายอีกต่อไปแน่นอน เพราะเราจะเป็นอมตะนิรันดร์ร่วมกับพระเจ้าตลอดกาล....

-คนเราทุกคนล้วนตกเป็นทาสตกเป็นหนี้ชีวิตมายาในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของซาตาน, ที่ซาตานสามารถทวงชีวิตมายาจากเราที่จะจู่โจมทำให้เราทุกข์เจ็บปวดทรมานจนขาดใจตายได้ตลอดเวลา, ดังนั้น จงพยายามอย่าประมาทเอาตัวรอดเป็นยอดดีให้เราเตรียมพร้อมหนีกลับสู่พระเจ้าอันเป็นตัวเราที่แท้จริงสูงสุดนั้นให้ได้อยู่เสมอ....

-สรุปย่อเชิงปฏิบัติการ

1.)คิดดีสูงสุด(ช่วงเล้าโลม) : คิดถึงแต่พระเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด-จุดหนึ่งเดียวสูงสุด-ดวงอาทิตย์สูงสุดจุดศูนย์กลางศูนย์รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างแท้จริงสูงสุดที่รวมตัวอัดแน่นสูงสุด-ใหม่สดเข้มข้นสูงสุด-แข็งแกร่งทรงพลังต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดสูงสุดตลอดกาล...

2.)ทำดีสูงสุด(ช่วงปฏิบัติการ) : ฝึกจิตทรมานจิตรวมพลังจิตทั้งหมดอย่างสูงสุดให้ตัวจิตตัวรู้สนใจรู้แต่ตัวจิตตัวรู้เองล้วนๆเพียงตัวจิตตัวรู้เดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด...

3.)ย่อมได้ดีสูงสุด(ช่วงผ่อนคลายเสวยสุข) : มองโลกนี้จักรวาลนี้เป็นเพียงมายาสูงสุดที่ไม่ต่างไปจากความว่างอย่างแท้จริงสูงสุด, ที่ล้วนค่อยๆเจือจางเบาบางจนอ่อนแรงหมดพลังเสื่อมสลายหายไปจนว่างเปล่าขาดสูญไม่มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิงตลอดกาล....

ค้นหาบล็อกนี้

The maximum power of maximum sun of universe God...

พลังอันสูงสุดแห่งพระเจ้าดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาล(The maximum power of maximum sun of universe God)...

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

พลัง​อันสูงสุด​แห่งพระเจ้า​ดวงอาทิตย์​สูงสุดของจักรวาล​(The​ maximum​ power​ of​ maximum​ sun​ of​ universe​ God)...

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

พลังอันสูงสุดแห่งพระเจ้าดวงอาทิตย์สูงสุดของจักรวาล(The maximum power of maximum sun of universe God)...